xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จากไพร่ตัวพ่อสู่อำมาตย์เต้น ทำไมต้อง รมช.เกษตร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ไม่ว่าใครจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร แต่ถึงที่สุดแล้ว ณ บัดนี้ก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้ว่า เพลานี้ “เดอะเต้น-นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ได้กลายสภาพจากไพร่ตัวพ่อเป็นรองอำมาตย์ใหญ่ในตำแหน่ง “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีหน่วยงานที่ขึ้นตรง 4 กรมกับอีก 3 รัฐวิสาหกิจ

7 หน่วยงานภายใต้การบังคับบัญชาของอำมาตย์เต้นที่ว่านั้น คือ 7 หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับของ “เสี่ยลาว-นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนเดิม

ประกอบด้วย กรมพัฒนาที่ดิน กรมส่งเสริมสหกรณ์  กรมวิชาการเกษตร กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ส่วน 3 รัฐวิสาหกิจคือ องค์การสะพานปลา องค์การสวนยาง และกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง

เรียกว่า เป็นหน่วยงานที่สอดรับกับความเป็นนายณัฐวุฒิที่ชัดเจนที่สุด เพียงแต่จะต้องติดตามกันต่อไปว่า “มหาอำมาตย์ตัวจริง” ที่ยืนทะมึนอยู่เบื้องหลังนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะผ่องถ่ายอำนาจที่แท้จริงให้หรือไม่ เหมือนดังเช่นที่นายพรศักดิ์เคยเผชิญคือ เป็นได้แค่รัฐมนตรีเปิดป้าย แต่ไม่มีงบประมาณในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะถูกกั๊กเอาไว้ที่ส่วนกลางทั้งหมด จนทำเอานายพรศักดิ์ง่อยเปลี้ยเสียขา ไม่มีผลงานและไม่มีอะไรทำจวบจนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีไป

การก้าวขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของนายณัฐวุฒิคือสิ่งที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของ “คนเสื้อแดง” ได้เป็นอย่างดีว่า ทรงอิทธิพลและมีความหมายสำหรับ นช.ทักษิณ ชินวัตรเพียงใด ขณะเดียวกันก็เป็นภาพสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ผู้ที่ทำงานรับใช้ถวายหัวให้กับนายใหญ่จักต้องได้รับผลตอบแทนอย่างถึงที่สุด ทั้งเงินทองและอำนาจวาสนา

นี่คือการตบรางวัลให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะที่บรรดาทีมงานของนายณัฐวุฒิก็ต้องบอกว่า ล้วนแล้วแต่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงตัวพ่อทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้ามิตซูชิต้าอย่างนายสมหวัง อัสราศรี ที่มานั่งเก้าอี้เป็นที่ปรึกษา รมช. นายอารี ไกรนารา ที่ถูกเด้งจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเป็นเลขาฯรมช.ของนายณัฐวุฒิ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ นายรังสี เสรีชัย นายจิรายุทธ นาเกตุ เป็นคณะทำงาน รมช. นายมฆวัต กาญวัฒกิจ เป็นหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี

อย่างไรก็ตาม คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ อะไรคือนัยสำคัญของการนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

แน่นอน นอกจากประเด็นในเรื่องการเข้าไปคานอำนาจมังกรเตี้ยจากเมืองสุพรรณบุรีแล้ว ต้องยอมรับว่านี่คือการเปิดเกมรุกลงไปในพื้นที่ภาคใต้อย่างมีเป้าหมาย เพราะต้องไม่ลืมว่า นายณัฐวุฒิคือคนใต้ และต้องไม่ลืมเช่นกันว่า หน่วยงานสำคัญที่มีบาทยิ่งสำหรับคนภาคใต้ก็คือ องค์การสวนยาง และกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง

ไม่ว่าจะด้วยเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ หรือตั้งใจก็ตาม ฉับพลันทันทีที่นายณัฐวุฒินั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็อนุมัติงบ 1.3 พันล้านบาทมาช่วยพยุงราคายาง

เรียกว่าทุ่มงบประมาณเมื่อแต่งหน้าทาปากให้กับอำมาตย์เต้นอย่างไม่อั้น โดยมีเงินกองอยู่ที่หน้าตักเป็นทุนให้ทำงานกันถึง 1.3 พันล้านบาทกันเลยทีเดียว

ขณะที่ช่อง 9 อสมท.-โมเดิร์นไนน์ทีวีในยุคที่มี “นิวัติธำรง บุญทรงไพศาล” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีใหม่เอี่ยมถอดด้ามดูแล และมี “จักรพันธ์ ยมจินดา” ซึ่งเพิ่งได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่  และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ ก็ถึงกับเชิญ “อำมาตย์เต้น” มาออกอากาศกันสดๆ ในวันที่เดินทางไปรับตำแหน่งที่กระทรวงเกษตรฯ โดยมี “อรวรรณ กริ่มวิรัตน์กุล” ลงทุนสัมภาษณ์ด้วยตนเองสดๆ อีกต่างหาก

และก็เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า นายณัฐวุฒิซึ่งเป็นนักโต้วาทีตัวเอ้ในเวทีสภาโจ๊กจะต้องหยิบฉวยสิ่งดังกล่าวมาสร้างชื่อให้กับตัวเอง ประกอบกับจังหวะที่นายณัฐวุฒิรับตำแหน่งเป็นช่วงที่โดยปกติแล้วยางจะมีราคาที่สูงกว่าปกติเนื่องเพราะเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีการกรีดยาง ทำให้ราคายางจะขึ้นไปโดยธรรมชาติ ซึ่งในที่สุดก็เป็นไปตามความคาดหมาย เพราะในการสัมภาษณ์สดๆ ทางช่อง 9 อำมาตย์เต้นก็โฆษณาหาเสียงในเรื่องราคายางที่ขยับตัวสูงขึ้นอย่างรู้งาน จากนั้นในวันถัดมาอำมาตย์เต้นก็ให้สัมภาษณ์ตอกย้ำในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งว่า  “จะเร่งผลักดันให้ราคายางดีขึ้นโดยเร็วที่สุดตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งล่าสุดที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติสินเชื่อของ ธ.ก.ส. 15,000 ล้านบาท ก็เพื่อช่วยพยุงราคายางในระยะสั้น และคาดว่าจะทำให้ราคายางปรับขึ้นที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม”

กระนั้นก็ดีสิ่งที่จะต้องจบตามองต่อไปก็คือ ภายหลังลงจากตำแหน่งอันมีเกียรตินี้แล้ว สุภาพบุรุษไพร่ของคนเสื้อแดงผู้นี้จะมีทรัพย์สินงอกเงยอีกกี่สักมากน้อย เพราะต้องไม่ลืมว่า สถานภาพทางการเงินของอำมาตย์เต้นในวันที่ยังเป็นจำอวดอยู่ที่สภาโจ๊กเปรียบเทียบกับ ณ เวลานี้ต่างกันราวฟ้ากับเหว

สำนักข่าวอิศรา ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง แกะรอย “ณัฐวุฒิ”ปีนบันได“ไพร่”สู่เก้าอี้“อำมาตย์”หุ้นหาย ที่ดินโผล่ สินทรัพย์ 22 ล. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2012 เกี่ยวกับสถานะทางการเงินของนายณัฐวุฒิเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า

“ตอนรับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย วันที่ 2 สิงหาคม 2554  นายณัฐวุฒิแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีทรัพย์สิน 14,896,105.84 บาท  นางสิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยา 5,754,746.41  บาท บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ  1,213,606.44  บาท รวม 21,864,458.69 บาท หนี้สิน 6,738,043.40 บาท
ทรัพย์สินของนายณัฐวุฒิที่มีมูลค่ามากสุด ได้แก่ ที่ดินจำนวน 5 แปลง แบ่งเป็นใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช 4 แปลง เนื้อที่ 13-0-49 ไร่ (3 แปลงระบุว่าได้มาวันที่  9 สิงหาคม  2553 จำนวน 2 แปลง ,วันที่ 23 กันยายน 2553 จำนวน 1 แปลง ,อีก 1 แปลงไม่ได้ระบุ)และ ที่ดิน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 1 แปลง  274 ตารางวา    รถยนต์ 2  คัน มูลค่า 3,750,000   ทะเบียน  ฮธ 777 กรุงเทพฯ (มูลค่า 3,000,000 บาทได้มา 4 มี.ค. 2553 ) และ กพ 4141 นนทบุรี           

“นางสิริสกุล  ภรรยา มากสุดเงินฝาก 8 บัญชี  3,843,646.41 บาท  ที่ดิน  1 แปลง ในพื้นที่ ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี  เนื้อที่  17-2-90 ไร่ (ระบุว่าได้มาวันที่ 23 พฤศจิกายน 2553)  เงินลงทุน  3 รายการ ได้แก่  หุ้นสหกรณ์สุราษฎร์ธานี  จำนวน 1,000 หุ้น  ,บมจ.การบินไทย 300 หุ้น  และ หุ้นสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการบินไทย 160,100 บาท   รถยนต์ 1 คัน ทะเบียน กย 530 นนทบุรี  (ได้มา 22 พ.ย.2553)
รวมที่ดินของนายณัฐวุฒิกับภรรยา 31-2-13 ไร่ มูลค่า 10,126,800 บาท  เงินฝาก 3 คน 12 บัญชีรวม 5,276,558.69 บาท          

“เบ็ดเสร็จมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,126,415.29 บาท         

“นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในช่วงขับเคลื่อนทางการเมืองนอกสภาปี 2550 นายณัฐวุฒิ มีเงินลงทุนในบริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่  จำกัด หรือ พีทีวี 5 ล้านบาท ในช่วงต่อมาก็ผ่องถ่ายให้บุคคลอื่น พร้อมๆ กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเดียวกัน”            

ตัวเลขในบทความดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า เส้นทางของไพร่มาก่อนจะมาสู่เก้าอี้รองอำมาตย์ใหญ่กระทรวงเกษตรฯ นั้น ได้ทำให้นายณัฐวุฒิมีทรัพย์สินเงินทองจำนวนไม่น้อย ดังนั้น จงอย่าแปลกใจว่า หลังจากพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสินทรัพย์ของอำมาตย์แดงคนล่าสุดนี้อย่างมีนัยสำคัญอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น