เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับขึ้นเมื่อวันจันทร์(28) หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรตามความคาดหมายว่าจะมีการปล่อยกู้แก่อิตาลีและความพยายามครั้งใหม่ของเหล่าผู้นำยูโรโซนในการจัดการกับวิกฤตหนี้ และปัจจัยหลังนี้เองก็ช่วยส่งให้วอลล์สตรีทปิดบวกแรง
แม้นักลงทุนเริ่มมีหวังว่าเหล่าผู้นำยูโรโซนจะสามารถบรรลุข้อตกลงในแนวทางจัดการกับวิกฤตหนี้ที่ลุกลาม แต่เครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจบางส่วนก็ฉุดไม่ให้ราคาน้ำมันทะยานไปข้างหน้า เช่นเดียวกับกรณีที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ออกมาปฏิเสธข่าวที่ว่าพวกเขากำลังเตรียมการให้ความช่วยเหลือทางเงินแก่อิตาลี
นอกจากนี้ความคึกคักบางส่วนก็ถูกกลบด้วยกระแสความกังวลต่อความยุ่งเหยิงในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานและความวิตกว่าตลาดอาจตึงตัวหลังชาติตะวันตกหลายชาติกำหนดมาตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อชาติผู้ผลิตเชื้อเพลิงอย่างอิหร่านเพื่อกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 98.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งของการซื้อขายพุ่งขึ้นไปถึง 100.74 ดอลลาร์ ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(28) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 8 วัน หลังนักลงทุนยินดีต่อความพยายามครั้งล่าสุดในบรรดาผู้นำชาติยุโรปในการแก้วิกฤตหนี้ของภูมิภาค
"ตลาดหุ้นขยับขึ้นท่ามกลางแรงคาดหมายว่าเหล่าผู้นำชาติยุโรปที่กำลังหารือกันจะให้คำมั่นรักษาวินัยทางงบประมาณเข้มงวดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีการแก้ไขข้อตกลงใดๆ" สกอต์ มาร์คูอิลเลอร์ จากบริษัทที่ปรึกษาเวลล์ส ฟาร์โก กล่าว
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 291.23 จุด (2.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,523.01 แนสแดค เพิ่มขึ้น 85.83 จุด (3.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,527.34 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 33.88 จุด (2.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,192.55
