คราบน้ำตาจากมหาอุทกภัยที่ผ่านมาแห้งไปแล้ว แต่หลายแห่งยังคงทิ้งร่องรอยความเสียหายและคราบน้ำที่ท่วมสูงถึงคอในบางพื้นที่ หลายคนยังไม่ได้เข้าไปนอนในบ้านตัวเอง เพราะต้องรื้อซ่อมใหม่หมดทั้งหลัง ไม่มีใครประเมินความเสียหายได้อย่างแน่นอน แต่น่าจะสูญเสียมากกว่า 1.4 แสนล้านล้านบาท ความสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่ความเสียหายเฉพาะทางด้านวัตถุเท่านั้นที่ประเมินเป็นตัวเงินได้ ยังมีการสูญเสียรายได้ประจำ การสูญเสียโอกาสที่ยากจะประเมิน การสูญเสียชีวิตของประชาชนกว่า 800 ราย ตลอดจนผลกระทบทางด้านจิตใจนั้นมากมายมหาศาล มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้างหรือยัง
ในระบอบประชาธิปไตยที่เรียกร้องกันนักหนาว่า “อำนาจต้องเป็นของประชาชน” วันนี้ประชาชนมีอำนาจจริงหรือ แม้แต่นายกฯ และคณะรัฐมนตรีเองก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าของพรรคตัวจริงที่อยู่นอกประเทศ
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ออกมาพูดด้วยความเหลืออดเหลือทนกับความไม่เอาไหนในการวางแผนและการเตรียมรับมือกับภัยครั้งใหม่ที่มีโอกาสจะเกิดซ้ำได้อีก น้ำลดมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่โครงการต่างๆ ที่จะทำยังไม่มีแนวทางการที่ชัดเจนออกมาให้เห็น ทั้งที่ขออนุมัติเงินงบประมาณไปแล้วกว่า 3.5 แสนล้านบาท หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความเสี่ยงของบ้านเมืองที่จะประสบหายนะภัยครั้งใหม่ย่อมมีสูง
งบประมาณที่กรุงเทพมหานครได้ขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อขุดลอกคูคลอง ก็ถูกเล่นแง่ด้วยเหตุผลทางการเมืองเพื่อเอาชนะคะคานกัน หวังผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในปีหน้า
สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา วางแผนเพื่อการเร่งระบายน้ำหลากทั้งระยะสั้น และระยะยาว มีงานวิจัยเรื่องน้ำอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ ทั้งของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ตลอดจนสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ก็มีข้อมูลให้นำมาศึกษาเป็นจำนวนมาก โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงวางรากฐานไว้ตั้งแต่ปี 2526 ก็ไม่ได้ถูกนำมาต่อยอดอย่างจริงจัง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อุตส่าห์ยอมเปลืองตัวมาเป็นที่ปรึกษาเรื่องน้ำให้กับรัฐบาล แต่คนของรัฐบาลกลับไม่ใส่ใจ เพียงแค่เอาไว้ใช้อ้างถึงว่าเป็นคนของพระเจ้าอยู่หัว หากโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ไม่ได้ผล ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดาได้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะโทษใคร เพราะเท่าที่ทราบกันดีก็คงเคยได้ยินข้อกล่าวหาที่ว่า สาเหตุของน้ำท่วมที่ผ่านมานั้น เพราะสองเขื่อนใหญ่เป็นคนทำ มีชาวบ้านจำนวนมากที่หลงเชื่อว่าเป็นความจริง และคิดว่ารัฐบาลน้องสาว ซึ่งเป็นตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกกลั่นแกล้งเพื่อทำลายชื่อเสียง
นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งถูกปล่อยร้าง ผู้ประกอบการบางรายปิดตายโรงงาน บ้างก็ลอยแพคนงาน อีกหลายแห่งต้องย้ายฐานการผลิตไปหาสถานที่ใหม่ที่มีหลักประกันให้มั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่ท่วมซ้ำอีก บางรายถึงกับออกไปตั้งฐานการผลิตใหม่ถึงเวียดนาม อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯ
เขาไม่เชื่อน้ำยาของรัฐบาลที่เอาแต่พูด แต่ไม่ลงมือทำ แถมยังโกหกเก่งอีกต่างหาก นายกฯ หญิงที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวย จนโด่งดังไปทั่วโลกในแง่ของความเป็นเจ้าแฟชั่น แต่ไม่มีใครพูดถึงมันสมองและความสามารถ (เพราะไม่เคยปรากฏให้เห็น) เธอจะรับผิดชอบอะไรกับความหายนะของบ้านเมืองจากความผิดพลาดในการบริหาร ไม่ใช่ภัยธรรมชาติอย่างแน่นอน อธิบดีและรัฐมนตรีที่ควรจะต้องออกมารับผิดชอบก็ยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดิมด้วยเหตุผลทางการเมือง
ฤดูฝนในภาคใต้ ฝนหยุดตกฟ้าสว่าง ฤดูหนาวที่กรุงเทพฯ กลับเจอพายุฝนติดต่อกันหลายวัน ส่วนต้นฤดูหนาวในภาคเหนือที่อากาศไม่ค่อยหนาว เมื่อกลางเดือนมกราคมอุณหภูมิกลับลดลงมากและหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลกกำลังรุนแรงขึ้นในทุกทวีป น้ำแข็งขั้วโลกละลายลงอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ น้ำในทะเลจะเพิ่มขึ้นทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะสูงขึ้น โลกของเราและวัฏจักรของธรรมชาติกำลังถูกทำลายจากฝีมือมนุษย์เอง
น้ำในทุ่งยังคงท่วมขังอยู่ในพื้นที่ภาคกลางอีกเป็นจำนวนมาก พื้นดินยังไม่แห้ง ปากน้ำยังระบายน้ำออกได้ไม่หมด เขื่อนใหญ่ๆ ยังคงกักเก็บน้ำไว้ถึง 90% ในขณะที่อีกไม่ถึง 3 เดือนข้างหน้าฤดูฝนก็จะมาเร็วขึ้น เพราะความแปรปรวนของธรรมชาติ ผู้รู้ชาวบ้านที่สั่งสมภูมิปัญญามาช้านานได้ออกมาเตือนว่าอย่าได้ประมาท ฤดูฝนปีนี้ถ้าไม่เตรียมตัวตั้งรับให้ดี เราคงได้เห็นพี่น้ำมาเยือนแทนน้องน้ำเป็นแน่
รัฐบาลปูแดงจะอยู่ทันได้ต้อนรับพี่น้ำหรือไม่ โปรดติดตามชมกันต่อไป
ในระบอบประชาธิปไตยที่เรียกร้องกันนักหนาว่า “อำนาจต้องเป็นของประชาชน” วันนี้ประชาชนมีอำนาจจริงหรือ แม้แต่นายกฯ และคณะรัฐมนตรีเองก็ยังอยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าของพรรคตัวจริงที่อยู่นอกประเทศ
ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ออกมาพูดด้วยความเหลืออดเหลือทนกับความไม่เอาไหนในการวางแผนและการเตรียมรับมือกับภัยครั้งใหม่ที่มีโอกาสจะเกิดซ้ำได้อีก น้ำลดมากว่า 2 เดือนแล้ว แต่โครงการต่างๆ ที่จะทำยังไม่มีแนวทางการที่ชัดเจนออกมาให้เห็น ทั้งที่ขออนุมัติเงินงบประมาณไปแล้วกว่า 3.5 แสนล้านบาท หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ความเสี่ยงของบ้านเมืองที่จะประสบหายนะภัยครั้งใหม่ย่อมมีสูง
งบประมาณที่กรุงเทพมหานครได้ขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อขุดลอกคูคลอง ก็ถูกเล่นแง่ด้วยเหตุผลทางการเมืองเพื่อเอาชนะคะคานกัน หวังผลในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในปีหน้า
สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหา วางแผนเพื่อการเร่งระบายน้ำหลากทั้งระยะสั้น และระยะยาว มีงานวิจัยเรื่องน้ำอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ ทั้งของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ตลอดจนสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ก็มีข้อมูลให้นำมาศึกษาเป็นจำนวนมาก โครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงวางรากฐานไว้ตั้งแต่ปี 2526 ก็ไม่ได้ถูกนำมาต่อยอดอย่างจริงจัง
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อุตส่าห์ยอมเปลืองตัวมาเป็นที่ปรึกษาเรื่องน้ำให้กับรัฐบาล แต่คนของรัฐบาลกลับไม่ใส่ใจ เพียงแค่เอาไว้ใช้อ้างถึงว่าเป็นคนของพระเจ้าอยู่หัว หากโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ไม่ได้ผล ไม่ต้องบอกก็คงพอจะเดาได้ว่ารัฐบาลชุดนี้จะโทษใคร เพราะเท่าที่ทราบกันดีก็คงเคยได้ยินข้อกล่าวหาที่ว่า สาเหตุของน้ำท่วมที่ผ่านมานั้น เพราะสองเขื่อนใหญ่เป็นคนทำ มีชาวบ้านจำนวนมากที่หลงเชื่อว่าเป็นความจริง และคิดว่ารัฐบาลน้องสาว ซึ่งเป็นตัวแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกกลั่นแกล้งเพื่อทำลายชื่อเสียง
นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งถูกปล่อยร้าง ผู้ประกอบการบางรายปิดตายโรงงาน บ้างก็ลอยแพคนงาน อีกหลายแห่งต้องย้ายฐานการผลิตไปหาสถานที่ใหม่ที่มีหลักประกันให้มั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่ท่วมซ้ำอีก บางรายถึงกับออกไปตั้งฐานการผลิตใหม่ถึงเวียดนาม อินเดีย มาเลเซีย ฯลฯ
เขาไม่เชื่อน้ำยาของรัฐบาลที่เอาแต่พูด แต่ไม่ลงมือทำ แถมยังโกหกเก่งอีกต่างหาก นายกฯ หญิงที่วันๆ เอาแต่แต่งตัวสวย จนโด่งดังไปทั่วโลกในแง่ของความเป็นเจ้าแฟชั่น แต่ไม่มีใครพูดถึงมันสมองและความสามารถ (เพราะไม่เคยปรากฏให้เห็น) เธอจะรับผิดชอบอะไรกับความหายนะของบ้านเมืองจากความผิดพลาดในการบริหาร ไม่ใช่ภัยธรรมชาติอย่างแน่นอน อธิบดีและรัฐมนตรีที่ควรจะต้องออกมารับผิดชอบก็ยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดิมด้วยเหตุผลทางการเมือง
ฤดูฝนในภาคใต้ ฝนหยุดตกฟ้าสว่าง ฤดูหนาวที่กรุงเทพฯ กลับเจอพายุฝนติดต่อกันหลายวัน ส่วนต้นฤดูหนาวในภาคเหนือที่อากาศไม่ค่อยหนาว เมื่อกลางเดือนมกราคมอุณหภูมิกลับลดลงมากและหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศของโลกกำลังรุนแรงขึ้นในทุกทวีป น้ำแข็งขั้วโลกละลายลงอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ น้ำในทะเลจะเพิ่มขึ้นทุกปี อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะสูงขึ้น โลกของเราและวัฏจักรของธรรมชาติกำลังถูกทำลายจากฝีมือมนุษย์เอง
น้ำในทุ่งยังคงท่วมขังอยู่ในพื้นที่ภาคกลางอีกเป็นจำนวนมาก พื้นดินยังไม่แห้ง ปากน้ำยังระบายน้ำออกได้ไม่หมด เขื่อนใหญ่ๆ ยังคงกักเก็บน้ำไว้ถึง 90% ในขณะที่อีกไม่ถึง 3 เดือนข้างหน้าฤดูฝนก็จะมาเร็วขึ้น เพราะความแปรปรวนของธรรมชาติ ผู้รู้ชาวบ้านที่สั่งสมภูมิปัญญามาช้านานได้ออกมาเตือนว่าอย่าได้ประมาท ฤดูฝนปีนี้ถ้าไม่เตรียมตัวตั้งรับให้ดี เราคงได้เห็นพี่น้ำมาเยือนแทนน้องน้ำเป็นแน่
รัฐบาลปูแดงจะอยู่ทันได้ต้อนรับพี่น้ำหรือไม่ โปรดติดตามชมกันต่อไป