พิจิตร - จำนำข้าวเมืองชาละวันยังไม่ทิ้งลายโคตรโกง ล่าสุดพ่อค้ากว้านซื้อใบรับรองสิทธิ์เกษตรกรใบละพัน ขณะที่ชาวนาเล่นเล่ห์ แจ้งหาย-ขอเอกสารสิทธิหวังได้เงิน 2 ต่อ ล่าสุด DSI รับเข้าทำคดีแล้ว
นายไพฑูรย์ รื่นสุข เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะเปิดรับจำนำข้าวทุกเม็ด แต่ก็ยังปรากฏการทุจริตขึ้นในหลายรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ที่พบมีชาวนาตกเป็นเครื่องมือของพ่อค้าโดยยอมขายใบรับรองสิทธิ์เกษตรกรให้แก่พ่อค้าในราคาใบละ 1,000 บาท แล้วไปแจ้งความกับตำรวจว่าใบรับรองสิทธิ์เกษตรกรหาย จากนั้นยังมาโกหกเจ้าหน้าที่ จะขอออกใบรับรองสิทธิ์เกษตรกร เพื่อจะใช้สิทธิ์ 2 รอบ ซึ่งขณะนี้รู้ตัวและมีการจับผู้กระทำผิดได้แล้ว
ทั้งนี้ จากการเกิดการทุจริตหลายรูปแบบ และซ้ำซาก จึงทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) ได้รับเข้ามาดูแลทุกคดีที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตรอีกด้วย
ในส่วนของ 228 ชาวนาที่เคยร่วมกับข้าราชการผู้นำชุมชน เถ้าแก่โรงสี ที่เคยกระทำความผิดช่วงโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 53/54 ที่มีทั้งแจ้งเท็จ ใบรับรองปลอม เช่น ทำนา 10 ไร่ แจ้ง 20 ไร่ นาแปลงเดียวกันพ่อตาแจ้ง 1 ครั้ง ลูกเขยแจ้ง 1 ครั้ง แล้วไปขอเงินชดเชยจากรัฐบาล ซึ่งมีการจับได้และดำเนินคดี ขณะนี้ได้ส่งฟ้องศาลแล้วจำเลยรับสารภาพศาลพิพากษาปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี แต่ก็ยังมีบางรายที่กระทำผิดมากกว่า 1 กรรม ก็คงจะต้องรับโทษเพิ่ม ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินคดีความ
นายไพฑูรย์ จึงฝากเตือนเกษตรกรว่า ขอให้ทำการด้วยเจตนาบริสุทธิ์อย่าได้เห็นแก่อามิสสินจ้างที่เป็นเงินเพียงเล็กน้อยแล้วร่วมกันโกงรัฐบาล เพราะเงินที่โกงมาได้ก็เป็นเงินภาษีของพวกเราชาวบ้าน-ชาวนา ด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งรูปแบบการโกงต่างๆ ดีเอสไอ ก็รู้หมดแล้ว ทั้งยังมีระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมถ้าโกงโครงการรับจำนำข้าวอย่างไรเสียก็ต้องถูกจับได้
นายไพฑูรย์ รื่นสุข เกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะเปิดรับจำนำข้าวทุกเม็ด แต่ก็ยังปรากฏการทุจริตขึ้นในหลายรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ที่พบมีชาวนาตกเป็นเครื่องมือของพ่อค้าโดยยอมขายใบรับรองสิทธิ์เกษตรกรให้แก่พ่อค้าในราคาใบละ 1,000 บาท แล้วไปแจ้งความกับตำรวจว่าใบรับรองสิทธิ์เกษตรกรหาย จากนั้นยังมาโกหกเจ้าหน้าที่ จะขอออกใบรับรองสิทธิ์เกษตรกร เพื่อจะใช้สิทธิ์ 2 รอบ ซึ่งขณะนี้รู้ตัวและมีการจับผู้กระทำผิดได้แล้ว
ทั้งนี้ จากการเกิดการทุจริตหลายรูปแบบ และซ้ำซาก จึงทำให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ( ดีเอสไอ) ได้รับเข้ามาดูแลทุกคดีที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวของจังหวัดพิจิตรอีกด้วย
ในส่วนของ 228 ชาวนาที่เคยร่วมกับข้าราชการผู้นำชุมชน เถ้าแก่โรงสี ที่เคยกระทำความผิดช่วงโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 53/54 ที่มีทั้งแจ้งเท็จ ใบรับรองปลอม เช่น ทำนา 10 ไร่ แจ้ง 20 ไร่ นาแปลงเดียวกันพ่อตาแจ้ง 1 ครั้ง ลูกเขยแจ้ง 1 ครั้ง แล้วไปขอเงินชดเชยจากรัฐบาล ซึ่งมีการจับได้และดำเนินคดี ขณะนี้ได้ส่งฟ้องศาลแล้วจำเลยรับสารภาพศาลพิพากษาปรับ 3,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี แต่ก็ยังมีบางรายที่กระทำผิดมากกว่า 1 กรรม ก็คงจะต้องรับโทษเพิ่ม ซึ่งยังไม่ได้ตัดสินคดีความ
นายไพฑูรย์ จึงฝากเตือนเกษตรกรว่า ขอให้ทำการด้วยเจตนาบริสุทธิ์อย่าได้เห็นแก่อามิสสินจ้างที่เป็นเงินเพียงเล็กน้อยแล้วร่วมกันโกงรัฐบาล เพราะเงินที่โกงมาได้ก็เป็นเงินภาษีของพวกเราชาวบ้าน-ชาวนา ด้วยกันทั้งสิ้น อีกทั้งรูปแบบการโกงต่างๆ ดีเอสไอ ก็รู้หมดแล้ว ทั้งยังมีระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมถ้าโกงโครงการรับจำนำข้าวอย่างไรเสียก็ต้องถูกจับได้