xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งปรับอายุยิ่งสั้น : ครม.ต่างตอบแทน

เผยแพร่:   โดย: สามารถ มังสัง

“รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” นี่คือสุภาษิตไทยในรูปแบบที่ฝรั่งเรียกว่า Paradox คือมีเนื้อหาและภาษาดูเหมือนว่าไม่สอดคล้องกัน หรือไปในทางเดียวกันไม่ได้ แต่โดยเจตนาในการพูด และเนื้อหาในเชิงปรัชญานี้หมายถึงสอดคล้องกัน และนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ในหลายกรณี ทั้งในกรณีเป็นรูปธรรม และเป็นนามธรรม เช่น ถ้าเรามีเพื่อน และอยู่มาวันหนึ่งเรากับเพื่อนเกิดความขัดแย้งและถกเถียงกัน ถ้าเราต้องการให้ความเป็นเพื่อนยังคงอยู่ต่อไป ก็ควรที่จะบั่นคือตัดข้ออันเป็นเหตุให้มีการถกเถียงกันทิ้งไป ความเป็นเพื่อนก็จะยังคงอยู่ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเรายิ่งต่อปากต่อคำถกเถียงต่อไป สุดท้ายก็จะจบลงด้วยการเสียเพื่อน หรือจะนำมาใช้ในแง่ของนามธรรม ถ้าเราต้องการให้เป็นคนมีคุณค่าเพิ่มขึ้นถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์ คือผู้มีจิตใจสูง (มน+อุษย์) ก็จะต้องบั่นหรือตัดพฤติกรรมอันเป็นอกุศลทิ้งไป และในขณะเดียวกันก็ต่อเติมความประพฤติอันเป็นกุศลให้เพิ่มขึ้น ความเป็นคนดีก็จะมีขึ้น เป็นต้น

ในทำนองเดียวกัน การปรับ ครม.ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สามารถนำเอาสุภาษิตบทนี้มาเป็นแนวทางอธิบายการอยู่ได้นาน และไม่ได้นาน ได้ตามนัยดังนี้

ถ้านายกรัฐมนตรีหรือแม้กระทั่งผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งการให้มีการปรับ ครม.ในครั้งนี้ ต้องการให้ ครม.อยู่ได้นานกว่าครั้งที่ผ่านมา ก็จะต้องบั่นหรือตัดทิ้งสิ่งที่เป็นเหตุให้ ครม.อยู่ไม่ได้นานอย่างน้อย 2 เรื่องคือ การแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 112 และ พ.ร.บ.กลาโหม

และอีกเรื่องหนึ่งคือ จะต้องบั่นหรือตัดเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้ที่ควรจะได้รับการแต่งตั้งในลักษณะสัญญาต่างตอบแทนออกไป และในขณะเดียวกันก็จะต่อเติมหรือให้โอกาสผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ แม้จะไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับตนเอง และเครือญาติ เข้ามาดำรงตำแหน่งให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ครม.ชุดนี้ก็มีโอกาสอยู่ยาวได้

แต่ในความเป็นจริงที่ปรากฏจากการแต่งตั้ง ครม.ชุดนี้ค่อนข้างจะเรียกได้ว่าสวนทางกับนัยแห่งสุภาษิตนี้คือมีแนวโน้มว่าบั่นหรือตัดบุคคลที่ไม่เห็นด้วยหรือคล้อยตามกับการแก้ไขกฎหมายออกไป และนำผู้ที่มีแนวโน้มจะเดินหน้าอย่างจริงจังในการแก้กฎหมายเข้ามา

ดังนั้นจึงพูดได้ว่าเป็นเหมือนตัวเร่งให้ ครม.ชุดนี้อายุสั้นกว่าที่คนหลายคนคิดค่อนข้างแน่นอน

อะไรทำให้มองว่า ครม.ชุดนี้อายุสั้น และจะอยู่ได้นานเท่าไหร่

เหตุให้ ครม.ชุดนี้อายุสั้น นอกจากอนุมานตามนัยแห่งสุภาษิตดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยในเชิงตรรกะทางการเมืองหลายประการ ซึ่งพออนุมานได้ดังต่อไปนี้

1. โดยปกติการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ถ้าไม่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขมากนัก การจะได้มาซึ่งบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถกระทำได้ไม่ยาก ดังนั้นโอกาสที่จะได้คนดีมีคุณภาพมาทำงานนั้นเป็นไปได้ไม่ยาก

แต่ในทางการเมือง การแสวงหาบุคลากรเพื่อดำรงตำแหน่งมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัดค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพรรคเพื่อไทยซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว ต้องฟังคำบงการจากคนอยู่นอกประเทศด้วยแล้วยิ่งจะทำได้ยาก และนี่เองน่าจะเป็นข้อจำกัดให้การสรรหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกระทำได้ยาก

อีกประการหนึ่ง ไม่ว่าจะมีข้อจำกัดมากหรือน้อย การสรรหาครั้งแรกตามปกติจะต้องเลือกบุคลากรที่ดีที่สุดเพื่อเป็นหน้าตาของประเทศในการสร้างความเชื่อมั่น

ดังนั้น จึงอนุมานได้ว่า ครม.ชุดปู 1 ถือได้ว่าดีที่สุด และขนาดดีที่สุดอยู่ได้ 6 เดือนแล้วถูกปรับออกหรือปรับเปลี่ยนก็ถือได้ว่า ครม.ชุดปู 1 ทำงานไม่เข้าตา จะด้วยไม่ถูกต้อง หรือถูกต้องแต่ไม่ถูกใจ หรือทั้งสองประการรวมกัน ก็พูดได้ชัดเจนว่าดีที่สุดที่เลือกได้ในครั้งแรก

แต่ในการปรับ ครม.เป็นรัฐบาลปู 2 ถ้ามองในแง่ตรรกะทางการเมืองแล้วถือได้ว่าเอาบุคลากรที่มีคุณภาพรองลงมาในด้านความรู้ความสามารถ แล้วจะประกันได้อย่างไรว่ามีคุณภาพในการทำงานเพื่อประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ครม.ชุดปู 2 อาจอยู่ได้นานถ้าทำงานได้ถูกใจหรือถูกต้องแต่ถูกต้องตามความต้องการมิใช่ถูกต้องด้วยเหตุและผลเพื่อส่วนรวม

2. ครม.ชุดปู 1 นอกจากทำงานไม่มีผลงานในสายตาของผู้เลือกเข้ามาแล้ว ยังทำงานไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชนโดยรวมด้วย ทั้งนี้ดูได้จากหลายๆ กรณีดังต่อไปนี้

2.1 ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ปรากฏชัดเจนว่าด้อยศักยภาพทำให้ประเทศและประชาชนโดยรวมเดือดร้อน

2.2 ในด้านนโยบาย หลายด้านที่ประกาศไว้ว่าจะทำ มีทั้งยังทำไม่ได้ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท และทำแล้วแต่ทำไม่ได้ตามที่ประกาศไว้ เช่น เรื่องน้ำมันที่บอกจะยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เลิกได้ไม่นานต้องเก็บอีก และราคาน้ำมันและก๊าซมีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นกว่าเดิมด้วย

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องอื่นที่บอกไว้ยังไม่ทำ และทำไม่ได้ เช่น เรื่องปรองดอง เป็นต้น

โดยรวมๆ สรุปได้ว่า ครม.ที่มีการแต่งตั้งโดยยึดหลักการต่างตอบแทนให้แก่ผู้ตัดสินใจในการเลือกใคร ไม่เลือกใครจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะจุดมุ่งหมายก็เพียงแค่แต่งตั้งแล้วตามสัญญา ส่วนนานเท่าไหร่มิได้อยู่ในเงื่อนไขการตกลง ครม.ชุดปู 2 ก็คงมีลักษณะเดียวกันคือไม่นาน อย่างมากแค่รอ 111 คนเท่านั้นก็เปลี่ยนแปลงอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น