00 เปิดแนวรบรุกเข้ามาอีกทางหนึ่งแล้ว สำหรับเครือข่ายลิ่วล้อ ทักษิณ ล่าสุดเป่านกหวีดไฟเขียวให้ เฉลิม อยู่บำรุง เดินหน้าเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เข้าสู่การพิจารณาของสภาในเร็วๆ นี้ จากการแพลมๆ ลับๆ ล่อๆ ของ คนที่ “รับงาน” ก็แย้มออกมาให้เห็นว่า สั้นๆ มีแค่ 6 มาตรา เนื้อหามีความยาวไม่เกินสองหน้ากระดาษ เอ 4 เท่านั้น อย่างไรก็ดี เหตุผลหรือเป้าหมายก็มาทางเดียวกับการจ่ายเงินเยียวยาให้กับ “เสื้อแดง” ก็คือ คราวนี้ปากอ้างว่าต้องการปรองดองให้เลิกแล้วต่อกัน “ทุกฝ่ายพ้นผิด” ไม่ว่าสีใด กลุ่มใด แต่เป้าหมายหลักที่ “ซ่อน” อยู่ในนั้นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร พ้นผิดไปด้วยนั่นแหละ
00 เหตุผลที่ เหลิม อ้างว่าต้องย้อนไปก่อนวันที่ 18 ก.ย.49 เหตุการณ์ใดก็ตามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็เสมือนหนึ่งว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความหมายก็คือ ถ้าผิดก็คือไม่ผิดนั่นเอง ที่นี้ข้อกล่าวหา รวมทั้งความผิดติดตัวของ ทักษิณ ที่มีเป็น “หางว่าว” ก็ใช้ความสกปรก และน้ำลายของคนบางคนลบล้างไปได้ในบัดดล ซึ่งคนพวกนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะรวบรัดเสนอเป็น พ.ร.บ. ดันเข้าสภา ใช้ ส.ส.เสียงข้างมากลากไป ไม่กี่วันก็เสร็จเรียบร้อย ซึ่งวิธีนี้ถ้าทำได้สำเร็จก็เร็วกว่าไปใช้วิธีแก้ไขรธน. ที่ซับซ้อนยุ่งยาก และที่สำคัญต้องใช้เวลา ซึ่งคนอย่าง"แม้ว" นี่มันใจร้อน รอไม่ได้ นอกจากนี้หากยิ่งทอดเวลานานไป มันก็ “ยิ่งเสี่ยง” มากขึ้น เพราะ “น้องนกแก้ว” ตัวดี “โชว์โง่” แบบนี้อยู่ทุกวัน มันก็มีโอกาสพลิกได้ตลอดเวลา
00 หากมองกันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า นี่เป็นอีกแนวรบหนึ่ง ที่ฝ่ายทักษิณ รีบเปิดเกมรุกเข้ามา โดยอาศัย “ช่วงชุลมุน” ที่สังคมกำลังเขวี้ยงก้อนอิฐ ถ่มน้ำลายเข้าใส่ “กลุ่มนิติราษฎร์” จนไม่ต้องหายใจหายคอ แต่อีกด้านหนึ่งเหมือนกับว่า สายตาของสังคมกำลังจับจ้องไปอีกทาง ทางนี้ก็ใช้ทีเผลอ มั่วเข้ามา แล้วรวบรัดใช้พวกมากลากไป มารู้อีกทีก็เสร็จโจรไปแล้ว แหม “เหลี่ยมจัด” จริงนะ ไอ้เวลล์ล์ !!
00 พูดถึงเรื่องความกลวง ก็ต้องหดหู่ใจลงทุกวัน ยิ่งเมื่อได้เห็นบทบาท การเคลื่อนไหวของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันก็อดสะท้อนใจไม่ได้ว่า ทำไมประเทศไทยถึงได้โชคร้ายซ้ำซากต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เพราะนับวันความกลวงของเธอ ยิ่งทำร้ายบ้านเมือง ทำลายความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าลองไปถามนักลงทุน หากจับมือถามเป็นการส่วนตัวก็ต้องส่ายหัวทุกราย โดยเฉพาะการรับมือวิกฤติน้ำที่กำลังจะย้อนกลับมาอีกรอบ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเส้นทางน้ำ รับรองว่าเป็นอันต้องขนลุก เริ่มนอนไม่หลับกันแล้ว เพราะเวลานี้ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ การขุดลอกคูคลอง ซึ่งถือว่าเป็นงาน “รูทีน” ที่ต้องทำทุกปีอยู่แล้ว ส่วนโครงการป้องกันอื่นๆ ยังไม่เป็นรายละเอียด มัวคิดแต่เรื่องเอาเงินมาก่อน แต่ไม่บอกว่าเอาไปทำอะไร งานนี้ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน
00 อย่างไรก็ดี ถ้ามองทะลุเข้าไปข้างในใจของคนในรัฐบาลเวลานี้ รับรองว่าต้องอยู่ในอาการ “หายใจไม่ทั่วท้อง” แน่ หลังจากที่ ฝ่ายค้านที่นำโดย กรณ์ จาติกวณิช ที่ดีกรีเป็นอดีต รมว.คลัง มีข้อมูลตัวเลขในมือพร้อม และ ส.ว.ยื่นเรื่องต่อศาลรธน.ให้ตีความ 2 พ.ร.ก.โอนหนี้ 1.14 ล้านล้านบาทให้แบงก์ชาติรับภาระ และ ให้อำนาจ ก.คลัง กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทมาบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ว่าขัดรธน.หรือไม่ ซึ่งถ้าพิจารณาตามแนวโน้มแล้ว มันน่าหวาดเสียวเสียด้วย ถ้าแจ็กพอตขึ้นมาละก็แม่เจ้าพระคุณเอ๋ย สนุกแน่ !!
00 เหตุผลที่ เหลิม อ้างว่าต้องย้อนไปก่อนวันที่ 18 ก.ย.49 เหตุการณ์ใดก็ตามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ก็เสมือนหนึ่งว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความหมายก็คือ ถ้าผิดก็คือไม่ผิดนั่นเอง ที่นี้ข้อกล่าวหา รวมทั้งความผิดติดตัวของ ทักษิณ ที่มีเป็น “หางว่าว” ก็ใช้ความสกปรก และน้ำลายของคนบางคนลบล้างไปได้ในบัดดล ซึ่งคนพวกนี้หมายมั่นปั้นมือว่าจะรวบรัดเสนอเป็น พ.ร.บ. ดันเข้าสภา ใช้ ส.ส.เสียงข้างมากลากไป ไม่กี่วันก็เสร็จเรียบร้อย ซึ่งวิธีนี้ถ้าทำได้สำเร็จก็เร็วกว่าไปใช้วิธีแก้ไขรธน. ที่ซับซ้อนยุ่งยาก และที่สำคัญต้องใช้เวลา ซึ่งคนอย่าง"แม้ว" นี่มันใจร้อน รอไม่ได้ นอกจากนี้หากยิ่งทอดเวลานานไป มันก็ “ยิ่งเสี่ยง” มากขึ้น เพราะ “น้องนกแก้ว” ตัวดี “โชว์โง่” แบบนี้อยู่ทุกวัน มันก็มีโอกาสพลิกได้ตลอดเวลา
00 หากมองกันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า นี่เป็นอีกแนวรบหนึ่ง ที่ฝ่ายทักษิณ รีบเปิดเกมรุกเข้ามา โดยอาศัย “ช่วงชุลมุน” ที่สังคมกำลังเขวี้ยงก้อนอิฐ ถ่มน้ำลายเข้าใส่ “กลุ่มนิติราษฎร์” จนไม่ต้องหายใจหายคอ แต่อีกด้านหนึ่งเหมือนกับว่า สายตาของสังคมกำลังจับจ้องไปอีกทาง ทางนี้ก็ใช้ทีเผลอ มั่วเข้ามา แล้วรวบรัดใช้พวกมากลากไป มารู้อีกทีก็เสร็จโจรไปแล้ว แหม “เหลี่ยมจัด” จริงนะ ไอ้เวลล์ล์ !!
00 พูดถึงเรื่องความกลวง ก็ต้องหดหู่ใจลงทุกวัน ยิ่งเมื่อได้เห็นบทบาท การเคลื่อนไหวของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันก็อดสะท้อนใจไม่ได้ว่า ทำไมประเทศไทยถึงได้โชคร้ายซ้ำซากต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เพราะนับวันความกลวงของเธอ ยิ่งทำร้ายบ้านเมือง ทำลายความเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าลองไปถามนักลงทุน หากจับมือถามเป็นการส่วนตัวก็ต้องส่ายหัวทุกราย โดยเฉพาะการรับมือวิกฤติน้ำที่กำลังจะย้อนกลับมาอีกรอบ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเส้นทางน้ำ รับรองว่าเป็นอันต้องขนลุก เริ่มนอนไม่หลับกันแล้ว เพราะเวลานี้ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ การขุดลอกคูคลอง ซึ่งถือว่าเป็นงาน “รูทีน” ที่ต้องทำทุกปีอยู่แล้ว ส่วนโครงการป้องกันอื่นๆ ยังไม่เป็นรายละเอียด มัวคิดแต่เรื่องเอาเงินมาก่อน แต่ไม่บอกว่าเอาไปทำอะไร งานนี้ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน
00 อย่างไรก็ดี ถ้ามองทะลุเข้าไปข้างในใจของคนในรัฐบาลเวลานี้ รับรองว่าต้องอยู่ในอาการ “หายใจไม่ทั่วท้อง” แน่ หลังจากที่ ฝ่ายค้านที่นำโดย กรณ์ จาติกวณิช ที่ดีกรีเป็นอดีต รมว.คลัง มีข้อมูลตัวเลขในมือพร้อม และ ส.ว.ยื่นเรื่องต่อศาลรธน.ให้ตีความ 2 พ.ร.ก.โอนหนี้ 1.14 ล้านล้านบาทให้แบงก์ชาติรับภาระ และ ให้อำนาจ ก.คลัง กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทมาบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ว่าขัดรธน.หรือไม่ ซึ่งถ้าพิจารณาตามแนวโน้มแล้ว มันน่าหวาดเสียวเสียด้วย ถ้าแจ็กพอตขึ้นมาละก็แม่เจ้าพระคุณเอ๋ย สนุกแน่ !!
