คำพูด-จากปาก“ผู้มีธรรม” เป็น “หน้าต่างความรู้” ที่มีคุณค่าและไร้พิษภัย!
คำพูด-จากปาก “ผู้ร้ายเจ้าเล่ห์” มีทั้ง “ยาพิษ” และ “น้ำหวานปนยาพิษ” แสนอันตราย
มนุษย์-ต้องพิเคราะห์-มองทะลุถึงธาตุแท้ “คำพูดคนสามานย์” เพื่อรู้เท่าทันและรอดพ้นจากเล่ห์ชั่วร้ายทั้งปวง
“แดงเหลี่ยม” ใช้พลังแห่ง “คำพูด” ทั้ง “ฆ่าตัวเอง” และ “สร้างตัวเอง” มากมาย..เขาเคยพูดว่า
“ผู้นำยุคใหม่ จะต้องเป็นคนที่เล่าเรื่องได้ดี..เล่าเรื่องเพื่ออะไร เพื่อมีแรงกระตุ้น เพื่อแรงบันดาลใจ เพื่อให้เขาคล้อยตาม เพื่อจะผลักดันสิ่งที่มุ่งหวังไปสู่เป้าหมายได้”
คำพูดของ “แดงเหลี่ยม” นี้-ถูกต้อง หากเขาใช้ความเก่งการพูดไปในทางที่ถูก-ที่ควรและเพื่อส่วนรวม แต่ “แดงเหลี่ยม” กลับใช้ “คำพูด” เพื่อฉ้อฉล คำพูดเขาจึงเต็มไปด้วยการโกหกปลิ้นปล้อน สิ้นความน่าเชื่อถือและเป็น “ขยะพิษแห่งความชั่วร้าย”
แม้จะมี “คำพูด” ไม่น้อยของ “แดงเหลี่ยม” เปื้อน “คำหวาน” แต่เป็น “คำหวานฉาบยาพิษ” ที่ใครหลงเชื่อ จะต้องตายด้วยพิษร้ายไม่ช้าก็เร็ว!
คำพูด “แดงเหลี่ยม” ในหนังสือหลายเล่ม ในหลายกาลเทศะได้ปอกเปลือกสันดาน ให้ผู้คนรู้ธาตุแท้และธาตุลวง “แดงเหลี่ยม” ที่เป็นนายกฯ จอมบงการตัวจริงของชาติไทย โดยมี “ปูแดง” เป็นแค่นายกฯ หุ่นชัดเจน เขาเคยพูดว่า..
“..ต้องสู้นะสู้ให้ที่สุด..สู้จนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ก็ยังกำไรชีวิตนะโว้ย เพราะตอนเกิดมา มาตัวเปล่าไม่มีอะไรติดตัวมานะ..”
จริง “ตอนเกิดมา มาตัวเปล่าไม่มีอะไรติดตัวมา” แล้วทำไมสันดานของ “แดงเหลี่ยม” จึงต้องโลภไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งๆ ที่รู้ว่า..ตายโหงหรือตายด้วยมะเร็ง “ไข่” น่ะ “แดงเหลี่ยม” ก็ลากเอาลาภ-ยศ-เงินทอง ที่โกงมาลงหลุมศพตัวเองไม่ได้?
ทำไมจึงยอมให้ความโลภ-ความชั่ว ทำลายคุณค่า “คน” ให้กลายเป็น “สุนัขบ้าจรจัด” เสียล่ะ..แดงเหลี่ยม?
สำหรับการต่อสู้นั้น “แดงเหลี่ยม” ผู้อหังการเคยปรารภว่า
“อย่าไปอดทนเพื่อรอดูสิ่งที่จะสูญเสียกำลังจะเกิดขึ้น ผมไม่อดทนต่อสู้ในสงครามที่รู้ว่า จะมีจุดจบอยู่ที่ความพ่ายแพ้ เห็นๆ อยู่แล้วว่า อย่างไรก็ต้องสูญเสีย หรือประมาณว่า fighting a losing war”
มิน่า..กองทัพแดงที่ “แดงเหลี่ยม” เป็นจอมทัพ ถึงกล้าบังอาจประกาศตนโค่นล้มรัฐไทยเก่าอย่างซึ่งหน้า “แดงเหลี่ยม” มั่นใจแล้วสิว่า..จะชนะศึก จะสถาปนารัฐไทยใหม่ที่พระราชาเป็นดุจกษัตริย์แห่งกัมพูชาใต้กำมือฮุนเซน หรือ “แดงเหลี่ยม” อาจเป็นประธานาธิบดีแทนพระราชาก็ได้..จริงไหม?
แต่นั่นเป็นความคิด “แดงเหลี่ยม” เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ปวงชนชาวไทยไม่มีวันยอม เพราะเชื่อใน “คำพุทธ” สั้นๆ ที่ว่า..ธรรมะต้องชนะอธรรม!
อย่างไรก็ตาม..จะประมาท “แดงเหลี่ยม” ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเขาเคย..
“แอบคิดว่า..หากความสำเร็จในโลกนี้ (สมมติว่า) คือ เลข 2 ทำไมเราอะไรๆ ก็ต้อง 1+1 เท่ากับ 2 หากเลข 2 คือ ความสำเร็จ เราอาจจะคิดแบบ 5-3 เท่ากับ 2 หรือ 6-4 ก็ได้ 2 หรือ 3-1 เท่ากับ 2 เหมือนกันทั้งหมด”
“แดงเหลี่ยม” แอบคิด แต่ภายหลังได้ทำตามทฤษฎี “นอกกรอบ” ที่ว่า
“..ถ้าเราอยากทำอะไร ในเรื่องเดิมที่เคยทำมาแล้ว และทำไม่สำเร็จ โดยหวังว่าจะทำใหม่ให้สำเร็จนั้น ต้องไม่ทำอย่างเดิม เพราะถ้าทำอย่างเดิมจะไม่สำเร็จอีกแน่นอน..”
“แดงเหลี่ยม” ที่ยึด “ชัยชนะ” คือ “ปลายทาง” เขาจะไม่สนใจวิธีการดีหรือชั่วใดๆ ทั้งสิ้น ทุกวิธีการจะถูกงัดมาใช้อย่างพลิกแพลงตามสถานการณ์จริง เช่น
ใช้นโยบายประชานิยมสุดขั้วโดยไม่สนใจชาติจะล่มสลาย-ก็ใช้! ใช้วิธีซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน-ก็ใช้! ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์-ด้วยการล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา-ก็ล้ม!
เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์อริทางการเมือง..ยังไม่ล้ม ต้องใช้วิธีเผาบ้านเผาเมือง-ก็เผา! เผาบ้านเผาเมืองแล้ว-รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังไม่ล้มอีก คราวนี้ยกระดับใช้วิธีก่อการร้ายด้วยอาวุธสงคราม จะมีการบาดเจ็บล้มตายมากแค่ไหน แต่เพื่อชัยชนะ..ใครจะตายช่างมัน..ฆ่าเลย!
ในขณะเดียวกัน “แดงเหลี่ยม” ก็ใช้ทุกวิธีบีบคั้น-คุกคาม “สถาบันสำคัญ” ของชาติ เพื่อหวังการอภัยโทษความผิดให้ตนแล้ว..แต่ไม่ได้ดังใจปรารถนา
ไม่ยอมรึ..อยากลองดีกับ “แดงเหลี่ยม” รึ แบบนี้ต้องโค่นล้มลงเลย!
ยุค ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลนอมินีของทักษิณทั้ง สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ กระทั่งยุคนายกรัฐมนตรีหุ่น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ทักษิณบงการได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด 100%
ล้วนเป็นยุคที่ขบวนการ “ล้มเจ้า” เกิดและเติบใหญ่ เพราะไม่โดนลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง จากรัฐบาลเครือข่าย “แดงเหลี่ยม” เท่าที่ควร แถมขบวนการล้มเจ้า..นับวันจะยิ่งเติบใหญ่ บังอาจ-เหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นปฏิบัติการล้มเจ้ากันอย่างครึกโครมเปิดเผย โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองแม้แต่น้อย!
วันนี้ “แดงเหลี่ยม” กำลังใช้ยุทธการ “ดอกไม้บานพร้อมพรัก” เอาชนะทางการเมือง!
ตามทฤษฎีไม่ซ้ำซากในกฎ 1+1 เป็น 2 แต่ 5-3, 6-4, 3-1 ก็เป็น 2 ดังนั้น “แดงเหลี่ยม” จึงใช้ “เลขทุกตัว” ให้ทำหน้าที่ได้เลข 2 มาไว้ในกำมือไงล่ะครับ?
ชัยชนะ-คือ-เป้าหมาย ต้องใช้ทั้งวิธีดีที่สุดและเลวที่สุดไปคว้า-ชัยชนะ!
ชัยชนะทางการเมือง-เป้าหมาย-คือ ใช้ทุกวิถีทางยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ให้ได้นานที่สุดหรือตลอดไป!!
ชัยชนะที่จะเกิดรัฐไทยใหม่ ต้องใช้ทั้งลาภ-ยศ-เงินทองแจก “ผี-โม่แป้ง” ชนิดไม่อั้น เพื่อใช้ทุกสรรพกำลังโค่นรัฐไทยเก่า ลงให้ได้โดยไม่ลังเลและเร็วที่สุด!!!
คำพูด-จากปาก “ผู้ร้ายเจ้าเล่ห์” มีทั้ง “ยาพิษ” และ “น้ำหวานปนยาพิษ” แสนอันตราย
มนุษย์-ต้องพิเคราะห์-มองทะลุถึงธาตุแท้ “คำพูดคนสามานย์” เพื่อรู้เท่าทันและรอดพ้นจากเล่ห์ชั่วร้ายทั้งปวง
“แดงเหลี่ยม” ใช้พลังแห่ง “คำพูด” ทั้ง “ฆ่าตัวเอง” และ “สร้างตัวเอง” มากมาย..เขาเคยพูดว่า
“ผู้นำยุคใหม่ จะต้องเป็นคนที่เล่าเรื่องได้ดี..เล่าเรื่องเพื่ออะไร เพื่อมีแรงกระตุ้น เพื่อแรงบันดาลใจ เพื่อให้เขาคล้อยตาม เพื่อจะผลักดันสิ่งที่มุ่งหวังไปสู่เป้าหมายได้”
คำพูดของ “แดงเหลี่ยม” นี้-ถูกต้อง หากเขาใช้ความเก่งการพูดไปในทางที่ถูก-ที่ควรและเพื่อส่วนรวม แต่ “แดงเหลี่ยม” กลับใช้ “คำพูด” เพื่อฉ้อฉล คำพูดเขาจึงเต็มไปด้วยการโกหกปลิ้นปล้อน สิ้นความน่าเชื่อถือและเป็น “ขยะพิษแห่งความชั่วร้าย”
แม้จะมี “คำพูด” ไม่น้อยของ “แดงเหลี่ยม” เปื้อน “คำหวาน” แต่เป็น “คำหวานฉาบยาพิษ” ที่ใครหลงเชื่อ จะต้องตายด้วยพิษร้ายไม่ช้าก็เร็ว!
คำพูด “แดงเหลี่ยม” ในหนังสือหลายเล่ม ในหลายกาลเทศะได้ปอกเปลือกสันดาน ให้ผู้คนรู้ธาตุแท้และธาตุลวง “แดงเหลี่ยม” ที่เป็นนายกฯ จอมบงการตัวจริงของชาติไทย โดยมี “ปูแดง” เป็นแค่นายกฯ หุ่นชัดเจน เขาเคยพูดว่า..
“..ต้องสู้นะสู้ให้ที่สุด..สู้จนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ก็ยังกำไรชีวิตนะโว้ย เพราะตอนเกิดมา มาตัวเปล่าไม่มีอะไรติดตัวมานะ..”
จริง “ตอนเกิดมา มาตัวเปล่าไม่มีอะไรติดตัวมา” แล้วทำไมสันดานของ “แดงเหลี่ยม” จึงต้องโลภไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งๆ ที่รู้ว่า..ตายโหงหรือตายด้วยมะเร็ง “ไข่” น่ะ “แดงเหลี่ยม” ก็ลากเอาลาภ-ยศ-เงินทอง ที่โกงมาลงหลุมศพตัวเองไม่ได้?
ทำไมจึงยอมให้ความโลภ-ความชั่ว ทำลายคุณค่า “คน” ให้กลายเป็น “สุนัขบ้าจรจัด” เสียล่ะ..แดงเหลี่ยม?
สำหรับการต่อสู้นั้น “แดงเหลี่ยม” ผู้อหังการเคยปรารภว่า
“อย่าไปอดทนเพื่อรอดูสิ่งที่จะสูญเสียกำลังจะเกิดขึ้น ผมไม่อดทนต่อสู้ในสงครามที่รู้ว่า จะมีจุดจบอยู่ที่ความพ่ายแพ้ เห็นๆ อยู่แล้วว่า อย่างไรก็ต้องสูญเสีย หรือประมาณว่า fighting a losing war”
มิน่า..กองทัพแดงที่ “แดงเหลี่ยม” เป็นจอมทัพ ถึงกล้าบังอาจประกาศตนโค่นล้มรัฐไทยเก่าอย่างซึ่งหน้า “แดงเหลี่ยม” มั่นใจแล้วสิว่า..จะชนะศึก จะสถาปนารัฐไทยใหม่ที่พระราชาเป็นดุจกษัตริย์แห่งกัมพูชาใต้กำมือฮุนเซน หรือ “แดงเหลี่ยม” อาจเป็นประธานาธิบดีแทนพระราชาก็ได้..จริงไหม?
แต่นั่นเป็นความคิด “แดงเหลี่ยม” เพียงฝ่ายเดียว ขณะที่ปวงชนชาวไทยไม่มีวันยอม เพราะเชื่อใน “คำพุทธ” สั้นๆ ที่ว่า..ธรรมะต้องชนะอธรรม!
อย่างไรก็ตาม..จะประมาท “แดงเหลี่ยม” ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเขาเคย..
“แอบคิดว่า..หากความสำเร็จในโลกนี้ (สมมติว่า) คือ เลข 2 ทำไมเราอะไรๆ ก็ต้อง 1+1 เท่ากับ 2 หากเลข 2 คือ ความสำเร็จ เราอาจจะคิดแบบ 5-3 เท่ากับ 2 หรือ 6-4 ก็ได้ 2 หรือ 3-1 เท่ากับ 2 เหมือนกันทั้งหมด”
“แดงเหลี่ยม” แอบคิด แต่ภายหลังได้ทำตามทฤษฎี “นอกกรอบ” ที่ว่า
“..ถ้าเราอยากทำอะไร ในเรื่องเดิมที่เคยทำมาแล้ว และทำไม่สำเร็จ โดยหวังว่าจะทำใหม่ให้สำเร็จนั้น ต้องไม่ทำอย่างเดิม เพราะถ้าทำอย่างเดิมจะไม่สำเร็จอีกแน่นอน..”
“แดงเหลี่ยม” ที่ยึด “ชัยชนะ” คือ “ปลายทาง” เขาจะไม่สนใจวิธีการดีหรือชั่วใดๆ ทั้งสิ้น ทุกวิธีการจะถูกงัดมาใช้อย่างพลิกแพลงตามสถานการณ์จริง เช่น
ใช้นโยบายประชานิยมสุดขั้วโดยไม่สนใจชาติจะล่มสลาย-ก็ใช้! ใช้วิธีซื้อเสียงเลือกตั้งเพื่อยึดอำนาจรัฐด้วยเงิน-ก็ใช้! ล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์-ด้วยการล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา-ก็ล้ม!
เมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์อริทางการเมือง..ยังไม่ล้ม ต้องใช้วิธีเผาบ้านเผาเมือง-ก็เผา! เผาบ้านเผาเมืองแล้ว-รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ยังไม่ล้มอีก คราวนี้ยกระดับใช้วิธีก่อการร้ายด้วยอาวุธสงคราม จะมีการบาดเจ็บล้มตายมากแค่ไหน แต่เพื่อชัยชนะ..ใครจะตายช่างมัน..ฆ่าเลย!
ในขณะเดียวกัน “แดงเหลี่ยม” ก็ใช้ทุกวิธีบีบคั้น-คุกคาม “สถาบันสำคัญ” ของชาติ เพื่อหวังการอภัยโทษความผิดให้ตนแล้ว..แต่ไม่ได้ดังใจปรารถนา
ไม่ยอมรึ..อยากลองดีกับ “แดงเหลี่ยม” รึ แบบนี้ต้องโค่นล้มลงเลย!
ยุค ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยุครัฐบาลนอมินีของทักษิณทั้ง สมัคร สุนทรเวช และ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ กระทั่งยุคนายกรัฐมนตรีหุ่น “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ทักษิณบงการได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด 100%
ล้วนเป็นยุคที่ขบวนการ “ล้มเจ้า” เกิดและเติบใหญ่ เพราะไม่โดนลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง จากรัฐบาลเครือข่าย “แดงเหลี่ยม” เท่าที่ควร แถมขบวนการล้มเจ้า..นับวันจะยิ่งเติบใหญ่ บังอาจ-เหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นปฏิบัติการล้มเจ้ากันอย่างครึกโครมเปิดเผย โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองแม้แต่น้อย!
วันนี้ “แดงเหลี่ยม” กำลังใช้ยุทธการ “ดอกไม้บานพร้อมพรัก” เอาชนะทางการเมือง!
ตามทฤษฎีไม่ซ้ำซากในกฎ 1+1 เป็น 2 แต่ 5-3, 6-4, 3-1 ก็เป็น 2 ดังนั้น “แดงเหลี่ยม” จึงใช้ “เลขทุกตัว” ให้ทำหน้าที่ได้เลข 2 มาไว้ในกำมือไงล่ะครับ?
ชัยชนะ-คือ-เป้าหมาย ต้องใช้ทั้งวิธีดีที่สุดและเลวที่สุดไปคว้า-ชัยชนะ!
ชัยชนะทางการเมือง-เป้าหมาย-คือ ใช้ทุกวิถีทางยึดอำนาจรัฐไว้ในกำมือแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ให้ได้นานที่สุดหรือตลอดไป!!
ชัยชนะที่จะเกิดรัฐไทยใหม่ ต้องใช้ทั้งลาภ-ยศ-เงินทองแจก “ผี-โม่แป้ง” ชนิดไม่อั้น เพื่อใช้ทุกสรรพกำลังโค่นรัฐไทยเก่า ลงให้ได้โดยไม่ลังเลและเร็วที่สุด!!!
