ASTVผู้จัดการรายวัน - กกร. เตรียมเสนอ "ยิ่งลักษณ์" ในเวที กรอ.ที่อุดรธานี 21-22 ก.พ.นี้พัฒนาเขต ศก.พิเศษมุกดาหาร-นครพนม ปั้นอุดรฯ-ขอนแก่นเป็นเมือง ศก. เชื่อมลอจิสติกส์รถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคายกับเพื่อนบ้าน เปิดประตูรับ AEC พ่วงท้ายด้วยการหนุนสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่เลย
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) วานนี้(6 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนงาน 5 เรื่องสำคัญที่จะนำเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่จังหวัดอุดรธานีระหว่างวันที่ 21-22 ก.พ.นี้
สำหรับเรื่องที่จะนำเสนอได้แก่ 1. การส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งหรือลอจิสติกส์ ซึ่งประกอบด้วย การเร่งรัดการสร้างรถไฟรางคู่เส้นกทม.-หนองคายให้เสร็จในปี 2562 การขยายเส้นทางริมแม่น้ำโขงสาย 211-212 การพัฒนาระบบรถไฟบางไผ่-สารคราม-ร้อยเอ็ด และ การสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคายซึ่งทั้งหมดจะเป็นระบบการเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านในการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
2. การพัฒนาระบบการค้าและการลงทุน ซึ่งประกอบด้วย การตั้งเขต ศก.พิเศษ จ.มุกดาหาร-นครพนม ควบคู่กับการส่งเสริม ให้จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่นเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยการให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เท่ากับชายแดนใต้หรือเป็นสิทธิประโยชน์สูงสุด และขยายการเปิดด่านนครพนม-ท่าแขกเพิ่มเป็น 06.00-22.00 น.จากเดิมปิด 18.00 น.
3.การขยายการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำ เลย น้ำชีและน้ำมูล 4. การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการสนับสนุนการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย และ 5. การพัฒนาระบบแรงงาน โดยการสนับสนุนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเฉลิมพระเกียรติ ที่จ.กาฬสินธุ์ โดยแผนทั้งหมดวันที่ 13 ก.พ.นี้ ส.อ.ท.จะมีการประชุมลงรายละเอียดถึงแนวทางทั้งหมดก่อนนำเสนอกรอ.อีกครั้ง
นายพยุงศักดิ์ยังกล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่า รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้ชัดเจนควบคู่ระหว่างแผระยะสั้นและระยะยาว โดยแผนระยะสั้นนั้นหากจำเป็นจะต้องเร่งรัดใช้วิธีพิเศษในการดำเนินการก็ควรจะต้องทำเนื่องจากหากใช้วิธีปกติระบบราชการอาจใช้เวลานานขึ้น 2-3 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นเนื่องจากการทำงานขณะนี้ถือว่าต้องแข่งกับเวลามาก
หอการค้าหนุนกระเช้าภูกระดึง
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า กรณีกระเช้าภูกระดึงนั้นแม้ว่าจะมีผู้คัดค้านมากแต่เห็นว่าทั้งหมดอยู่ที่การบริหารจัดการโดยสามารถบริหารเรื่องจำนวนเที่ยวขึ้นลง การดูแลสิ่งแวดล้อม ขยะ ฯลฯ โดยเห็นว่าหากมีกระเช้าแล้วจะเป็นการเปิดกว้างการท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาต่างๆ จะตามมาอีกมาก
"ภาคอีสานมีความสมบูรณ์และพร้อมที่จะพัฒนาได้หลายด้าน อย่างการบริหารจัดการน้ำนั้นสามารถดึงจากแม่น้ำโขงแล้วมาพักที่หนองบัวลำภูเพื่อส่งต่อไปจังหวัดอื่นๆ ได้" นายสมเกียรติกล่าว
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) วานนี้(6 ก.พ.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนงาน 5 เรื่องสำคัญที่จะนำเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่จังหวัดอุดรธานีระหว่างวันที่ 21-22 ก.พ.นี้
สำหรับเรื่องที่จะนำเสนอได้แก่ 1. การส่งเสริมการพัฒนาระบบการขนส่งหรือลอจิสติกส์ ซึ่งประกอบด้วย การเร่งรัดการสร้างรถไฟรางคู่เส้นกทม.-หนองคายให้เสร็จในปี 2562 การขยายเส้นทางริมแม่น้ำโขงสาย 211-212 การพัฒนาระบบรถไฟบางไผ่-สารคราม-ร้อยเอ็ด และ การสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคายซึ่งทั้งหมดจะเป็นระบบการเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านในการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
2. การพัฒนาระบบการค้าและการลงทุน ซึ่งประกอบด้วย การตั้งเขต ศก.พิเศษ จ.มุกดาหาร-นครพนม ควบคู่กับการส่งเสริม ให้จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่นเป็นเมืองอุตสาหกรรม โดยการให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เท่ากับชายแดนใต้หรือเป็นสิทธิประโยชน์สูงสุด และขยายการเปิดด่านนครพนม-ท่าแขกเพิ่มเป็น 06.00-22.00 น.จากเดิมปิด 18.00 น.
3.การขยายการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำ เลย น้ำชีและน้ำมูล 4. การส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยการสนับสนุนการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย และ 5. การพัฒนาระบบแรงงาน โดยการสนับสนุนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเฉลิมพระเกียรติ ที่จ.กาฬสินธุ์ โดยแผนทั้งหมดวันที่ 13 ก.พ.นี้ ส.อ.ท.จะมีการประชุมลงรายละเอียดถึงแนวทางทั้งหมดก่อนนำเสนอกรอ.อีกครั้ง
นายพยุงศักดิ์ยังกล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการน้ำว่า รัฐบาลจะต้องเร่งดำเนินการให้ชัดเจนควบคู่ระหว่างแผระยะสั้นและระยะยาว โดยแผนระยะสั้นนั้นหากจำเป็นจะต้องเร่งรัดใช้วิธีพิเศษในการดำเนินการก็ควรจะต้องทำเนื่องจากหากใช้วิธีปกติระบบราชการอาจใช้เวลานานขึ้น 2-3 เดือน ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นเนื่องจากการทำงานขณะนี้ถือว่าต้องแข่งกับเวลามาก
หอการค้าหนุนกระเช้าภูกระดึง
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า กรณีกระเช้าภูกระดึงนั้นแม้ว่าจะมีผู้คัดค้านมากแต่เห็นว่าทั้งหมดอยู่ที่การบริหารจัดการโดยสามารถบริหารเรื่องจำนวนเที่ยวขึ้นลง การดูแลสิ่งแวดล้อม ขยะ ฯลฯ โดยเห็นว่าหากมีกระเช้าแล้วจะเป็นการเปิดกว้างการท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาต่างๆ จะตามมาอีกมาก
"ภาคอีสานมีความสมบูรณ์และพร้อมที่จะพัฒนาได้หลายด้าน อย่างการบริหารจัดการน้ำนั้นสามารถดึงจากแม่น้ำโขงแล้วมาพักที่หนองบัวลำภูเพื่อส่งต่อไปจังหวัดอื่นๆ ได้" นายสมเกียรติกล่าว