เอเอฟพี - พม่าลงนามข้อตกลงรับความช่วยเหลือจากสิงคโปร์ในการปฏิรูปด้านกฎหมาย การธนาคาร และการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมอ้าแขนรับคลื่นการลงทุนและนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะหลั่งไหลเข้ามา หลังจากมหาอำนาจตะวันตกยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ
ประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า เดินทางถึงสิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ (29) เพื่อเริ่มต้นการเยือนเป็นเวลา 4 วัน โดยมีคณะผู้แทนระดับสูงซึ่งประกอบด้วยผู้นำธุรกิจและรัฐมนตรีอาวุโสด้านเศรษฐกิจร่วมเดินทางไปด้วย
ต่อมาในวันจันทร์ (30) ผู้นำพม่าได้พบกับนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ และผู้นำคนอื่นๆ ที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลง ที่สิงคโปร์จะจัดการฝึกอบรมบุคลากรของพม่าเพื่อการปฏิรูปกฎหมาย การธนาคาร และการเงิน ตลอดจนถึงแบ่งปันแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านการค้า การท่องเที่ยว และการวางผังเมืองให้แก่ฝ่ายพม่า
นักวิเคราะห์มองว่า ในเวลานี้ที่ตะวันตกเล็งผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร และภาคธุรกิจจับตาการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างใกล้ชิด พม่าจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับการลงทุนและนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้อ่อนแอจากการถูกปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการทหารและการบริหารจัดการเศรษฐกิจด้อยประสิทธิภาพมาถึงครึ่งศตวรรษ แต่พม่ามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อาทิ ทองคำ ก๊าซ ไม้สัก น้ำมัน หยก และอัญมณี รวมทั้งแรงงานต้นทุนต่ำจำนวนมาก
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ยังมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวจากสถาปัตยกรรมสไตล์อาณานิคม วัดวาอาราม และหาดทรายสวยงาม
ซองเซ็งวุน นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคของธนาคารซีไอเอ็มบีของมาเลเซีย มองว่า ดูเหมือนพม่าพยายามคว้าโอกาสโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากการคาดว่า ตนเองจะได้รับการต้อนรับจากประชาคมการเมืองระหว่างประเทศในเร็ววันนี้ และมีแนวโน้มว่า พม่าต้องการรับถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินจากสิงคโปร์ เพื่อจัดการกับการไหลเข้าของเงินทุน และสร้างกรอบโครงด้านระเบียบกฎหมายที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด
ทางด้านนักการทูตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผู้หนึ่งสำทับว่า พม่าจำเป็นต้องฝึกฝนนักบัญชี นายธนาคาร และทักษะด้านเทคนิคและบรรษัทภิบาล และทุกสิ่งนี้มีพร้อมแล้วที่สิงคโปร์
สิงคโปร์นั้นเป็นฮับการเงินแห่งภูมิภาคตลอดจนเป็นศูนย์กลางที่บริษัทระดับโลกมากมายโปรดปราน และมักถูกยกเป็นต้นแบบสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากอยู่ใต้การปกครองในระบอบเผด็จการทหารมาเกือบ 5 ทศวรรษ ในที่สุดเมื่อปีที่แล้วพม่าก็มีรัฐบาลพลเรือน และสร้างความประหลาดใจแก่ผู้สังเกตการณ์ภายนอกนับแต่นั้นมาด้วยการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ
เต็งเส่ง อดีตนายกรัฐมนตรีและนายพลเก่าที่เป็นสมาชิกของรัฐบาลทหาร ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ภายหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2010
เอกพล จงวิไลวรรณ นักวิเคราะห์ของสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของสิงคโปร์ ชี้ว่า พวกประเทศเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคต้องช่วยให้พม่าเดินหน้าแผนปฏิรูปประชาธิปไตยต่อไป
“สิงคโปร์จำเป็นต้องผลักดันพม่า เนื่องจากพม่าต้องรับบทบาทสำคัญขึ้นในอาเซียน และการเงินเป็นหนึ่งในแวดวงสำคัญที่สิงคโปร์สามารถสนับสนุนได้
“ผมคิดว่า ขณะนี้ พม่าได้วางพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและการเมืองไว้แล้ว”
อนึ่ง สิงคโปร์จะนำชื่อ ขิ่นขิ่นวิน ภรรยาของเต็งเส่ง ไปตั้งเป็นชื่อกล้วยไม้ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2009 ที่เต็งเส่งเยือนสิงคโปร์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ชื่อของเขาถูกนำไปตั้งเป็นชื่อกล้วยไม้ด้วยเช่นเดียวกัน
ประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า เดินทางถึงสิงคโปร์เมื่อวันอาทิตย์ (29) เพื่อเริ่มต้นการเยือนเป็นเวลา 4 วัน โดยมีคณะผู้แทนระดับสูงซึ่งประกอบด้วยผู้นำธุรกิจและรัฐมนตรีอาวุโสด้านเศรษฐกิจร่วมเดินทางไปด้วย
ต่อมาในวันจันทร์ (30) ผู้นำพม่าได้พบกับนายกรัฐมนตรีลีเซียนลุงของสิงคโปร์ และผู้นำคนอื่นๆ ที่ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลง ที่สิงคโปร์จะจัดการฝึกอบรมบุคลากรของพม่าเพื่อการปฏิรูปกฎหมาย การธนาคาร และการเงิน ตลอดจนถึงแบ่งปันแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านการค้า การท่องเที่ยว และการวางผังเมืองให้แก่ฝ่ายพม่า
นักวิเคราะห์มองว่า ในเวลานี้ที่ตะวันตกเล็งผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร และภาคธุรกิจจับตาการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างใกล้ชิด พม่าจำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับการลงทุนและนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้อ่อนแอจากการถูกปกครองภายใต้ระบอบเผด็จการทหารและการบริหารจัดการเศรษฐกิจด้อยประสิทธิภาพมาถึงครึ่งศตวรรษ แต่พม่ามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อาทิ ทองคำ ก๊าซ ไม้สัก น้ำมัน หยก และอัญมณี รวมทั้งแรงงานต้นทุนต่ำจำนวนมาก
ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ยังมีจุดขายด้านการท่องเที่ยวจากสถาปัตยกรรมสไตล์อาณานิคม วัดวาอาราม และหาดทรายสวยงาม
ซองเซ็งวุน นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคของธนาคารซีไอเอ็มบีของมาเลเซีย มองว่า ดูเหมือนพม่าพยายามคว้าโอกาสโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้จากการคาดว่า ตนเองจะได้รับการต้อนรับจากประชาคมการเมืองระหว่างประเทศในเร็ววันนี้ และมีแนวโน้มว่า พม่าต้องการรับถ่ายทอดความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินจากสิงคโปร์ เพื่อจัดการกับการไหลเข้าของเงินทุน และสร้างกรอบโครงด้านระเบียบกฎหมายที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด
ทางด้านนักการทูตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผู้หนึ่งสำทับว่า พม่าจำเป็นต้องฝึกฝนนักบัญชี นายธนาคาร และทักษะด้านเทคนิคและบรรษัทภิบาล และทุกสิ่งนี้มีพร้อมแล้วที่สิงคโปร์
สิงคโปร์นั้นเป็นฮับการเงินแห่งภูมิภาคตลอดจนเป็นศูนย์กลางที่บริษัทระดับโลกมากมายโปรดปราน และมักถูกยกเป็นต้นแบบสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน
หลังจากอยู่ใต้การปกครองในระบอบเผด็จการทหารมาเกือบ 5 ทศวรรษ ในที่สุดเมื่อปีที่แล้วพม่าก็มีรัฐบาลพลเรือน และสร้างความประหลาดใจแก่ผู้สังเกตการณ์ภายนอกนับแต่นั้นมาด้วยการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ
เต็งเส่ง อดีตนายกรัฐมนตรีและนายพลเก่าที่เป็นสมาชิกของรัฐบาลทหาร ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ภายหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2010
เอกพล จงวิไลวรรณ นักวิเคราะห์ของสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ของสิงคโปร์ ชี้ว่า พวกประเทศเศรษฐกิจชั้นนำในภูมิภาคต้องช่วยให้พม่าเดินหน้าแผนปฏิรูปประชาธิปไตยต่อไป
“สิงคโปร์จำเป็นต้องผลักดันพม่า เนื่องจากพม่าต้องรับบทบาทสำคัญขึ้นในอาเซียน และการเงินเป็นหนึ่งในแวดวงสำคัญที่สิงคโปร์สามารถสนับสนุนได้
“ผมคิดว่า ขณะนี้ พม่าได้วางพื้นฐานสำหรับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจและการเมืองไว้แล้ว”
อนึ่ง สิงคโปร์จะนำชื่อ ขิ่นขิ่นวิน ภรรยาของเต็งเส่ง ไปตั้งเป็นชื่อกล้วยไม้ โดยก่อนหน้านี้เมื่อปี 2009 ที่เต็งเส่งเยือนสิงคโปร์ในฐานะนายกรัฐมนตรี ชื่อของเขาถูกนำไปตั้งเป็นชื่อกล้วยไม้ด้วยเช่นเดียวกัน
