ผลกระทบจากปัญหาในด้านเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศในยุโรปที่ยังขาดแนวทางการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ชัดเจน ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไปทั่วโลก และทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ขาดความเชื่อมั่นในการลงทุนและมีมุมมองต่อตลาดในแง่ลบ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมีนักลงทุนไม่กล้าลงทุนในช่วงที่สภาวะตลาดเป็นเช่นนี้ ก็ย่อมมีนักลงทุนอีกกลุ่มที่มองเห็นโอกาสทองที่จะแสวงหากำไรเช่นกัน แต่การที่จะเข้ามาลงทุนและได้ผลตอบแทนกลับไป ก็ต้องมีหลักการและใช้การวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนด้วย
หลักการอย่างหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นก็คือการกระจายความเสี่ยงการลงทุน โดยการเลือกกระจายพอร์ตการลงทุนของท่านไปยังตลาดที่มีความผันผวนน้อยกว่าหรือไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการเจริญเติบโตดีหรือได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจน้อย รวมถึงการกระจายการลงทุนไปยัง Commodity ที่มีราคาขึ้นสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี สำหรับ นักลงทุนต่างชาติ ได้มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังตลาดในประเทศต่างๆ เกิดขึ้นกันอย่างแพร่หลาย มานานแล้ว
ซึ่งปัจจุบันนี้ นักลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่ ยังไม่ทราบว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย และกลต. อนุญาตให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยตรงแล้ว ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ คือการที่ท่านสามารถซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยตรง เช่น New York Stock Exchange (NYSE), Hong Kong Stock Exchange (HKEX) หรือ Singapore Stock Exchange เป็นต้น โดยวิธีการคือ ท่านต้องได้รับอนุญาตให้ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน (ทางบริษัทหลักทรัพย์จะเป็นผู้ดำเนินการให้) จากนั้น หากท่านพร้อมที่จะเริ่มลงทุนท่านเพียงแค่วางเงินหรือฝากเงินมาที่บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แล้วท่านก็จะสามารถเริ่มซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ทันที
โดยเงินลงทุนสูงสุดที่ธปท. อนุญาตให้ลงทุนได้สำหรับนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา อยู่ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ ได้แก่ หุ้นหรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึง Exchange Trade Fund (ETF) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั๋วเงินคลังของรัฐบาล หุ้นกู้ (Investment Grade เท่านั้น) และกองทุนที่ได้รับอนุญาตจากกลต.
ส่วนรูปแบบของการซื้อขายนั้น ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัทหลักทรัพย์จะเปิดให้บริการ โดยมีตั้งแต่ซื้อขายเองผ่านทาง Internet หรือส่งคำสั่งผ่านทางเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก็แตกต่างกันไปด้วย
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการจะไปลงทุนในต่างประเทศ คือควรศึกษากฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยอย่างน้อยท่านควรประสบความสำเร็จการลงทุนในตลาดไทยมาก่อน (เพราะการลงทุนในตลาดต่างประเทศมีความเสี่ยงสูงกว่า) ท่านต้องมีเวลาในการติดตามข่าวสาร บทวิเคราะห์ต่างๆ ของบริษัทหรือประเทศที่ท่านลงทุน ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ
ดังนั้น ท่านต้องมีความรู้ทางภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และสามารถตัดสินใจเลือกลงทุนได้เอง ศึกษากฎระเบียบ วิธีการลงทุนในต่างประเทศให้ชัดเจน และอีกประการที่สำคัญที่ไม่ควร มองข้าม คือ การตัดสินใจเลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่จะใช้บริการ ควรจะเป็นบริษัทฯที่เชื่อถือได้ ได้รับใบอนุญาตจากกลต. และมีประสบการณ์ในการให้บริการการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งบล.ฟิลลิปเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของท่าน ที่เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศเป็นแห่งแรกให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศผ่านทางระบบ Internet ตลอด 24 ชม. ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศแล้วมากกว่า 600 ราย มีระบบการซื้อขาย และบริการข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ให้ท่านฟรี
สำหรับท่านที่สนใจการลงทุนหุ้นต่างประเทศ วันที่พฤหัสที่ 2 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ บล.ฟิลลิป จะจัดสัมมนาหัวข้อ " US Market and Global Economic Overview " โดย Mr. Joshua Tan นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีประสบการณ์มายาวนานจาก PhillipCapital (Singapore) ที่ห้องประชุม 1101 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เวลา 18.00น. - 20.00น. หากท่านสนใจเข้าร่วมฟังสัมมนา สามารถลงทะเบียนผ่านทางเวปไซด์ www.poems.in.th หรือโทรสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ โทร. 02 635 3055 ค่ะ
หลักการอย่างหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นก็คือการกระจายความเสี่ยงการลงทุน โดยการเลือกกระจายพอร์ตการลงทุนของท่านไปยังตลาดที่มีความผันผวนน้อยกว่าหรือไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมมีแนวโน้มการเจริญเติบโตดีหรือได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจน้อย รวมถึงการกระจายการลงทุนไปยัง Commodity ที่มีราคาขึ้นสวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ดี สำหรับ นักลงทุนต่างชาติ ได้มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนไปยังตลาดในประเทศต่างๆ เกิดขึ้นกันอย่างแพร่หลาย มานานแล้ว
ซึ่งปัจจุบันนี้ นักลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่ ยังไม่ทราบว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย และกลต. อนุญาตให้นักลงทุนไทยสามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยตรงแล้ว ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ คือการที่ท่านสามารถซื้อขายหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศได้โดยตรง เช่น New York Stock Exchange (NYSE), Hong Kong Stock Exchange (HKEX) หรือ Singapore Stock Exchange เป็นต้น โดยวิธีการคือ ท่านต้องได้รับอนุญาตให้ลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน (ทางบริษัทหลักทรัพย์จะเป็นผู้ดำเนินการให้) จากนั้น หากท่านพร้อมที่จะเริ่มลงทุนท่านเพียงแค่วางเงินหรือฝากเงินมาที่บริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ แล้วท่านก็จะสามารถเริ่มซื้อขายหุ้นต่างประเทศได้ทันที
โดยเงินลงทุนสูงสุดที่ธปท. อนุญาตให้ลงทุนได้สำหรับนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา อยู่ที่ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ และหลักทรัพย์ที่สามารถซื้อขายได้ ได้แก่ หุ้นหรือบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึง Exchange Trade Fund (ETF) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั๋วเงินคลังของรัฐบาล หุ้นกู้ (Investment Grade เท่านั้น) และกองทุนที่ได้รับอนุญาตจากกลต.
ส่วนรูปแบบของการซื้อขายนั้น ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัทหลักทรัพย์จะเปิดให้บริการ โดยมีตั้งแต่ซื้อขายเองผ่านทาง Internet หรือส่งคำสั่งผ่านทางเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งค่าธรรมเนียมการซื้อขายและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก็แตกต่างกันไปด้วย
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับ นักลงทุนที่ต้องการจะไปลงทุนในต่างประเทศ คือควรศึกษากฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยอย่างน้อยท่านควรประสบความสำเร็จการลงทุนในตลาดไทยมาก่อน (เพราะการลงทุนในตลาดต่างประเทศมีความเสี่ยงสูงกว่า) ท่านต้องมีเวลาในการติดตามข่าวสาร บทวิเคราะห์ต่างๆ ของบริษัทหรือประเทศที่ท่านลงทุน ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ
ดังนั้น ท่านต้องมีความรู้ทางภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี และสามารถตัดสินใจเลือกลงทุนได้เอง ศึกษากฎระเบียบ วิธีการลงทุนในต่างประเทศให้ชัดเจน และอีกประการที่สำคัญที่ไม่ควร มองข้าม คือ การตัดสินใจเลือกบริษัทหลักทรัพย์ที่จะใช้บริการ ควรจะเป็นบริษัทฯที่เชื่อถือได้ ได้รับใบอนุญาตจากกลต. และมีประสบการณ์ในการให้บริการการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งบล.ฟิลลิปเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของท่าน ที่เปิดให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศเป็นแห่งแรกให้บริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศผ่านทางระบบ Internet ตลอด 24 ชม. ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศแล้วมากกว่า 600 ราย มีระบบการซื้อขาย และบริการข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ให้ท่านฟรี
สำหรับท่านที่สนใจการลงทุนหุ้นต่างประเทศ วันที่พฤหัสที่ 2 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ บล.ฟิลลิป จะจัดสัมมนาหัวข้อ " US Market and Global Economic Overview " โดย Mr. Joshua Tan นักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีประสบการณ์มายาวนานจาก PhillipCapital (Singapore) ที่ห้องประชุม 1101 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เวลา 18.00น. - 20.00น. หากท่านสนใจเข้าร่วมฟังสัมมนา สามารถลงทะเบียนผ่านทางเวปไซด์ www.poems.in.th หรือโทรสำรองที่นั่งได้ที่ฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ โทร. 02 635 3055 ค่ะ
