xs
xsm
sm
md
lg

ไทยออยล์คาดกำไรสุทธิปีนี้วูบ เหตุไม่มีส่วนต่างสต๊อกน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยออยล์คาดปีนี้กำไรสุทธิต่ำกว่าปี54  เหตุคาดไม่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน แต่มีกำไรจากการดำเนินงานปีนี้จะสูงขึ้นอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ด้านบางจากฯปลี้มรายได้และกำไรสุทธิไตรมาส 1/55สูงขึ้น จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นและค่าการกลั่นที่ดี

นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะมีกำไรสุทธิจะออกมาต่ำกว่าปีก่อนเนื่องจากคาดว่าไม่มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน จากปีที่แล้วบริษัทฯมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันประมาณ3 พันล้านบาท แต่ในส่วนกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11,000 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2554ที่มีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 8,088 ล้านบาท เนื่องจากเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลงตามการปรับลดอัตราจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเดิม 30%เหลือ 23%ในปีนี้

ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี(EBITDA)ในปีนี้ประมาณ 7,000 ล้านบาทไม่รวมขาดทุนหรือกำไรจากสต๊อกน้ำมัน โดยไตรมาสแรกบริษัทฯคาดว่าจะมีรายได้และกำไรสุทธิดีมาก เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากที่ประมาณการไว้และค่าการกลั่นของบางจากฯอยู่ในระดับดี โดยบริษัทฯได้มีการทำประกันความเสี่ยงค่าการกลั่นล่วงหน้าอยู่ในระดับสูง  

สำหรับงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ประมาณ 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนของการปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงกลั่นประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์   และโรงไฟฟ้าโคเจน โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จะมีการก่อสร้างที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 25 เมกะวัตต์ และที่จังหวัดชัยภูมิ อีก 25 เมกะวัตต์  

โดยคาดว่าจะสามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ภายในปีนี้

ส่วนโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ขนาด 48 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งตามแผนเดิมจะผลิตในปีหน้า อาจจะต้องมีการชะลอออกไปก่อนประมาณ 6 เดือน เนื่องจากพื้นที่เดิมอาจถูกน้ำท่วม ทำให้ต้องศึกษาหาพื้นที่ก่อสร้างใหม่  ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ.เพื่อขอเปลี่ยนพื้นที่ใหม่
นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่งการพิจารณาจะลงทุนธุรกิจเอทานอลเพิ่มเติม จากการปลูกพืชเกษตรกรรม เช่น มันสำปะหลัง อ้อย เป็นต้น

สำหรับแหล่งเงินทุนนั้นส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และอีกส่วนมาจากการกู้ยืมหรือการออกหุ้นกู้   ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น