นักบริหารโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ มองประเทศไทย อัตราค่าห้องพักโรงแรมต่ำมาก ทั้งที่มีของดี แนะค่อยขยับราคาขาย ชูจุดเด่นให้เป็นจุดขาย ด้านโฟร์ซีซั่นส์ เมินเล่นสงครามราคา ปีนี้ปรับราคาขึ้นห้องพัก 6% เดินหน้า เปิดอีก 4 แห่งในเอเชีย
นายรามี่ ซาเยส รองประธานภาค และผู้จัดการใหญ่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ และดูแลโฟร์ซีซั่นส์รีสอร์ท อีก 3 แห่ง ในประเทศไทย คือ เชียงใหม่ เชียงราย และ เกาะสมุย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาโรงแรมในประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยต่ำมาก เมื่อเทียบกับบริการและความคุ้มค่าที่แขกได้รับ โดยเฉพาะที่กรุงเทพฯซึ่งเป็นเมืองหลวงใหญ่แห่งหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการท่องเที่ยว จึงต้องการให้ผู้ประกอบการโรงแรมร่วมมือกัน ด้วยการไม่ขายตัดราคา ส่วนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็สนับสนุนด้านนโยบาย
“ทุกวันนี้ช่องว่างราคาระหว่างโรงแรมในประเทศไทยกับโรงแรมที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ต่างกันหลายเท่าตัว หรือแม้แต่ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ซึ่งตามเราอยู่แต่ราคาโรงแรมก็แพงกว่า เฉพาะแบรนด์โฟร์ซีซั่นส์เองก็ยังแตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับโฟร์ซีซั่นส์ที่อยู่ในประเทศอื่นๆ”
สิ่งที่ดีของประเทศไทย คือ ทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น โรคระบาดซาร์ส ภัยก่อการร้าย ผลจากการเมืองในประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อปลายปี 2554 ล่าสุด ข่าวเตรียมก่อการร้ายในประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะกลับเข้ามาเร็วทุกครั้งเมื่อเรื่องจบลง สะท้อนให้เห็นว่า ต่างชาติยังมีความชื่นชอบประเทศไทยและพร้อมที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว จึงต้องการขอให้ คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวผู้ประกอบการโรงแรม ให้ความสำคัญด้านการบริการ เพราะเป็นเสน่ห์ของประเทศไทยที่ประเทศอื่นๆไม่มี ปี 2555 ยังมั่นใจว่า ท่องเที่ยวของประเทศไทย จะคึกคัก เติบโตเข้าสู่ภาวะปรกติ
นายซาเยส กล่าววว่า ในส่วนของโฟร์ซีซั่น สัญญาณธุรกิจที่ดีในปีนี้เริ่มมองเห็นแล้ว โดยดูจาก ยอดจองเข้าพักโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เดือนก.พ.และ มี.ค. นี้ เฉลี่ยที่ 70%และ 80% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นการเติบโตจาก การจัดประชุมขนาดใหญ่ เช่น งานโรตารี่สากล ที่กำลังจะมาถึง ส่วนที่เกาะสมุย ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเติบโตกว่าที่คาดการณ์และจะโตต่อเนื่องในปีนี้เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีอัตราเข้าพักกว่า 70% ขณะที่ เชียงใหม่และ เชียงราย อัตราเข้าพัก และ ยอดจอง ก็ดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ทำให้รายได้รวมปี2554 โตกว่า 13-15% ปีนี้ก็จะโตต่อเนื่อง โดยภาพรวมคาดตลาดจะเติบโตราว 5-6% แต่ละตลาดโตไม่เท่ากัน
ตลาดใหม่ๆ ที่เติบโตสูงและเป็นอีกเป้าหมายลูกค้าสำคัญของโฟร์ซีซั่นปีนี้ คือ ประเทศย่านเอเชีย เช่น จีน ปีก่อนเติบโต 6% ตะวันออกกลาง ปีก่อนโต 2% ปีนี้ จะโตมากกว่าเท่าตัว อินเดีย เกาหลี รัสเซีย ในส่วนของโฟร์ซีซั่นส์ ปีนี้ปรับขึ้นราคาห้องพัก 5-6% ตั้งแต่ ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ปรับราคาก็ยังต่ำกว่าประเทศอื่น โดยอัตราเข้าพักเฉพาะในกรุงเทพฯของเราเดือน ม.ค. เฉลี่ยที่ 60% ยอมรับว่าผลของน้ำท่วม กระทบให้ โฟร์ซีซั่นกรุงเทพฯปีก่อน โตน้อยกว่าเป้าหมาย ทั้งที่ช่วงต้นปีอัตราเข้าพักดีมาโดยตลอดหรือเฉลี่ย 60-70%
แผนปีนี้ โฟร์ซีซั่นส์ กรุ๊ป จะเปิดโรงแรมเพิ่มในอีกหลายประเทศในเอเชีย รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่เดินทางมาแถบนี้เพิ่มขึ้น โดยจะเปิด ที่ มุมไบ ประเทศอินเดีย , ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และ อีก 2 แห่งในประเทศจีน คือ ปักกิ่ง และ หางโจว ส่วนในประเทศไทย อาจมีเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง
สำหรับโฟร์ซีซั่นกรุงเทพฯจะครบ 30 ปี ในปี 2556 ซึ่งจะทยอยรีโนเวตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ สถานที่ดูสดใหม่ ทันสมัย ตลอดเวลา การบริการเราให้ความสำคัญทั้งกับ ห้องพัก และ ร้านอาหาร ซึ่งทำให้ มีรายได้ จากทั้ง สองธุรกิจ เกือบจะอย่างละ 50% เพราะร้านอาหารสามารถอยู่ได้ด้วยแบรนด์ของตัวเอง
ทั้งนี้นายราเยส ทำงานในธุรกิจโรงแรมมานานกว่า 20 ปี ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ลอนดอน บาห์เรน เลบานอน คูเวท จอร์แดน โดยเข้ามาประจำประเทศไทยเมื่อเดือน ก.ย. 54
นายรามี่ ซาเยส รองประธานภาค และผู้จัดการใหญ่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ และดูแลโฟร์ซีซั่นส์รีสอร์ท อีก 3 แห่ง ในประเทศไทย คือ เชียงใหม่ เชียงราย และ เกาะสมุย เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาโรงแรมในประเทศไทยมีราคาเฉลี่ยต่ำมาก เมื่อเทียบกับบริการและความคุ้มค่าที่แขกได้รับ โดยเฉพาะที่กรุงเทพฯซึ่งเป็นเมืองหลวงใหญ่แห่งหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการท่องเที่ยว จึงต้องการให้ผู้ประกอบการโรงแรมร่วมมือกัน ด้วยการไม่ขายตัดราคา ส่วนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็สนับสนุนด้านนโยบาย
“ทุกวันนี้ช่องว่างราคาระหว่างโรงแรมในประเทศไทยกับโรงแรมที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ต่างกันหลายเท่าตัว หรือแม้แต่ ลาว กัมพูชา เวียดนาม ซึ่งตามเราอยู่แต่ราคาโรงแรมก็แพงกว่า เฉพาะแบรนด์โฟร์ซีซั่นส์เองก็ยังแตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับโฟร์ซีซั่นส์ที่อยู่ในประเทศอื่นๆ”
สิ่งที่ดีของประเทศไทย คือ ทุกครั้งไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดๆที่ทำให้กระทบต่อการเดินทางท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น โรคระบาดซาร์ส ภัยก่อการร้าย ผลจากการเมืองในประเทศ สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ เมื่อปลายปี 2554 ล่าสุด ข่าวเตรียมก่อการร้ายในประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะกลับเข้ามาเร็วทุกครั้งเมื่อเรื่องจบลง สะท้อนให้เห็นว่า ต่างชาติยังมีความชื่นชอบประเทศไทยและพร้อมที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว จึงต้องการขอให้ คนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวผู้ประกอบการโรงแรม ให้ความสำคัญด้านการบริการ เพราะเป็นเสน่ห์ของประเทศไทยที่ประเทศอื่นๆไม่มี ปี 2555 ยังมั่นใจว่า ท่องเที่ยวของประเทศไทย จะคึกคัก เติบโตเข้าสู่ภาวะปรกติ
นายซาเยส กล่าววว่า ในส่วนของโฟร์ซีซั่น สัญญาณธุรกิจที่ดีในปีนี้เริ่มมองเห็นแล้ว โดยดูจาก ยอดจองเข้าพักโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เดือนก.พ.และ มี.ค. นี้ เฉลี่ยที่ 70%และ 80% ตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นการเติบโตจาก การจัดประชุมขนาดใหญ่ เช่น งานโรตารี่สากล ที่กำลังจะมาถึง ส่วนที่เกาะสมุย ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเติบโตกว่าที่คาดการณ์และจะโตต่อเนื่องในปีนี้เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีอัตราเข้าพักกว่า 70% ขณะที่ เชียงใหม่และ เชียงราย อัตราเข้าพัก และ ยอดจอง ก็ดีขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ทำให้รายได้รวมปี2554 โตกว่า 13-15% ปีนี้ก็จะโตต่อเนื่อง โดยภาพรวมคาดตลาดจะเติบโตราว 5-6% แต่ละตลาดโตไม่เท่ากัน
ตลาดใหม่ๆ ที่เติบโตสูงและเป็นอีกเป้าหมายลูกค้าสำคัญของโฟร์ซีซั่นปีนี้ คือ ประเทศย่านเอเชีย เช่น จีน ปีก่อนเติบโต 6% ตะวันออกกลาง ปีก่อนโต 2% ปีนี้ จะโตมากกว่าเท่าตัว อินเดีย เกาหลี รัสเซีย ในส่วนของโฟร์ซีซั่นส์ ปีนี้ปรับขึ้นราคาห้องพัก 5-6% ตั้งแต่ ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ปรับราคาก็ยังต่ำกว่าประเทศอื่น โดยอัตราเข้าพักเฉพาะในกรุงเทพฯของเราเดือน ม.ค. เฉลี่ยที่ 60% ยอมรับว่าผลของน้ำท่วม กระทบให้ โฟร์ซีซั่นกรุงเทพฯปีก่อน โตน้อยกว่าเป้าหมาย ทั้งที่ช่วงต้นปีอัตราเข้าพักดีมาโดยตลอดหรือเฉลี่ย 60-70%
แผนปีนี้ โฟร์ซีซั่นส์ กรุ๊ป จะเปิดโรงแรมเพิ่มในอีกหลายประเทศในเอเชีย รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่เดินทางมาแถบนี้เพิ่มขึ้น โดยจะเปิด ที่ มุมไบ ประเทศอินเดีย , ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตต์ และ อีก 2 แห่งในประเทศจีน คือ ปักกิ่ง และ หางโจว ส่วนในประเทศไทย อาจมีเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง
สำหรับโฟร์ซีซั่นกรุงเทพฯจะครบ 30 ปี ในปี 2556 ซึ่งจะทยอยรีโนเวตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ สถานที่ดูสดใหม่ ทันสมัย ตลอดเวลา การบริการเราให้ความสำคัญทั้งกับ ห้องพัก และ ร้านอาหาร ซึ่งทำให้ มีรายได้ จากทั้ง สองธุรกิจ เกือบจะอย่างละ 50% เพราะร้านอาหารสามารถอยู่ได้ด้วยแบรนด์ของตัวเอง
ทั้งนี้นายราเยส ทำงานในธุรกิจโรงแรมมานานกว่า 20 ปี ในกว่า 10 ประเทศทั่วโลก อาทิ เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ ลอนดอน บาห์เรน เลบานอน คูเวท จอร์แดน โดยเข้ามาประจำประเทศไทยเมื่อเดือน ก.ย. 54