อ่า! ปรากฏการณ์ “โฟร์ซีซั่น” เกี่ยวโยงกับนารีหน้าขาว น้องสาวหน้าเหลี่ยม น่าจะทำให้หลายคนสั่นไม่หาย! เรื่องเล็กๆ จิ๊บจ๊อยกำลังจะกลายเป็นเรื่องไม่ย่อยซะแล้ว หลังจากมีคนอยากมีส่วนร่วม รับรู้ ว่าเกิดอะไร เสียแค่ไหน
เรื่องพรรค์นี้พวกปากหอย ปากปู อยากรู้ เพราะมีความกำกวม ชวนให้คิด จินตนาการกว้างไกลเตลิดเปิดเปิง ทำให้เจ้าแม่โมเดล “เอาอยู่” อาจถึงขั้น “เอาไม่อยู่” หาทางออกไม่ได้ เป็นปูโดนจับใส่กระด้ง จนสิ้นท่าหมดสภาพ
กลุ่มองครักษ์พิทักษ์ “ปู” จึงออกอาการ “กินปูร้อนท้อง” แทนนาย! ผลัดกันดาหน้าออกมาเอาหน้า ตีกินคะแนน แก้ต่างให้เจ้านาย! เมื่อไม่รู้ว่าเหตุและสถานการณ์แท้จริงเป็นอย่างไร ก็ว่ากันไปคนละทิศละทาง เรื่องก็เลยไม่จบ
ขนาดสิงห์เหลิม นกรู้ไร้เทียมทาน ยังเอาไม่อยู่ ทั้งๆ ที่มีภาพถ่ายออกมาบรรยายเป็นฉากๆ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ก็ยังขอหลบฉาก รู้ว่ายิ่งพูดยิ่งเละ
นับประสาอะไรกับลิ่วล้อ ผีโม่แป้งระดับปลายแถว ไร้ราคา จะมานั่งจ้อหาทางช่วยเหลือเจ้านาย! แถมยังแขวะค่ายสะตอ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย! รู้ๆ กันอยู่ว่าเรื่องซี๊ดๆ แบบนี้พวกค่ายสะตอชอบนัก เข้าทางเลยแหละ
เด็จพี่ยี่เกโม่แป้งพอกหน้าขาว ออกมาเจื้อยแจ้ว หาว่าค่ายสะตออย่างนั้น อย่างนี้ รังแกผู้หญิง ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ก็เลยเจอเจ๊ติ่ง มัลลิกา! แค่นั้นก็หน้าหงาย! ผีโม่แป้งอีกรายพูดแบบปากไม่มีหูรูดเรื่องโรงแรมม่านรูด ฮ่า!
ทำให้เรื่องบานปลาย จนไม่ไหวจะเคลียร์! ร้อนถึงที่ปรึกษากฎหมายของเหลี่ยมร้าย “นพดล ปัทมะ” รับภารกิจกู้ภาพลักษณ์ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พูดอะไรได้ไม่เต็มปาก
คนรู้ดีที่สุด คือตัวนารีหน้าขาว และคนที่ตัวเองไปพบปะในภารกิจลับ ว. 5 ที่โรงแรมนั่นแหละ! เป็นห้องประชุม มีใครอยู่ด้วย ก็เปิดเผยไม่ได้ซะด้วย
คำพูดไม่ตรงกันตั้งแต่แรก ทำให้ยิ่งสาว ก็ยิ่งพันตัว! เรื่องธรรมดากลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะมีคนไปบังคับให้เสี่ยเอกยุทธ อัญชัญบุตร ออกกำลังกายตุ้บตั้บแบบไม่เต็มใจ คงเพราะระแวงว่ามีใครแอบถ่ายภาพ “ปู” ไว้
ถ้าปล่อยไป ไม่ใส่ใจ คงไม่มีอะไร! เรื่องซุบซิบกันยาวนาน ก็คงเป็นเรื่องซุบซิบในวงการไฮโซ ไม่มีใครนำมาเปิดเผยอย่างที่เกิดขึ้น จน “เอาไม่อยู่”
เมื่อมีเรื่อง “จัดการงานนอกสั่ง” แบบ “จัดหนัก” ทำให้สถานการณ์เลยเถิด! ไปๆ มาๆ ทำให้ลุกลามปาม อึมครึม เป็นเรื่องฉาวโฉ่เกินควบคุม คุยทุกวงการ ถ้านายกฯ ปู ยังพูดเพียงว่า “ไปไหนก็ได้ ไม่มีความลับ แต่บอกไม่ได้”
ภารกิจลับที่ว่าไปขอคำปรึกษาจากนักธุรกิจนั้น สำคัญต่อบ้านเมืองระดับไหน ทำให้คนระดับผู้นำรัฐบาลต้องพาสังขารไปเข้าโรงแรม! ถ้าเป็นเรื่องบ้านเมือง ก็น่าจะจัดประชุมกลุ่มย่อยในทำเนียบฯ บ้านพิษณุโลก
หรือห้องประชุมเล็กในสภาฯ ก็ได้ วันนั้นก็มีประชุมสภาฯ! น่าจะเจรจา ปรึกษาหารือแบบโปร่งใส เปิดเผย ไม่ใช่ลักษณะ “ลับๆ ล่อๆ ลับๆ”
ที่ผ่านมา นารีหน้าขาวมักได้รับคำปรึกษาจากผู้อยู่ต่างประเทศแทบทุกชั่วโมง เมื่อมีปัญหา หรือมีคำสั่งให้เดินหน้าเรื่องอะไรๆ เร่งด่วนเฉพาะกิจ ไม่เคยพึ่งพากลุ่มนักธุรกิจ! นักวิชาการเรื่องน้ำยังบ่นพึม ว่านักการเมืองไม่ใส่ใจ
แล้วจะทำอย่างไรละเนี่ย? เมื่อนารีหน้าขาวอยู่ในสภาพเหมือน “น้ำท่วมปาก” จะบอกว่าไปเจอใคร ก็มีปัญหาเมื่อสิงห์เหลิมบอกว่ามีคนเข้าประชุม 6-7 คน! ถ้าจำนวนไม่ถึง จะหาใครมาอ้าง? เฮ้อ! ไม่เตี๊ยมกัน อุดรูโหว่ให้มิดชิด
แม้กระนั้น ก็ยังเจอคำถามจิกใจจากเจ๊ติ่ง ค่ายสะตอ ว่ามี “เขาคนนั้น” อยู่ด้วยหรือไม่! เจรจากันเรื่องอะไร ผลประโยชน์ของบ้านเมือง หรือส่วนตัว
“เขาคนนั้น” ซึ่งขณะนี้สังคมซุบซิบรู้ตัวหมดแล้ว จะทำอย่างไร ถ้าเจอคำถามนักข่าวซอกแซก! เรื่องพรรค์นี้ยอมรับง่ายๆ ไม่ได้ โกหกก็ไม่ได้ มีแต่เสีย
เอาเพียงแค่โดนถามนิ่มๆ “อยู่ปรึกษาหารือกับนายกฯ หรือเปล่า มีกี่คน” ก็อึดอัด ไปไม่เป็น! ถ้าอ้างว่าเป็นกลุ่ม ก็จะถูกไล่บี้อีกว่า พวกที่เหลือมีใคร?
นี่แหละ การเป็นบุคคลสาธารณะ ทำอะไรย่อมตกอยู่ในสายตาของผู้คน โดยเฉพาะผู้สื่อข่าว และฝ่ายตรงข้าม ทั้งจ้องหาเรื่อง และจ้องล้ม! ถ้าเป็นผู้ชายยังพูดจาทำเป็นทีเล่น ทีจริง ตลกโปกฮาไปเรื่อยเปื่อย พอเอาตัวรอดได้
แต่นี่เป็นผู้หญิง ได้รับการประโคมว่า “สวย รวย เก่ง เสื้อผ้า หน้า ผม” ผ่านเวทีโลกจนได้รับเสียงฮือฮามาแล้ว การจะพูดจายากลำบากกว่าผู้ชาย! เรื่องแบบนี้ ต่อให้อมอะไรมาพูด อธิบาย ก็หาคนเชื่อยาก แม้แต่ในพรรคแดง
ต้องมีเสียงซุบซิบแหงๆ “เฮ้ย! จริงหรือเปล่าวะ ที่เค้าว่า.....” “พลาดได้ไง...” ในกลุ่มผีโม่แป้งเหลี่ยมร้าย! ไม่ใช่เพราะหวังดีหรอก อยากรู้เป็นข้อมูลประกอบการพูดเพื่อเอามัน และตอบคำถามพรรคพวกเดียวกัน
เห็นชัดๆ ว่าบรรดารัฐมนตรี พวกรู้ดี รู้จริง ปิดปากเงียบ ชิ่งหนีหมด!
ดูท่าแล้ว นารีหน้าขาวอาจตกอยู่ในสภาพ “ปูตายน้ำแห้ง” ซะแหล่ว! ตราบใดที่ยังไม่มีคำอธิบาย ทางออกสวยๆ เนียนๆ ฝ่ายค้านต้องไล่บี้! “เอกยุทธ” ไม่เลิกรา ต้องหาเรื่องมากลบ! แต่อย่านึกว่าจะ “เอาอยู่” ได้ง่ายเน้อ!
เรื่องพรรค์นี้พวกปากหอย ปากปู อยากรู้ เพราะมีความกำกวม ชวนให้คิด จินตนาการกว้างไกลเตลิดเปิดเปิง ทำให้เจ้าแม่โมเดล “เอาอยู่” อาจถึงขั้น “เอาไม่อยู่” หาทางออกไม่ได้ เป็นปูโดนจับใส่กระด้ง จนสิ้นท่าหมดสภาพ
กลุ่มองครักษ์พิทักษ์ “ปู” จึงออกอาการ “กินปูร้อนท้อง” แทนนาย! ผลัดกันดาหน้าออกมาเอาหน้า ตีกินคะแนน แก้ต่างให้เจ้านาย! เมื่อไม่รู้ว่าเหตุและสถานการณ์แท้จริงเป็นอย่างไร ก็ว่ากันไปคนละทิศละทาง เรื่องก็เลยไม่จบ
ขนาดสิงห์เหลิม นกรู้ไร้เทียมทาน ยังเอาไม่อยู่ ทั้งๆ ที่มีภาพถ่ายออกมาบรรยายเป็นฉากๆ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ก็ยังขอหลบฉาก รู้ว่ายิ่งพูดยิ่งเละ
นับประสาอะไรกับลิ่วล้อ ผีโม่แป้งระดับปลายแถว ไร้ราคา จะมานั่งจ้อหาทางช่วยเหลือเจ้านาย! แถมยังแขวะค่ายสะตอ ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย! รู้ๆ กันอยู่ว่าเรื่องซี๊ดๆ แบบนี้พวกค่ายสะตอชอบนัก เข้าทางเลยแหละ
เด็จพี่ยี่เกโม่แป้งพอกหน้าขาว ออกมาเจื้อยแจ้ว หาว่าค่ายสะตออย่างนั้น อย่างนี้ รังแกผู้หญิง ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ก็เลยเจอเจ๊ติ่ง มัลลิกา! แค่นั้นก็หน้าหงาย! ผีโม่แป้งอีกรายพูดแบบปากไม่มีหูรูดเรื่องโรงแรมม่านรูด ฮ่า!
ทำให้เรื่องบานปลาย จนไม่ไหวจะเคลียร์! ร้อนถึงที่ปรึกษากฎหมายของเหลี่ยมร้าย “นพดล ปัทมะ” รับภารกิจกู้ภาพลักษณ์ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะตัวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พูดอะไรได้ไม่เต็มปาก
คนรู้ดีที่สุด คือตัวนารีหน้าขาว และคนที่ตัวเองไปพบปะในภารกิจลับ ว. 5 ที่โรงแรมนั่นแหละ! เป็นห้องประชุม มีใครอยู่ด้วย ก็เปิดเผยไม่ได้ซะด้วย
คำพูดไม่ตรงกันตั้งแต่แรก ทำให้ยิ่งสาว ก็ยิ่งพันตัว! เรื่องธรรมดากลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะมีคนไปบังคับให้เสี่ยเอกยุทธ อัญชัญบุตร ออกกำลังกายตุ้บตั้บแบบไม่เต็มใจ คงเพราะระแวงว่ามีใครแอบถ่ายภาพ “ปู” ไว้
ถ้าปล่อยไป ไม่ใส่ใจ คงไม่มีอะไร! เรื่องซุบซิบกันยาวนาน ก็คงเป็นเรื่องซุบซิบในวงการไฮโซ ไม่มีใครนำมาเปิดเผยอย่างที่เกิดขึ้น จน “เอาไม่อยู่”
เมื่อมีเรื่อง “จัดการงานนอกสั่ง” แบบ “จัดหนัก” ทำให้สถานการณ์เลยเถิด! ไปๆ มาๆ ทำให้ลุกลามปาม อึมครึม เป็นเรื่องฉาวโฉ่เกินควบคุม คุยทุกวงการ ถ้านายกฯ ปู ยังพูดเพียงว่า “ไปไหนก็ได้ ไม่มีความลับ แต่บอกไม่ได้”
ภารกิจลับที่ว่าไปขอคำปรึกษาจากนักธุรกิจนั้น สำคัญต่อบ้านเมืองระดับไหน ทำให้คนระดับผู้นำรัฐบาลต้องพาสังขารไปเข้าโรงแรม! ถ้าเป็นเรื่องบ้านเมือง ก็น่าจะจัดประชุมกลุ่มย่อยในทำเนียบฯ บ้านพิษณุโลก
หรือห้องประชุมเล็กในสภาฯ ก็ได้ วันนั้นก็มีประชุมสภาฯ! น่าจะเจรจา ปรึกษาหารือแบบโปร่งใส เปิดเผย ไม่ใช่ลักษณะ “ลับๆ ล่อๆ ลับๆ”
ที่ผ่านมา นารีหน้าขาวมักได้รับคำปรึกษาจากผู้อยู่ต่างประเทศแทบทุกชั่วโมง เมื่อมีปัญหา หรือมีคำสั่งให้เดินหน้าเรื่องอะไรๆ เร่งด่วนเฉพาะกิจ ไม่เคยพึ่งพากลุ่มนักธุรกิจ! นักวิชาการเรื่องน้ำยังบ่นพึม ว่านักการเมืองไม่ใส่ใจ
แล้วจะทำอย่างไรละเนี่ย? เมื่อนารีหน้าขาวอยู่ในสภาพเหมือน “น้ำท่วมปาก” จะบอกว่าไปเจอใคร ก็มีปัญหาเมื่อสิงห์เหลิมบอกว่ามีคนเข้าประชุม 6-7 คน! ถ้าจำนวนไม่ถึง จะหาใครมาอ้าง? เฮ้อ! ไม่เตี๊ยมกัน อุดรูโหว่ให้มิดชิด
แม้กระนั้น ก็ยังเจอคำถามจิกใจจากเจ๊ติ่ง ค่ายสะตอ ว่ามี “เขาคนนั้น” อยู่ด้วยหรือไม่! เจรจากันเรื่องอะไร ผลประโยชน์ของบ้านเมือง หรือส่วนตัว
“เขาคนนั้น” ซึ่งขณะนี้สังคมซุบซิบรู้ตัวหมดแล้ว จะทำอย่างไร ถ้าเจอคำถามนักข่าวซอกแซก! เรื่องพรรค์นี้ยอมรับง่ายๆ ไม่ได้ โกหกก็ไม่ได้ มีแต่เสีย
เอาเพียงแค่โดนถามนิ่มๆ “อยู่ปรึกษาหารือกับนายกฯ หรือเปล่า มีกี่คน” ก็อึดอัด ไปไม่เป็น! ถ้าอ้างว่าเป็นกลุ่ม ก็จะถูกไล่บี้อีกว่า พวกที่เหลือมีใคร?
นี่แหละ การเป็นบุคคลสาธารณะ ทำอะไรย่อมตกอยู่ในสายตาของผู้คน โดยเฉพาะผู้สื่อข่าว และฝ่ายตรงข้าม ทั้งจ้องหาเรื่อง และจ้องล้ม! ถ้าเป็นผู้ชายยังพูดจาทำเป็นทีเล่น ทีจริง ตลกโปกฮาไปเรื่อยเปื่อย พอเอาตัวรอดได้
แต่นี่เป็นผู้หญิง ได้รับการประโคมว่า “สวย รวย เก่ง เสื้อผ้า หน้า ผม” ผ่านเวทีโลกจนได้รับเสียงฮือฮามาแล้ว การจะพูดจายากลำบากกว่าผู้ชาย! เรื่องแบบนี้ ต่อให้อมอะไรมาพูด อธิบาย ก็หาคนเชื่อยาก แม้แต่ในพรรคแดง
ต้องมีเสียงซุบซิบแหงๆ “เฮ้ย! จริงหรือเปล่าวะ ที่เค้าว่า.....” “พลาดได้ไง...” ในกลุ่มผีโม่แป้งเหลี่ยมร้าย! ไม่ใช่เพราะหวังดีหรอก อยากรู้เป็นข้อมูลประกอบการพูดเพื่อเอามัน และตอบคำถามพรรคพวกเดียวกัน
เห็นชัดๆ ว่าบรรดารัฐมนตรี พวกรู้ดี รู้จริง ปิดปากเงียบ ชิ่งหนีหมด!
ดูท่าแล้ว นารีหน้าขาวอาจตกอยู่ในสภาพ “ปูตายน้ำแห้ง” ซะแหล่ว! ตราบใดที่ยังไม่มีคำอธิบาย ทางออกสวยๆ เนียนๆ ฝ่ายค้านต้องไล่บี้! “เอกยุทธ” ไม่เลิกรา ต้องหาเรื่องมากลบ! แต่อย่านึกว่าจะ “เอาอยู่” ได้ง่ายเน้อ!