วธ.เร่งรณรงค์ใช้ผ้าไทย กรมหม่อนไหม เสนอรัฐบาลให้บัตรเครดิตผู้ประกอบการเลี้ยงไหม เหมือนชาวนา เป็นหลักประกันรายได้ หลังพบขาดทุนยับ จนไม่อยากประกอบอาชีพ จี้ กระทรวงพาณิชย์ รุกตลาดในและต่างประเทศให้หันมาใช้ผ้าไทย
นายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังการประชุมโครงการสัมนารณรงค์การแต่งกายด้วยผ้าไทย ว่า ที่ประชุมได้เชิญ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาระดมความคิดปัญหาสถานการณ์แนวทางการส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทย โดยที่ประชุมเสนอปัญหา ว่า ปัจจุบันไทยมีการผลิตเส้นใย และหม่อนไหมลดลง ทำให้ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น เวียดนาม จีน แต่พบว่า เส้นไหมที่นำเข้ามานั้น ไม่มีคุณภาพ และไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับปัจจุบันผู้เลี้ยงไหมกว่า 1 แสนราย ประสบภาวะขาดทุน จึงไม่ต้องการที่จะประกอบอาชีพนี้ จากปัญหาดังกล่าวจึงมอบหมายให้กรมหม่อนไหม หาแนวทางในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น กรมหม่อนไหม ได้เสนอแผนปฏิบัติการ ระยะ 3 ปี แรก ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบอาชีพเลี้ยงไหมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 5 ในปีแรก และให้เพิ่มมากขึ้น ถึงร้อยละ 10 ในปีถัดไป พร้อมเสนอให้รัฐบาลจัดทำบัตรเครดิตแก่ผู้ประกอบการเลี้ยงไหม ให้มีลักษณะเช่นเดียวกับบัตรเครดิตชาวนา เพื่อเป็นหลักประกันต้นทุนการผลิต และประกันรายได้ ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้จริง จะช่วยลดภาระของการผลิตเส้นใยได้มากขึ้น ในส่วน วธ.มีหน้าที่หลักในการจัดทำเนื้อหา ความเป็นมา และภูมิหลังของผ้าไทยรวมถึงกระบวนการต่างๆของการผลิตผ้าไทย และการรณรงค์สร้างค่านิยมให้คนไทยสนใจสวมใส่ผ้าไทยด้วย
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนกระทรวงพาณิชย์ เสนอให้ดูแลในส่วนการส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในต่างประเทศนั้น ให้ประสานกับทูตพาณิชย์ ในการส่งเสริมผ้าไทยให้คนต่างชาติรู้จัก เสนอนำเสนอสินค้าผ้าไทยในอันดับต้นๆ ของสินค้าส่งออก รวมทั้งการนำผ้าไทยไปใช้ผลิตสินค้าอื่นๆ ด้วย ควรจะต้องเพิ่มพื้นที่การรณรงค์การใช้ผ้าไทยในประเทศให้มากขึ้น ให้มีการออกแบบที่หลากหลาย ที่สำคัญ ควรหาเจ้าภาพหลักรับผิดชอบการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมผ้าไทยให้เป็นรูปธรรมด้วย
