ลำปาง - อธิการบดี มธ.ยันไม่ได้ห้ามเฉพาะ “นิติราษฎร์” ใช้ มธ.เคลื่อนไหวทางการเมือง แต่ห้ามทุกกลุ่ม แถมนิติราษฎร์เริ่มเคลื่อนไหวออกนอกลู่นอกทางวิชาการ หวั่นจุดประเด็นความรุนแรงในสังคมขึ้น เผยล่าสุดมีทั้งวเผาหุ่น-จม.ขู่ เกิดขึ้นแล้ว ขณะที่ย้ำส่วนตัวไม่เห็นด้วยแก้ ม.112
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ได้จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาอุดมศึกษา 9 สถาบันสัมพันธ์ หรือยูงทองเกมส์ ขึ้น ณ ลานกีฬาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง เมื่อบ่ายวานนี้ (2 ก.พ.) โดยมีสถาบันการศึกษาในจังหวัดลำปางรวม 9 แห่ง จัดริ้วขบวนแห่เข้าร่วมในพิธีเปิดอย่างสวยงาม รวมถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง ซึ่งเป็นเจ้าภาพการจัดงานครั้งที่ 12 นี้ ก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์คือการจัดขบวนล้อการเมือง ซึ่งงานนี้มีนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันด้วย
นายสมคิดได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมเปิดการแข่งขันกีฬาฯ เกี่ยวกับกรณีที่ทางกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สั่งห้ามไม่ให้กลุ่มนิติราษฎร์ใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยเคลื่อนไหวทางการเมือง เกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า ตนไม่ได้ห้ามเฉพาะกลุ่มนิติราษฎร์เท่านั้น แต่ห้ามทุกกลุ่มที่จะเข้ามาใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง แม้ส่วนตัวจะไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข มาตรา 112 ก็ตาม
แต่ที่ตนห้ามก็เนื่องจากเล็งเห็นแล้วว่า หากยังคงปล่อยให้กลุ่มนิติราษฎร์เดินหน้าใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยในการเคลื่อนไหว ซึ่งออกนอกลู่จากการแสดงความคิดเห็นทางวิชาการออกไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนในปัจจุบันก็จะทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เห็นได้จากสถานการณ์ต่างๆที่เริ่มมีให้เห็นแล้ว อาทิ การเผาหุ่นอาจารย์ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าว มีจดหมายข่มขู่ทั้งอาจารย์และมหาวิทยาลัย ซึ่งหากไม่ยุติก็เกรงว่าหากเกิดเหตุการณ์ใดๆ ขึ้นมาคนที่ต้องรับผิดชอบก็คือ อธิการบดี
นายสมคิดยังได้กล่าวด้วยว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ปิดกั้นไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นทางด้านวิชาการ แม้แต่ มาตรา 112 ด้วย และยังคงให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เหมือนเดิม เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระนั้น ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย หากธรรมศาสตร์เป็นตัวที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงเสียเอง แล้วจะออกไปช่วยสังคมไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้อย่างไร
ส่วนการห้ามดังกล่าวตนเห็นว่าน่าจะสามารถลดอุณภูมิความร้อนแรงเกี่ยวกับมาตรา 112 ลงได้ และเมื่อสังคมเกิดความสงบสุข ไม่มีความขัดแย้ง สังคมก็จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้