xs
xsm
sm
md
lg

ตอกย้ำแดงวืดเงินล้าน คำสั่งปค. ชี้“มติอัปยศ”เป็นโมฆะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- “เสื้อแดง” ส่อวืดเยียวยา 7.75 ล.“ปชป.”รุกอีก! หลัง คำสั่งศาลปกครอง ชี้มติครม.10 ม.ค. ไม่มีสภาพบังคับใช้ ส่วน “ปชป.-เพื่อไทย” ซัดกันนัว หลัง “นายหัวชวน”เปิดประเด็นไปวางบิล 2 พันล้านกับนายใหญ่

วานนี้ ( 8 ก.พ.)ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชาย เกิดรุ่งเรือง ผู้จัดการมรดกของด.ช.จักรพันธ์ ศรีสะอาด หรือน้องฟลุ๊ค ผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ปราบปรามยาเสพติดและนายตรีสิทธิ์ ศิริวรรณ ผู้ได้รับความเสียหายในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองช่วงพฤษภาทมิฬยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี กรณีที่ครม.มีมติเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2555 ให้มีการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2549 - พ.ค. 2553

ทั้งนี้ศาลให้เหตุผลการไม่รับคำฟ้องว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากครม.ได้เห็นชอบในหลักการเยียวยา ฟื้นฟูเหยื่อและผู้เสียหายตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมืองครอบคลุมถึงประชาชนทุกกลุ่ม เจ้าหน้าที่รัฐ สื่อมวลชน ภาคเอกชน รวมทั้งครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ ปลายปี 2548- พ.ค. 2553 ตามข้อเสนอของคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป) โดยมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายรัฐมนตรีประสานกับกระทรวงการคลัง สำนักงานงบประมาณในการจัดหาวงเงินงบประมาณตามอัตราเงินช่วยเหลือชดเชยเยียวยาเสียหาย และให้นำเสนอครม.พิจารณาอนุมัติวงเงินงบประมาณอีกครั้ง

มติครม.ดังกล่าวจึงเป็นเพียงเห็นชอบในหลักการเยียวยาฟื้นฟูเหยื่อ ผู้เสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบตามที่ ปคอปเสนอเท่านั้น ครม.ยังไม่ได้มีการอนุมัติวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด มติครม.จึงยังไม่มีสภาพเป็นกฎที่มีผลบังคับหรือคำสั่งที่มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิ หรือหน้าที่ของบุคคลเป็นเพียงการกระทำทางปกครองที่ยังไม่มีสภาพบังคับอันจะเห็นเหตุให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายจนมีสิทธิที่จะฟ้องคดีตามมาตรา 42 วรรค 1 พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีทางปกครอง พ.ศ. 2542 จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องและจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

ที่รัฐสภา นายสาธิต กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากศาลปกครองว่ามีคำสั่งยกคำร้อง เนื่องจากมติ ครม.ดังกล่าวเป็นเพียงการเห็นชอบในหลักการเยียวยาและฟื้นฟูเหยื่อและผู้เสียหายตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง ตามที่ ปคอป.เสนอเท่านั้น ยังมิได้มีการอนุมัติวงเงินงบประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อดำเนินการในเรื่องใด มติ ครม. 10 ม.ค. จึ้ยังไม่มีสภาพบังคับใช้ที่จะส่งผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล เป็นเพียงการกระทำทางปกครองที่ยังไม่มีสภาพบังคับอันจะเป็นเหตุให้ผู้ใดได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย

การยกคำร้องของศาลปกครองเป็นเพราะศาลเห็นว่ามติครม.ดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ เพราะไม่มีการอนุมัติเงินงบประมาณ เป็นเพียงแค่การอนุมัติหลักการเท่านั้น แต่ก็ได้ชี้ว่ามติครม.ดังกล่าวถือเป็นการกระทำทางปกครอง ดังนั้นเมื่อไหร่ที่รัฐบาลมีการนำมติ ครม.นี้ไปใช้ก็จะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้พิจารณาอีกครั้ง เพราะเท่ากับว่า มติครม.มีสภาพบังคับใช้ที่ทำให้เกิดความเสียหายแล้ว

ที่ประทรวงยุติธรรม นายพิทยา จินาวัฒน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อแก้ปัญหาและหาช่องทางเยียวยาให้กับกลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองว่า เบื้องต้นได้แบ่งผู้เสียหายออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ที่มีประกันภัย ซึ่งมีผู้เสียหายอยู่จำนวนหนึ่งและรัฐบาลได้เยียวยาไปแล้ว และกลุ่มที่มีกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครอง ซึ่งมีเพียง 1 ราย คือ โรงแรมดุสิตธานี หลังจากนี้คณะทำงานจะประชุมร่วมกันทุกวันจันทร์ของสัปดาห์เพื่อเร่งหาข้อสรุปในการช่วยเหลือ เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 19 พ.ค. 55 นี้ จึงต้องเร่งดำเนินการหาข้อสรุป โดยเฉพาะประเด็นที่บริษัทประกันภัยไม่จ่ายสินไหมทดแทน ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิฯจะเสนอรัฐบาลให้เยียวยาและจัดหาทนายความเป็นตัวแทนฟ้องคดีกับบริษัทประกันภัย หากคดีมีคำพิพากษาของศาลระบุว่า เป็นคดีก่อการร้ายซึ่งไม่อยู่ในเงื่อนไขประกันภัย หน่วยราชการจะนำคำพิพากษามาวินิจฉัยเพื่อจ่ายเงินเยียวยาต่อไป

สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมก่อความไม่สงบมีทั้งสิ้น 700 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม กรมคุ้มครองสิทธิฯต้องการให้ผู้เสียหายที่ยังไม่เคยยื่นเรื่องขอรับความช่วยเหลือ เร่งเข้ายื่นคำร้องเพื่อรวบรวมข้อมูลในการจัดทำแผนเยียวยา

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุมวางแนวทางเยียวยาให้กับผู้ประกอบการครั้งนี้ มีการเสนอแนวคิดจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยกเลิกข้อหาคดีก่อการร้าย เพื่อให้เข้าเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย แต่ไม่สามารถหาข้อยุติในประเด็นดังกล่าวได้

นายอรรถวิชช์ สุวรรณ ภักดี โฆษกครม.เงา ปชป. กล่าวถึงมาตรการการเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการดำเนินงานของรัฐในพื้นที่3 จังหวัดภาคใต้ ที่ครม.มีมติการย้อนหลังถึงช่วง 1ต.ค 54เท่านั้น เท่ากับไม่รวมเหตุการณ์ที่กรือเซะ และตากใบ ที่ประชุมจึงกังวลใจในความไม่จริงใจในการออกเกณฑ์มาตรการเยียวยาปัญหาภาคใต้ของรัฐบาลนี้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำนปช.กล่าวหาว่านายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ มีจิตใจคับแคบที่เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่ออกมาสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไปขอเงินชดเชยเยียวยาจาก พ.ต.ท.ทักษิณเอง ว่า สิ่งที่นายชวนได้พูดนั้นถูกต้องแล้ว เพราะการชุมนุมทางการเมืองดังกล่าวเอาเพียงเรื่องประชาธิปไตยหรือชนชั้น มาบังหน้า เพื่อปลุกปั่นมวลชนให้หลงเชื่อมาร่วมชุมนุม ซึ่งแท้จริงแล้ว เป็นการชุมนุมที่หวังเพียงล้มล้างรัฐบาลเพื่อจะให้พวกของตัวเองได้เข้ามามีอำนาจ เพื่อเริ่มต้นกระบวนการล้างความผิดให้พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งขณะนี้แกนนำหลายคนที่อ้างว่าเป็นไพร่ ก็ได้รับการตบรางวัล เป็นอำมาตย์ มีเงินทอง ร่ำรวย เพราะฉะนั้นการชดเชยเยียวยาบุคคลเหล่านี้ที่มากระทำผิดกฎหมายของบ้านเมืองเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรไปวางบิลเก็บเงินจากคุณทักษิณเอง

พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันไม่สนับสนุนการจ่ายเงินให้กับผู้กระทำการผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง และเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศที่เห็นเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในครั้งนั้น ก็คงไม่มีใครยินดีให้รัฐบาลชุดนี้นำเงินภาษีของพวกเขาไปจ่ายเป็นรางวัลตอบแทนให้กับกองกำลังส่วนตัวของรัฐบาลโดยหากรัฐบาลหรือแกนนำ นปช. แน่ใจในความบริสุทธิ์ เหตุใดไม่รอให้กระบวนการยุติธรรมเสร็จสิ้น จึงค่อยมาพูดถึงเรื่องการชดเชยเยียวยา เพราะยังมีพี่น้องทหารอีกมากมาย รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมต้องเสียชีวิต ไม่รอการเยียวยา ชดเชย

แต่บุคคลเหล่านี้ก็มีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่ให้ใครเอาเงินมาฟาดหัวแต่ยืนหยัดที่จะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาล ตรงกันข้ามที่รัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง กลับไม่พูดถึงเรื่องการพิสูจน์ความจริงอีกแล้ว แต่หวังเพียงจะใช้เงินภาษีของประชาชนมาตบรางวัลและปิดปากผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้ตนเองได้เสวยสุขในตำแหน่งไปนาน ๆ และ หากนายก่อแก้วได้แสดงความคัดค้านหรือโต้แย้งกลุ่มแกนนำ นปช. ให้ยุติการหลอกลวงประชาชนมาเป็นเหยื่อทางการเมือง ประชาชนก็คงไม่โดนหลอกให้มาเสียชีวิตมากมายขนาดนี้

ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.แถลงว่า กรณีนายชวน แสดงความเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ควรจ่ายเงินเยียวยา2พันล้านบาทเอง ทหารที่ออกมาฆ่าประชาชนเพื่อรักษาตำแหน่งให้รัฐบาลนายอภิสิ์ทธิ์ เวชชาชีวะนั้น นายชวน นายอภิสิทธิ์ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ควรลงขันคนละ2พันล้านบาทเพื่อเยียวยา “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้งของนายชวนอ ายุสามสิบปีนั้นสนิมขึ้นแล้ว และนายชวนเชือดคอตัวเองตายไปเรียบร้อย ขอแจ้งไปยังนายชวนว่า หากยังมีชีวิตอยู่ควรรู้ว่ารัฐบาลนี้เยียวยาคนทุกเสื้อสีตั้งแต่ปี2549-2553หากตายก็ได้รับสิทธิเยียวยา แต่นายชวนนั้นไม่เคยใยดีกับศพในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬเลย

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. กล่าวว่า ปูชนียบุคคลอย่างนายชวนพูดเรื่องนี้อย่างหน้าด้านๆ นิติศาสตร์บัณฑิตและเนติบัณฑิตไทยอย่างนายชวนไม่น่างี่เง่าปัญญาอ่อนแบบนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น