ASTVผู้จัดการรายวัน-"กุชชี่"แบรนด์ดังระดับโลก บุกเฟ้นหาแบบลายผ้าไทย ผลิตกระเป๋ารุ่นพิเศษ ร่วมฉลองปีมหามงคล 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คาดเริ่มวางจำหน่ายได้ส.ค.นี้ พร้อมหาวัตถุดิบทำเครื่องประดับภายใต้แบรนด์กุชชี่ "บุญทรง"นัดถกทูตพาณิชย์ 10 ก.พ. ปรับแผนส่งออก ดันเป้าทั้งปีโต 15%
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากบริษัท กุชชี่ กรุ๊ป เอส.พี.เอ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามกุชชี่ (GUCCI) แบรนด์ดังชั้นนำของโลกว่า กุชชี่ได้เดินทางมาไทยระหว่างวันที่ 7-11 ก.พ.นี้ เพื่อศึกษารูปแบบเฉพาะในการจัดทำกระเป๋ารุ่นพิเศษ Limited Editionในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในปีนี้
“ล่าสุดได้รวบรวมตัวอย่างผ้าจากผู้ผลิตไหมรายใหญ่ 5 ราย ได้ลายผ้ากว่า 250 แบบ เพื่อนำไปคัดเลือกและตัดสินใจออกแบบผลิตผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทกุชชี่ในเมืองฟลอเรนส์แล้ว โดยจะร่วมกันผลิตสินค้าด้วยผ้าไหมไทยที่มีคุณลักษณะผ้าหลากหลายไม่เหมือนใคร ซึ่งคาดว่าจะราวปลายเดือนมี.ค.นี้ จะนำเสนอแบบในเบื้องต้นได้ เพื่อดำเนินการผลิตจริงและวางจำหน่ายในช่วงเดือนส.ค.”นางนันทวัลย์กล่าว
การผลิตกระเป๋ารุ่นพิเศษนี้ เกิดจากโครงการสินค้าคู่แฝดผ้าไหมไทยระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมส่งเสริมการส่งออกและกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการที่นำสินค้าผ้าไหมไทยที่มีชื่อเสียงอย่างยาวนาน มาผลิตภายใต้แบรนด์ดังระดับโลกอย่างกุชชี่ของอิตาลีเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสพิเศษสุดของชาวไทย
ขณะเดียวกัน กุชชี่ยังจะเข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย (บางกอกเจมส์ 2555) โดยกุชชี่ได้ส่งทีมผู้ซื้อฝ่ายเครื่องประดับมาเยี่ยมชมและเจรจาการค้ากับบริษัทผู้เจียระไนพลอยของไทย เพื่อสั่งทำสินค้าเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ “กุชชี่” ด้วย
นางนันทวัลย์กล่าวอีกว่า ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก วันที่ 10 ก.พ.นี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ จะเข้าร่วมหารือและมอบนโยบายให้กับทูตพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้การส่งออกไทยปี 2555 ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 15% มูลค่า 7 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องปรับแผนการทำงานให้เข้มข้นขึ้น เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการส่งออกไทยมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงมั่นใจว่าการส่งออกไตรมาส 1 จะขยายตัวเป็นบวกได้อยู่ หรือในระดับ 1-5% ต่างจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการส่งออกไตรมาส 1 จะขยายตัวติดลบค่อนข้างมาก เพราะเชื่อว่าโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากผลกระทบน้ำท่วมปลายปี จะฟื้นการผลิตได้เร็วขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อตลาดโลกยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ ที่เป็นเป้าหมายการส่งออกทั้งอาเซียน จีน แอฟริกา และรัสเซีย ที่จะผลักดันให้การส่งออกไปตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น
"ในปีนี้กรมฯ จะผลักดันการส่งออกไปตลาดอาเซียนให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่การส่งออกไทยไปอาเซียนมีสัดส่วน 21-22% จะพยายามให้เพิ่มเป็น 23-24% ทดแทนตลาดอียูและสหรัฐฯ ที่สัดส่วนการส่งออกจะลดน้อยลง โดยตั้งเป้าส่งออกไปตลาดอาเซียนเติบโต 20% ส่วนตลาดอียูและสหรัฐฯ จะพยายามรักษาตลาดเอาไว้"นางนันทวัลย์กล่าว
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยภายหลังการให้การต้อนรับคณะผู้บริหารจากบริษัท กุชชี่ กรุ๊ป เอส.พี.เอ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนามกุชชี่ (GUCCI) แบรนด์ดังชั้นนำของโลกว่า กุชชี่ได้เดินทางมาไทยระหว่างวันที่ 7-11 ก.พ.นี้ เพื่อศึกษารูปแบบเฉพาะในการจัดทำกระเป๋ารุ่นพิเศษ Limited Editionในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ในปีนี้
“ล่าสุดได้รวบรวมตัวอย่างผ้าจากผู้ผลิตไหมรายใหญ่ 5 ราย ได้ลายผ้ากว่า 250 แบบ เพื่อนำไปคัดเลือกและตัดสินใจออกแบบผลิตผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีได้เข้าร่วมประชุมกับบริษัทกุชชี่ในเมืองฟลอเรนส์แล้ว โดยจะร่วมกันผลิตสินค้าด้วยผ้าไหมไทยที่มีคุณลักษณะผ้าหลากหลายไม่เหมือนใคร ซึ่งคาดว่าจะราวปลายเดือนมี.ค.นี้ จะนำเสนอแบบในเบื้องต้นได้ เพื่อดำเนินการผลิตจริงและวางจำหน่ายในช่วงเดือนส.ค.”นางนันทวัลย์กล่าว
การผลิตกระเป๋ารุ่นพิเศษนี้ เกิดจากโครงการสินค้าคู่แฝดผ้าไหมไทยระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมส่งเสริมการส่งออกและกรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการที่นำสินค้าผ้าไหมไทยที่มีชื่อเสียงอย่างยาวนาน มาผลิตภายใต้แบรนด์ดังระดับโลกอย่างกุชชี่ของอิตาลีเพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสพิเศษสุดของชาวไทย
ขณะเดียวกัน กุชชี่ยังจะเข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย (บางกอกเจมส์ 2555) โดยกุชชี่ได้ส่งทีมผู้ซื้อฝ่ายเครื่องประดับมาเยี่ยมชมและเจรจาการค้ากับบริษัทผู้เจียระไนพลอยของไทย เพื่อสั่งทำสินค้าเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ “กุชชี่” ด้วย
นางนันทวัลย์กล่าวอีกว่า ในการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลก วันที่ 10 ก.พ.นี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ จะเข้าร่วมหารือและมอบนโยบายให้กับทูตพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้การส่งออกไทยปี 2555 ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 15% มูลค่า 7 ล้านล้านบาท ซึ่งจะต้องปรับแผนการทำงานให้เข้มข้นขึ้น เพราะมีปัจจัยเสี่ยงที่กระทบต่อการส่งออกไทยมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กรมฯ ยังคงมั่นใจว่าการส่งออกไตรมาส 1 จะขยายตัวเป็นบวกได้อยู่ หรือในระดับ 1-5% ต่างจากที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการส่งออกไตรมาส 1 จะขยายตัวติดลบค่อนข้างมาก เพราะเชื่อว่าโรงงานที่ได้รับความเสียหายจากผลกระทบน้ำท่วมปลายปี จะฟื้นการผลิตได้เร็วขึ้น ประกอบกับกำลังซื้อตลาดโลกยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ ที่เป็นเป้าหมายการส่งออกทั้งอาเซียน จีน แอฟริกา และรัสเซีย ที่จะผลักดันให้การส่งออกไปตลาดเหล่านี้เพิ่มขึ้น
"ในปีนี้กรมฯ จะผลักดันการส่งออกไปตลาดอาเซียนให้มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่การส่งออกไทยไปอาเซียนมีสัดส่วน 21-22% จะพยายามให้เพิ่มเป็น 23-24% ทดแทนตลาดอียูและสหรัฐฯ ที่สัดส่วนการส่งออกจะลดน้อยลง โดยตั้งเป้าส่งออกไปตลาดอาเซียนเติบโต 20% ส่วนตลาดอียูและสหรัฐฯ จะพยายามรักษาตลาดเอาไว้"นางนันทวัลย์กล่าว