00 ตอนแรกที่ได้เห็นการโพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับค่าครองชีพทำนายว่าอีกไม่นานคนไทยจะได้กินข้าวราดแกงจานละ 60 บาท เราก็นึกว่านี่เป็นแค่การเสียดสี รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและ นายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยคุยโม้เอาไว้ตอนหาเสียงว่า “จะกระชากค่าครองชีพ” ลงมา แต่ที่ไหนได้ ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรกลายเป็นว่า “ข้าวของในยุคปู” โคตรแพงยิ่งกว่ารัฐบาลมาร์ค เป็นไหนๆ ไม่ว่า หมู ไก่ ไปจนถึงไข่ไก่ ไข่ดาว โดยเฉพาะไข่ดาวนี่ว่ากันว่าทะลุขึ้นไปถึงฟองละ 10 บาท จริงเท็จยังไม่กล้ายืนยันเพราะยังไม่ได้เห็นกับตา แต่ได้ยินมาอย่างนั้นจริงๆ อย่างไรก็ดีที่แน่ๆก็คือข้าวราดแกงสองอย่างจานละ 40 บาทนั้นเห็นจนชินตาแล้ว พี่น้องเสื้อแดงเอ๋ย เป็นไงละ
00 ก็จะไม่ให้พุ่งพรวดได้ไงในเมื่อราคาน้ำมัน-แก๊ส ซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับราคาจนชาวบ้านแทบอ๊วกกันแล้ว เวลานี้ดีเซลปรับไปที่ลิตรละ 31.13 บาทเข้าไปแล้ว และเมื่อฟังจากคำพูดของ รมว.พลังงานคนใหม่ อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ก็แย้มเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนว่าในอนาคตอาจตรึงราคาดีเซลที่ลิตรละไม่เกิน 32 บาท โอ้พระเจ้าจอร์จ ความหมายก็คือตอนนี้ “รัฐบาลถังแตก” ขอเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่วนการต่ออายุการไม่เก็บภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันนั้นขอเว้นวรรคไปชั่วคราวก่อน แต่ตอนนี้ “ถังแตก” จริงๆอดทนกันสักนิดนะ
00 นอกจากราคาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคที่ปรับราคากันไปแบบไม่รอใครแล้ว ขณะที่ราคาข้าวถุงก็จ่อคิวจะปรับอีก 5-10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาค่าโดยสารทั้งรถขนส่ง เรือเมล์ก็เริ่มสุมหัวกันขอปรับอีก 2 บาท เรือข้ามฟากอีก 50 ส.ต.สนุกกันละทีนี้ อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ดี(จริงๆ)ก็ต้องอดทนกันไว้ เพราะ ล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมาจากแดนไกลชวนคนไทย(เสื้อแดง)ให้ “มารวยด้วยกัน” ใครเชื่อน้ำลายก็ไม่ว่ากัน เชิญตามสะดวก !!
00 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาจากดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ ถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าวันที่ 29 ม.ค. คุยฟุ้งว่าสำเร็จเกินคาดหมาย ที่ว่าสำเร็จนั้นไม่รู้ว่า “ไปเดินแฟชั่น” ประเภทเสื้อผ้าหน้าผมทำได้โดดเด่นเหนือคนอื่นหรือไม่ไม่ทราบ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เธอพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเป็นอันต้องหายใจไม่ทั่วท้องจริงๆ เอาเป็นว่าไม่อยากพูดซ้ำเติมกันมาก แต่ถ้าได้เห็นท่าทางไม่ว่าจะพูด จะตอบคำถามดูแล้วมันไม่มีแววผู้นำ ส่วนเรื่องวิสัยทัศน์นั้นเลิกพูดถึงไปได้เลย
00 เป็นเพราะความมั่ว ความกลวงตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงมาจนถึงคณะกรรมการยุทธศาตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำ(กยน.) ที่กำลังปั่นป่วน กรรมการหลายคนบ่นอึดอัดที่เห็นชัดก็คือ สมิทธ ธรรมสโรจน์ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีแผนบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจน แต่ในหัวของรัฐบาลมีแต่เรื่องคิดจะกู้เงินมากองไว้ก่อน คนพวกนี้ก็กลัวว่า “จะเสียสุนัขก่อนแก่” จึงเตรียมชิ่ง เพราะดูแล้วไปไม่รอด นี่ก็ใกล้จะถึงฤดูน้ำหลากมาอีกรอบ ยังมัวแต่หันรีหันขวางกันอยู่ และยิ่งได้ยิน นายกฯนกแก้ว สำทับมาอีกว่า “เอาอยู่ค้า” ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน
00 เห็นอาการแล้วรัฐบาลนี้กลัว “ปฏิวัติ”จนขี้ขึ้นสมอง เรื่องของเรื่องไม่ใช่อะไร สาเหตุมาจากเรื่องทำได้ “ไม่สมราคาคุย” หรือว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ว่าจะเรื่องของแพง น้ำมันแพง ดีแต่กู้ ชาวบ้านจนลง แต่แม้วรวยเอาๆ หรือแม้แต่หัวโจกไพร่ก็กลายเป็นอำมาตย์รวยกันไม่รู้เรื่อง และเมื่อมาเจอเรื่อง “ปากว่าตาขยิบ” นิติเนรคุณ-ล้มเจ้า อารมณ์คนมันก็ขาดผึง นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้ชิ่งหนีเอาตัวรอดกันอุตลุด ทั้ง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง ต้องออกมาส่งเสียงปากคอสั่นว่าไม่เกี่ยว ส่วนจะมีใครเชื่อหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง !!
00 ก็จะไม่ให้พุ่งพรวดได้ไงในเมื่อราคาน้ำมัน-แก๊ส ซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับราคาจนชาวบ้านแทบอ๊วกกันแล้ว เวลานี้ดีเซลปรับไปที่ลิตรละ 31.13 บาทเข้าไปแล้ว และเมื่อฟังจากคำพูดของ รมว.พลังงานคนใหม่ อารักษ์ ชลธาร์นนท์ ก็แย้มเมื่อต้นสัปดาห์ก่อนว่าในอนาคตอาจตรึงราคาดีเซลที่ลิตรละไม่เกิน 32 บาท โอ้พระเจ้าจอร์จ ความหมายก็คือตอนนี้ “รัฐบาลถังแตก” ขอเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่วนการต่ออายุการไม่เก็บภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันนั้นขอเว้นวรรคไปชั่วคราวก่อน แต่ตอนนี้ “ถังแตก” จริงๆอดทนกันสักนิดนะ
00 นอกจากราคาอาหารเครื่องอุปโภคบริโภคที่ปรับราคากันไปแบบไม่รอใครแล้ว ขณะที่ราคาข้าวถุงก็จ่อคิวจะปรับอีก 5-10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาค่าโดยสารทั้งรถขนส่ง เรือเมล์ก็เริ่มสุมหัวกันขอปรับอีก 2 บาท เรือข้ามฟากอีก 50 ส.ต.สนุกกันละทีนี้ อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ดี(จริงๆ)ก็ต้องอดทนกันไว้ เพราะ ล่าสุด ทักษิณ ชินวัตร โฟนอินมาจากแดนไกลชวนคนไทย(เสื้อแดง)ให้ “มารวยด้วยกัน” ใครเชื่อน้ำลายก็ไม่ว่ากัน เชิญตามสะดวก !!
00 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับมาจากดาวอส สวิสเซอร์แลนด์ ถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้วเมื่อเช้าวันที่ 29 ม.ค. คุยฟุ้งว่าสำเร็จเกินคาดหมาย ที่ว่าสำเร็จนั้นไม่รู้ว่า “ไปเดินแฟชั่น” ประเภทเสื้อผ้าหน้าผมทำได้โดดเด่นเหนือคนอื่นหรือไม่ไม่ทราบ เพราะเมื่อใดก็ตามที่เธอพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเป็นอันต้องหายใจไม่ทั่วท้องจริงๆ เอาเป็นว่าไม่อยากพูดซ้ำเติมกันมาก แต่ถ้าได้เห็นท่าทางไม่ว่าจะพูด จะตอบคำถามดูแล้วมันไม่มีแววผู้นำ ส่วนเรื่องวิสัยทัศน์นั้นเลิกพูดถึงไปได้เลย
00 เป็นเพราะความมั่ว ความกลวงตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงมาจนถึงคณะกรรมการยุทธศาตร์เพื่อการวางระบบการบริหารจัดการน้ำ(กยน.) ที่กำลังปั่นป่วน กรรมการหลายคนบ่นอึดอัดที่เห็นชัดก็คือ สมิทธ ธรรมสโรจน์ เนื่องจากเห็นว่าไม่มีแผนบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจน แต่ในหัวของรัฐบาลมีแต่เรื่องคิดจะกู้เงินมากองไว้ก่อน คนพวกนี้ก็กลัวว่า “จะเสียสุนัขก่อนแก่” จึงเตรียมชิ่ง เพราะดูแล้วไปไม่รอด นี่ก็ใกล้จะถึงฤดูน้ำหลากมาอีกรอบ ยังมัวแต่หันรีหันขวางกันอยู่ และยิ่งได้ยิน นายกฯนกแก้ว สำทับมาอีกว่า “เอาอยู่ค้า” ก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน
00 เห็นอาการแล้วรัฐบาลนี้กลัว “ปฏิวัติ”จนขี้ขึ้นสมอง เรื่องของเรื่องไม่ใช่อะไร สาเหตุมาจากเรื่องทำได้ “ไม่สมราคาคุย” หรือว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ไม่ว่าจะเรื่องของแพง น้ำมันแพง ดีแต่กู้ ชาวบ้านจนลง แต่แม้วรวยเอาๆ หรือแม้แต่หัวโจกไพร่ก็กลายเป็นอำมาตย์รวยกันไม่รู้เรื่อง และเมื่อมาเจอเรื่อง “ปากว่าตาขยิบ” นิติเนรคุณ-ล้มเจ้า อารมณ์คนมันก็ขาดผึง นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมถึงได้ชิ่งหนีเอาตัวรอดกันอุตลุด ทั้ง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทั้ง เฉลิม อยู่บำรุง ต้องออกมาส่งเสียงปากคอสั่นว่าไม่เกี่ยว ส่วนจะมีใครเชื่อหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง !!