xs
xsm
sm
md
lg

ถามสำนึก “นิติเรด”“ทหารในหลวง”ค้านม.112มธ.สั่งปลดป้ายสัญลักษณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ผบ.สส.” ถามหาสำนึก“นิติเรด” ย้ำชัดทหารในหลวง ค้านเคลื่อนไหวแก้ไข ม.112 “มาร์ค”ห่วง ขัดแย้งใน มธ.บานปลาย ผู้บริหารมธ.สั่งปลดป้ายสัญลักษณ์ ม.112 หลังคำสั่งห้ามทุกกลุ่มใช้พื้นที่เคลื่อนไหว

วานนี้(3 ก.พ.55) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) กล่าวว่า ในฐานะเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และขอคัดค้านที่มีนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ที่ออกมาเคลื่อนไหวแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะประเทศไทย อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ จะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ ในฐานะคนไทย จึงขอเรียกร้องให้เกิดการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ให้รู้ว่าสิ่งใดควรทำไม่ควรทำ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับมาตรา 112 และเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการล้มล้างสถาบัน

“แม้กฎหมายรัฐธรรมนูญ จะเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นก็ตาม แต่ควรจะดูถึงความเหมาะสม โดยรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องต้องออกมาควบคุมให้อยู่ในขั้นตอนและกรอบของกฎหมาย”ผบ.สส. กล่าวและว่าสำหรับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่าง ๆไม่ถึงขั้นต้องปฏิวัติ แต่ควรจะดับไฟในวิธีที่ถูกต้องจะดีกว่า

**มาร์ค จวก ตู่ สร้างนิยายล้มรัฐรายวัน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเตือนให้คนในรัฐบาลหยุดสร้างนิยายรายวัน เกี่ยวกับขบวนการล้มรัฐบาล หลังจากที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาระบุ ว่า มีการบิดเบือนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อลมรัฐบาลภายในเดือนเมษายนนี้ โดยยืนยีนว่าพรรค ประชาธิปัตย์ไม่เคยคิดลมรัฐบาล เรื่องที่นายจตุพรออกมาระบบจึงเป็นเพียงแค่การสร้างนิยายหรือนิทานปลุก ระดมเพื่อรักษามวลชนที่เติบโตมาจากการเคลื่อนไหว แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยอำนาจทางการเมืองจะเคลื่อนไหวก็ไม่ ถนัดเพราะต้องรับผิดชอบบ้านเมือง จึงปลุกระดมว่าจะมีคนล้มรัฐบาลต้องออกมาปกป้อง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่มี

“เรื่องมาตรา 112 รัฐบาลจะโยนให้ใครไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาลทั้งนั้น คุณยิ่งลักษณ์ ให้ สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าจะสะสางกฎหมายนี้ แกนนำเสื้อแดงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง มาวันนี้จะโทษว่าพรรค ประชาธิปัตย์ใส่ร้ายได้อย่างไร ผมถามย้ำอีกครั้งว่านายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความส่วนตัวพ.ต.ท.ทักษิณ ใช่ คนของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ เขามาเคลื่อนไหวให้แก้ไขกฎหมายมาตรานี้ทำไม มีใครจ้างหรือไม่ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้อง ผมก็ย้ำอีกครั้งว่าให้ปลดนายอัมสเตอร์ดัมออกจากการเป็นทนายความส่วนตัวเพื่อพิสูจน์ความ บริสุทธิ์ใจ แต่ก็ไม่เห็นมีการดำเนินการเรื่องนี้” นาอภิสิทธิ์ กล่าว

** ห่วง ขัดแย้งใน มธ.บานปลาย

นายอภิสิทธิ์ ยังเสนอทางออกในการลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในมธ.ว่าผูับริหารและผู้อยากจัดกิจกรรมต้องมานั่งคุยกันว่าจะใช้เสรีภาพทางวิชาการโดยหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง ความรุนแรง ชี้แจงให้ได้เกี่ยวกับข้อสงสัยว่าไปเป็นเครื่องมือกระบวนการทางการเมืองหรือไม่อย่างไร เพราะหากจะแสดงความคิดเห็นโดยบริสุทธิ์ใจก็ต้องเข้าใจเรื่องนี้ ซึ่งตนไม่อยากให้เรื่องนี้ลุกลามบานปลายออกไป เพราะขณะนี้มีการรวมคนกดดันทางหนึ่งทางใดเพราะจะเกิดปัญหาตามมา

ตนเคยเตือนแล้วว่ามาตรา 112 เป็นเรื่องอ่อนไหวรัฐบาลควรตัดไฟแต่ต้นลม หากต้องการปรับปรุงให้การคุ้มครองปกป้องสถาบันไปได้ด้วยดีโดยวิธีการที่ดีที่สุด รัฐบาลต้องบอกว่าจะใช้มาตรการทางบริหารเพื่อแก้ปัญหาอย่างไรโดยใช้วิธีการปรึกษาหารือเป็นการภายใน เพราะเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธาทำให้เกิดความขัดแย้งได้ง่าย แม้ว่าทุกฝ่ายจะมีเสรีภาพจะมีแต่เรื่องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนที่จะใช้เสรีภาพต้องมีความรับผิดชอบด้วยเข่นเดียวกัน ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเองก็คงไม่ต้องการปิดกั้นใครเป็นการเฉพาะ เรื่องนี้ต้องหาคำตอบโดยเร็วเพื่อประโยชน์มหาวิทยาลัยและสังคมด้วย

**ปชป.จี้ปูห้ามเสื้อแดงหนุนนิติเรด

นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า เสนอให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรสั่งการให้คนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มนิติราษฎร์ก่อนที่จะสถานการณ์ความขัดแย้งที่เริ่มจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะลุกลามบานปลายกลายเป็นวิกฤติของสังคม

**“ชูวิทย์บอกนิติเรด10ปีว่ากันใหม่

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ในฐานะศิษย์เก่ามธ. กล่าวว่า ในฐานะลูกแม่โดมคนหนึ่งเห็นว่า สองฝ่ายที่เห็นต่างกันก็ควรนำมานั่งพูดคุยกัน ม.ธรรมศาสตร์ต้องเปิดกว้าง และรับเป็นเจ้าภาพไปเลย จะจัดในรูปแบบของการเสวนาก็ได้ เป็นทางออกที่ไม่ปิดกั้นกันจนเกินไป

ส่วนการเคลื่อนไหวและข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ เจตนาวันนี้ไม่ได้เป็นเครื่องมือของใคร แต่ถูกใช้เป็นเครื่องมือของใครบางคนไปแล้ว ดังนั้นหากรู้สึกแล้วคณะนิติราษฎร์ควรที่จะหยุด เพราะเวลานี้พูดออกมาก็เปล่าประโยชน์ หากจะแก้ไขก็ไม่ใช่เวลานี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม อีก 10 หรือ 20 ปีจะแก้ ก็ยังสามารถทำได้

**มธ.สั่งปลดป้ายสัญลักษณ์ ม.112

อีกด้านบรรยากาศที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และท่าพระจันทร์ จากการสำรวจยังไม่พบการเคลื่อนไหวในเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มที่เห็นด้วยหรือค้านในมติของอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการเคลื่อนไหว กรณีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระบุว่า คณะผู้บริหารได้สั่งให้ดำเนินการปลดป้ายที่มีการติดไว้ตามจุดต่างๆ ลงหมดแล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 ก.พ.

นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา กล่าวว่า ถือเป็นการยืนยันชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังคงมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว นักศึกษาสามารถแสดงออกได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการเอาผิดนักศึกษาจากการเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม จากมติคณะกรรมการมหาวิทยาลัยที่ห้ามการเคลื่อนไหวทางการเมืองจากกรณี ม.112 นั้นยอมรับว่าในทางปฎิบัติแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะแบ่งแยกว่าการดำเนินการลักษณะใดเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือเป็นการแสดงออกทางวิชาการ เกรงว่าจะมีปัญหาในการพิจารณา เช่น กรณีการเคลื่อนไหวของศิษย์เก่าคณะวารสาร หากตีความอย่างเคร่งครัด อาจจะมีคนมองว่าทำไม่ได้เพราะมีการรวมตัวชุมนุมเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง อีกฝ่ายอาจจะนำมาอ้างเพื่อเคลื่อนไหวบ้าง ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นปัญหาในทางปฎิบัติว่าจะตีความการเคลื่อนไหวแต่ละครั้งอย่างไร หากพิจารณาไม่ดีจะถูกกล่าวหาสองมาตรฐานได้

**เคลื่อนไหวหนุน-ต้านแก้ ม.112

วันเดียวกัน แม้จะมีคำสั่งห้ามเคลื่อนไหวเรื่อง ม.112 แต่กลับมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มสนับสนุนคณะนิติราษฎร์ ได้ใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดสัมมนา เรื่อง “ปรีดี พนมยงค์ กับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ที่ห้องอาคารอเนกประสงค์ 3 วิทยากร เช่น นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ นายเกษียร เตชะพีระ โดยมีกลุ่มสนับสนุนและเสื้อแดงจะร่วมฟังคึกคัก

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่วันที่ 6 ก.พ.เวลา 12.30น.-16.00 น. กลุ่ม “สยามประชาภิวัฒน์”
จะจัด เสวนาทางวิชาการ “วิกฤติประเทศไทย ใครคือตัวการ? ที่ ห้องประชุมจี๊ด เศรษฐบุตร (LT1) คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี จะถ่ายทอดสดเวลา 13.30-16.00 น.

**“สมคิด” ห้ามทุกกลุ่มใช้ มธ.เคลื่อนไหว

นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวที่ จ.ลำปาง ระหว่างพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาอุดมศึกษา 9 สถาบันสัมพันธ์ หรือยูงทองเกมส์ มธ.ศูนย์ลำปาง เมื่อบ่ายวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่ทางกรรมการบริหารมธ. สั่งห้ามไม่ให้กลุ่มนิติราษฎร์ใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยเคลื่อนไหวทางการเมือง เกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า ตนไม่ได้ห้ามเฉพาะกลุ่มนิติราษฎร์เท่านั้น แต่ห้ามทุกกลุ่มที่จะเข้ามาใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข มาตรา 112 ก็ตาม

แต่ที่ตนห้ามก็เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่า หากยังคงปล่อยให้กลุ่มนิติราษฎร์เดินหน้าใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยในการเคลื่อนไหว ซึ่งออกนอกลู่จากการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการออกไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนในปัจจุบันก็จะทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากสถานการณ์ต่างๆที่เริ่มมีให้เห็นแล้ว อาทิ การเผาหุ่นอาจารย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว มีจดหมายข่มขู่ทั้งอาจารย์และมหาวิทยาลัย ซึ่งหากไม่ยุติก็เกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นมาคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือ อธิการบดี

ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นทางด้านวิชาการ แม้แต่ มาตรา 112 ด้วย และยังคงให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เหมือนเดิม เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระนั้น ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย หากธรรมศาสตร์เป็นตัวที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเสียเอง แล้วจะออกไปช่วยสังคมไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้อย่างไร

ส่วนการห้ามดังกล่าวตนเห็นว่าน่าจะสามารถลดอุณหภูมิความร้อนแรงเกี่ยวกับมาตรา 112 ลงได้ และเมื่อสังคมเกิดความสงบสุข ไม่มีความขัดแย้ง สังคมก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้

**ชี้ “นิติราษฎร์” ไม่ผิดวินัยมธ.

นายสมคิด กล่าวถึงกรณีกลุ่มวารสารฯ ต้านนิติราษฎร์ ยื่นหนังสือคัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และต่อต้านทุกความเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์หรือกลุ่มคณะใดๆ ก็ตาม ที่จาบจ้วงและละเมิดสถาบัน และอธิการบดีมีคำสั่งตั้งคณะสอบสวนคณาจารย์คณะนิติราษฎร์ ในการกระทำที่อาจมีความผิดทั้งทางวินัยและกฎหมาย พร้อมลงโทษตามมูลความผิดว่า การลงโทษทางกฎหมาย มหาวิทยาลัยคงไม่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับทางนิติราษฎร์ ซึ่งหากมีคนเห็นว่ากลุ่มนิติราษฎร์มีความผิดทางกฎหมายมาตราใดก็สามารถไปแจ้งความได้

ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ก็ต้องบอกว่า กลุ่มนิติราษฎร์ไม่ได้ทำความผิดทางวินัยอะไร ซึ่งการพิจารณาความผิดทางวินัยของมหาวิทยาลัยก็จะมีระบบระเบียบของมันเอง แต่ตนก็จะไปดูหนังสือที่ทางกลุ่มวารสารฯยื่นมาก่อน ว่ามีเนื้อหาอย่างไรบ้าง หรือหากทางกลุ่มวารสารฯมีข้อมูลว่ากลุ่มนิติราษฎร์ทำผิดวินัยในข้อใดก็สามารถมายื่นที่ตนได้ ตนก็จะพิจารณาเป็นเรื่องๆ แต่โดยภาพรวมที่ผ่านมาทางกลุ่มนิติราษฎร์ก็ไม่ได้ทำความผิดทางวินัยอะไร

** ลั่นนิติราษฎร์ไม่ใช่ธรรมศาสตร์

นายสมคิดกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนเชื่อว่าคนภายนอกเข้าใจดีว่านิติราษฎร์ไม่ใช่ธรรมศาสตร์ และธรรมศาสตร์ไม่ใช่นิติราษฎร์ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าทั้ง 7 คน เป็นอาจารย์ที่สอนในคณะนิติศาสตร์ มธ. ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางวิชาการเท่านั้น จะไปเหมารวมว่าเป็น มธ.ทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะอาจารย์ใน มธ.มีถึง 2,000 คน คนเพียง 7 คน คงไม่สามารถเหมารวมได้ว่าเป็น มธ.ทั้งหมด

“ความขัดแย้งหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เหล่านี้ใน มธ. ผมถือว่าเป็นเรื่องสวยงาม เป็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ยืนยันว่า มธ.ยังคงมีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว ไม่ว่านักศึกษาจะมาวางพวงหรีดอธิการ หรือติดป้ายคัดค้านเรื่องต่างๆ ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ย้ำว่าการนตัดสินใจครั้งนี้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยผู้บริหารทั้งหมดมีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน ซึ่งผมเองในฐานะอธิการบดีได้ชี้แจงมาโดยตลอดว่าไม่ได้เป็นการปิดกันเสรีภาพ” นายสมคิดกล่าว

**“112” โยกใช้อนุสรณ์14 ตุลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) จะร่วมรณรงค์อีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ เวลา 11.00 - 12.00 น. ที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยอ้างว่าจะไม่มีคณาจารย์คณะนิติศาสตร์มธ.หรือคณะนิติราษฎร์เข้าร่วม แต่อาจจะมีตอบข้อซักถามเกี่ยวกับกรณีที่คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (กบม.) ที่สั่งห้ามคณะนิติราษฎร์เคลื่อนไหวหรือจัดกิจกรรมใดๆที่ไม่เหมาะสมในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงการจัดกิจกรรมของครก.112 ในต่างจังหวัด

**ภูเก็ตรวมพลังต้านนิติราษฎร์!

เวลา 10.00 น. กลุ่มประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต ผู้รักและปกครองสถาบัน รวมตัวกันยืนหนังสือถึงรัฐบาลผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต คัดค้านกลุ่มนิติราษฎร์ โดยมีนายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้รับมอบหนังสือ โดยมีนายดอน ลิ้มนันทพิสิฐ และนายสมาน เกาะเหล็ก เป็นแกนนำยื่นหนังสือ พร้อมแผ่นป้ายข้อความต่อต้านกลุ่มนิติราษฎร์
กำลังโหลดความคิดเห็น