ASTVผู้จัดการรายวัน - “เอเจนซี่ฯ” เผย8ปัจจัยหลัก ดันตัวเลขโครงการหยุด-ยกเลิกก่อสร้าง-ทำตลาดรวมพุ่ง 105 โครงการ กว่า 24,033 ยูนิต มูลค่า 63,620ล้านบาท แจงช่วงน้ำท่วมโครงการยกเลิกทำตลาดพุ่ง 27 โครงการ กว่า 6,000 ยูนิต เชื่อปี 55 ตลาดอสังหาฯสดใส เหตุปัจจัยลบไม่มาก คาดทั้งปีโครงการเปิดใหม่300โครงการเศษ ชี้คอนโดฯยังครองส่วนแบ่งหลักกว่า50%
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัย และประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ (AREA) กล่าวว่า ยอดสะสมของโครงการอสังหาริมรัพย์ในตลาดรวมที่มีการยกเลิก หรือ หยุดการก่อสร้าง รวมถึงโครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้าง เพื่อปรับปรุงโครงการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยรวม 105โครงการ คิดเป็น 24,033ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 63,620ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี54 มียอดโครงการที่หยุดการก่อสร้างประมาณ 78โครงการ หรือประมาณ 17,750 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 42,724 นบาท แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 54 มีอีกหลายโครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้าง และหยุดการก่อสร้าง เพราะขายไม่ออก รวมถึงขาดเงินหมุนเวียนในการก่อสร้างรวม 23โครงการ และเป็นโครงการที่หยุดทำการตลาด เพราะต้องหยุดปรับปรุงโครงการ เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 5 โครงการ
จากตัวเลขข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนโครงการที่ประสบปัญหาต่างๆ จนส่งผลให้ต้องหยุดการก่อสร้างของการทำตลาด สะสมตั้งแต่อดีตจนถึงปี2554 ที่ผ่านมามีจำนวนเพียง 105 โครงการ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวเลขการเพิ่มขึ้นของโครงการในกลุ่มดังกล่าวในปีที่ผ่านมี ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเป็นหลัก ซึ่งโครงการที่หยุด และยกเลิกการก่อสร้างโครงการดังกล่าวในจำนวน27โครงการที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น หากคิดเป็นจำนวนหน่วยขายก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6,283ยูนิต หรือประมาณ 20,896 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยหลักๆที่ทำให้โครงการดังกล่าวทั้ง105โครงการต้องหยุดก่อสร้างและยกเลิกการทำตลาดไปนั้น ประกอบด้วย 8 ปัจจัย คือ 1.สถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ 2.ขายไม่ออก/ไม่มีคนซื้อ/รูปแบบสินค้าไม่เหมาะสม 3. ไม่ผ่าน EIA 4.รอปรับราคาขายใหม่ 5.เปลี่ยนรูปแบบโครงการ 6.ทำเลที่ตั้งโครงการห่างไกลสิ่งอำนวยความสะดวก 7.ติดปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินและทางเข้าออกและ และ8.ปิดปรับปรุงโครงการเพราะน้ำท่วม
ในโสภณ กล่าวถึงตลาดรวมอสังหาฯในปี 55 ว่า มีแนวโน้มการฟื้นตัวค่อนข้างดี เนื่องจากมีปัจจัยลบไม่มาก ยกเว้นความกังวัลในเรื่องปัญหาทางการเมือง ส่วนเรื่องน้ำท่วมนั้นไม่น่าส่งผลกระทบมากนัก หากรัฐบาลมีแผนการบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนออกมา จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นกลับมาได้เร็วขึ้น
โดยในปี55 คาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 300 โครงการเศษ ประมาณ 85,000 ยูนิต กว่า 50% จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ส่วนหนึ่งนำมาเปิดขายใหม่ และยกมาเปิดตัวในปีนี้
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัย และประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือ (AREA) กล่าวว่า ยอดสะสมของโครงการอสังหาริมรัพย์ในตลาดรวมที่มีการยกเลิก หรือ หยุดการก่อสร้าง รวมถึงโครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้าง เพื่อปรับปรุงโครงการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยรวม 105โครงการ คิดเป็น 24,033ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 63,620ล้านบาท
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี54 มียอดโครงการที่หยุดการก่อสร้างประมาณ 78โครงการ หรือประมาณ 17,750 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 42,724 นบาท แต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 54 มีอีกหลายโครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้าง และหยุดการก่อสร้าง เพราะขายไม่ออก รวมถึงขาดเงินหมุนเวียนในการก่อสร้างรวม 23โครงการ และเป็นโครงการที่หยุดทำการตลาด เพราะต้องหยุดปรับปรุงโครงการ เนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมเพิ่มขึ้นอีก 5 โครงการ
จากตัวเลขข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าจำนวนโครงการที่ประสบปัญหาต่างๆ จนส่งผลให้ต้องหยุดการก่อสร้างของการทำตลาด สะสมตั้งแต่อดีตจนถึงปี2554 ที่ผ่านมามีจำนวนเพียง 105 โครงการ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวเลขการเพิ่มขึ้นของโครงการในกลุ่มดังกล่าวในปีที่ผ่านมี ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมเป็นหลัก ซึ่งโครงการที่หยุด และยกเลิกการก่อสร้างโครงการดังกล่าวในจำนวน27โครงการที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั้น หากคิดเป็นจำนวนหน่วยขายก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6,283ยูนิต หรือประมาณ 20,896 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยหลักๆที่ทำให้โครงการดังกล่าวทั้ง105โครงการต้องหยุดก่อสร้างและยกเลิกการทำตลาดไปนั้น ประกอบด้วย 8 ปัจจัย คือ 1.สถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ 2.ขายไม่ออก/ไม่มีคนซื้อ/รูปแบบสินค้าไม่เหมาะสม 3. ไม่ผ่าน EIA 4.รอปรับราคาขายใหม่ 5.เปลี่ยนรูปแบบโครงการ 6.ทำเลที่ตั้งโครงการห่างไกลสิ่งอำนวยความสะดวก 7.ติดปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดินและทางเข้าออกและ และ8.ปิดปรับปรุงโครงการเพราะน้ำท่วม
ในโสภณ กล่าวถึงตลาดรวมอสังหาฯในปี 55 ว่า มีแนวโน้มการฟื้นตัวค่อนข้างดี เนื่องจากมีปัจจัยลบไม่มาก ยกเว้นความกังวัลในเรื่องปัญหาทางการเมือง ส่วนเรื่องน้ำท่วมนั้นไม่น่าส่งผลกระทบมากนัก หากรัฐบาลมีแผนการบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนออกมา จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นกลับมาได้เร็วขึ้น
โดยในปี55 คาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่ประมาณ 300 โครงการเศษ ประมาณ 85,000 ยูนิต กว่า 50% จะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ส่วนหนึ่งนำมาเปิดขายใหม่ และยกมาเปิดตัวในปีนี้
