00 เริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้วพี่น้อง เมื่อดูไปดูมา กลายเป็นว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังอยู่ภายใต้การชี้นำของ “เหลิมแอ๊กอาร์ต” มากขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นว่าทุกอย่างกำลังเริ่ม “รวมศูนย์” อยู่ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เรื่องที่ไม่ควรรู้ ก็รู้ เรื่องที่ไม่ควรพูด ก็พูด แต่เรื่องที่ควรทำไม่ทำ ซึ่งเวลานี้ถ้าใครเปิดทีวี หรืออ่านข่าวหนังสือพิมพ์รวมไปถึงสื่อออนไลน์ทุกค่ายก็เจอความเห็นจนแทบอ๊วก ประเภทรู้ลึก รู้จริง เล่าเรื่องราวเป็นฉากๆ ฟังจนเวียนหัว
00 เริ่มจากคดียิงหัวคะแนนของ แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เขตดอนเมืองก็ด่วนสรุปว่า เกิดจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัวออกมาในทำนอง “ธุรกิจมืด” เรื่องคดีเสื้อแดง 13 ศพ คดียิงลูกเรือจีน 13 ศพ คดีวางระเบิดใกล้กองสลาก และล่าสุดแม้กระทั่งคดีลอบยิง “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ก็ยังรู้อีกว่าเป็นฝีมือใคร “สี” ใด
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตาและเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญก็คือเหตุการณ์ “ตั้งวง” กินข้าวเที่ยง กับผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อหลายวันก่อน ข่าวออกมาว่าบิ๊กกองทัพเร่งรัดให้ เหลิม จัดการปราบเว็บหมิ่นฯ แต่รับรองว่าต้องมี “เรื่องเครียด” มากกว่านั้นแน่นอน หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้มีการระบุว่า “ทหารเป็นคนสังหาร” ลูกเรือจีน รวมถึงรื้อคดีให้ตำรวจดูแลคดีฆ่าเสื้อแดง 13 ศพ กำลังไล่บี้ และเรียก สุเทพ-อภิสิทธิ์ ไปให้ปากคำ กำลังพุ่งมาที่สีเขียวจวนตัวทุกขณะ แต่หลังจากนั้นกลายเป็นตรงกันข้าม กลายเป็นว่า เป็นฝีมือของ “สีกากีใส่ชุดดำ” หน้าตาเฉย แต่ขอโทษเที่ยวนี้กลายเป็น “สีกากีสายบุรีรัมย์” เสียนี่ โอ พระเจ้าจอร์จ !!
00 ขนาดลูกสาว เสธ.แดง "ขัตติยา สวัสดิผล" ที่ได้ดีเป็น ส.ส.เพื่อไทย ตอนแรกก็ยังตะลึงไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ถ้าลองไปถามคนเสื้อแดงรับรองว่า เกือบร้อยละร้อยต้องพุ่งไปที่ “สีเขียว” แต่ในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เห็นคล้อยตาม สุดยอดจริง เฮียเหลิมของเรา งานนี้กลายเป็นว่า “ทหารรอดปากเหยี่ยว” ไปแล้ว หรือว่าไง กลายเป็นว่าเป้าหมายใหม่มุ่งมาที่ “ห้อยบุรีรัมย์” ไปเสียฉิบ อุบ ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ แต่ทางที่ดีตำรวจที่ทำคดีต้องออกหมายเรียก เฉลิม ไปให้ปากคำ เพราะรู้ดีนัก !!
00 ถ้าบอกว่าคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ รับรองคงไม่มีใครเกิน ทักษิณ ชินวัตร เพราะเวลานี้เขาได้ประโยชน์ มีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรกันอีก เริ่มจากเรื่อง รธน.ก่อนก็ได้ แม้จะอ้างว่าเป็น รธน.ปี 50 ที่เกิดจาก “มดลูก” ของเผด็จการ ก็ว่ากันไป แต่เวลานี้ก็มีรัฐบาล มีรัฐมนตรีส่วนตัว มีแม้กระทั่ง นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นน้องสาวนี่ก็ “โคลนนิ่ง” ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก มีส.ส.พรรคเพื่อไทยค้ำอำนาจเต็มสภา ก็มาจากรธน.ที่อ้างว่าเป็นเผด็จการนี่แหละ สามารถแต่งตั้งข้าราชการเป็นมือไม้ได้เต็มที่ น่าจะทำหน้าที่บริหารเอาใจชาวบ้าน สร้างนโยบายประชานิยมให้ “รากหญ้าตกเป็นทาส” ไปเรื่อยๆ รับรองว่าถึงบริหารห่วยแตกแค่ไหน รับรองว่าน่าจะครบวาระอยู่แล้ว
00 แต่นี่ดันจะ“หาเรื่อง” คิดจะรวบเอาทุกอย่าง “ได้คืบจะเอาวา” คิดจะแก้ รธน.นิรโทษกรรมให้ตัวเอง เพียงเพื่อให้ได้มีอำนาจเต็มตัว ได้เงินคืน เหยียดหยามหัวใจคนไทย เหยียดหยามกระบวนการยุติธรรมที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ แถมยังมีข่าวว่า จะรื้อ ม.112 มาขยี้หัวใจกันอีก รับรองว่าถ้ายังไม่หยุด ก็จะต้องเจอกับการรวมพลังต่อต้านครั้งใหญ่แน่ เที่ยวนี้มีแววฉิบหายกันทั้งตระกูลเสียด้วย นะจะบอกให้ หรือมองอีกอารมณ์หนึ่ง เป็นเพราะเมาไวน์เหลิมหรือเปล่าไม่รู้ มันโง่หรือฉลาดกันแน่ (วะ) !!
00 เริ่มจากคดียิงหัวคะแนนของ แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปชป. เขตดอนเมืองก็ด่วนสรุปว่า เกิดจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัวออกมาในทำนอง “ธุรกิจมืด” เรื่องคดีเสื้อแดง 13 ศพ คดียิงลูกเรือจีน 13 ศพ คดีวางระเบิดใกล้กองสลาก และล่าสุดแม้กระทั่งคดีลอบยิง “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ก็ยังรู้อีกว่าเป็นฝีมือใคร “สี” ใด
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตาและเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญก็คือเหตุการณ์ “ตั้งวง” กินข้าวเที่ยง กับผู้นำเหล่าทัพ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อหลายวันก่อน ข่าวออกมาว่าบิ๊กกองทัพเร่งรัดให้ เหลิม จัดการปราบเว็บหมิ่นฯ แต่รับรองว่าต้องมี “เรื่องเครียด” มากกว่านั้นแน่นอน หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้มีการระบุว่า “ทหารเป็นคนสังหาร” ลูกเรือจีน รวมถึงรื้อคดีให้ตำรวจดูแลคดีฆ่าเสื้อแดง 13 ศพ กำลังไล่บี้ และเรียก สุเทพ-อภิสิทธิ์ ไปให้ปากคำ กำลังพุ่งมาที่สีเขียวจวนตัวทุกขณะ แต่หลังจากนั้นกลายเป็นตรงกันข้าม กลายเป็นว่า เป็นฝีมือของ “สีกากีใส่ชุดดำ” หน้าตาเฉย แต่ขอโทษเที่ยวนี้กลายเป็น “สีกากีสายบุรีรัมย์” เสียนี่ โอ พระเจ้าจอร์จ !!
00 ขนาดลูกสาว เสธ.แดง "ขัตติยา สวัสดิผล" ที่ได้ดีเป็น ส.ส.เพื่อไทย ตอนแรกก็ยังตะลึงไม่เชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ถ้าลองไปถามคนเสื้อแดงรับรองว่า เกือบร้อยละร้อยต้องพุ่งไปที่ “สีเขียว” แต่ในที่สุดก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เห็นคล้อยตาม สุดยอดจริง เฮียเหลิมของเรา งานนี้กลายเป็นว่า “ทหารรอดปากเหยี่ยว” ไปแล้ว หรือว่าไง กลายเป็นว่าเป้าหมายใหม่มุ่งมาที่ “ห้อยบุรีรัมย์” ไปเสียฉิบ อุบ ขอโทษไม่ได้ตั้งใจ แต่ทางที่ดีตำรวจที่ทำคดีต้องออกหมายเรียก เฉลิม ไปให้ปากคำ เพราะรู้ดีนัก !!
00 ถ้าบอกว่าคนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ รับรองคงไม่มีใครเกิน ทักษิณ ชินวัตร เพราะเวลานี้เขาได้ประโยชน์ มีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว ไม่รู้จะเอาอะไรกันอีก เริ่มจากเรื่อง รธน.ก่อนก็ได้ แม้จะอ้างว่าเป็น รธน.ปี 50 ที่เกิดจาก “มดลูก” ของเผด็จการ ก็ว่ากันไป แต่เวลานี้ก็มีรัฐบาล มีรัฐมนตรีส่วนตัว มีแม้กระทั่ง นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นน้องสาวนี่ก็ “โคลนนิ่ง” ชนะเลือกตั้งได้เสียงข้างมาก มีส.ส.พรรคเพื่อไทยค้ำอำนาจเต็มสภา ก็มาจากรธน.ที่อ้างว่าเป็นเผด็จการนี่แหละ สามารถแต่งตั้งข้าราชการเป็นมือไม้ได้เต็มที่ น่าจะทำหน้าที่บริหารเอาใจชาวบ้าน สร้างนโยบายประชานิยมให้ “รากหญ้าตกเป็นทาส” ไปเรื่อยๆ รับรองว่าถึงบริหารห่วยแตกแค่ไหน รับรองว่าน่าจะครบวาระอยู่แล้ว
00 แต่นี่ดันจะ“หาเรื่อง” คิดจะรวบเอาทุกอย่าง “ได้คืบจะเอาวา” คิดจะแก้ รธน.นิรโทษกรรมให้ตัวเอง เพียงเพื่อให้ได้มีอำนาจเต็มตัว ได้เงินคืน เหยียดหยามหัวใจคนไทย เหยียดหยามกระบวนการยุติธรรมที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ แถมยังมีข่าวว่า จะรื้อ ม.112 มาขยี้หัวใจกันอีก รับรองว่าถ้ายังไม่หยุด ก็จะต้องเจอกับการรวมพลังต่อต้านครั้งใหญ่แน่ เที่ยวนี้มีแววฉิบหายกันทั้งตระกูลเสียด้วย นะจะบอกให้ หรือมองอีกอารมณ์หนึ่ง เป็นเพราะเมาไวน์เหลิมหรือเปล่าไม่รู้ มันโง่หรือฉลาดกันแน่ (วะ) !!