xs
xsm
sm
md
lg

หนุนไอเดียโกร่ง คลังขายปตท.2% แยกNGVตั้งบริษัทโชว์ต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บิ๊กคลังหนุน “โกร่ง” ให้กองทุนวายุภักษ์ 1 ซื้อหุ้น ปตท. 2% ปลดแอกรัฐวิสาหกิจ เพิ่มความคล่องตัว ระบุไม่กระทบเงินนำส่งรายได้แค่ย้ายจากกระเป๋าซ้ายมากระเป๋าขวาเท่านั้น ด้านบิ๊กปตท.ยอมรับสนใจขอซื้อหุ้นไออาร์พีซี จากแบงก์ออมสิน เหตุมองเห็นศักยภาพการเติบโตธุรกิจ พร้อมเล็งแยกธุกริจเอ็นจีวีมาจัดตั้งบริษัทใหม่ เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาถือหุ้นในรูปแบบกิจการเพื่อสังคม เพื่อให้เห็นต้นทุนที่แท้จริง แถมพร้อมยกหนี้ผลขาดทุนที่แบกอยู่4หมื่นล้านบาทให้ฟรี ส่วนปีนี้มองปัญหายุโรปมีผลต่อราคาน้ำมันทั้งขึ้นและลง
 

นายประสงค์ พูนธเนศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของนายวีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ที่จะให้กองทุนวายุภักษ์ ระดมทุนจากประชาชนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำไปใช้ซื้อหุ้นของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT ในส่วนที่กระทรวงการคลังถือเกิน 50% เพื่อให้ปตท.มีความคล่องตัวในการบริหารงานและระดมทุนได้ง่าย เพราะจะไม่เป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป และจะไม่มีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐวิสาหกิจ เพราะยังได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลจากกองทุน

“กฎเกณฑ์บางอย่างก็ทำให้เป็นข้อจำกัดในการลงทุนของ ปตท. เพราะ ปตท.ต้องไปลงทุนในต่างประเทศ บางครั้งก็เป็นบริษัทร่วมทุน ซึ่งจะต้องมีกรรมการจากต่างประเทศด้วย ขณะที่กฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กำหนดว่า กรรมการของรัฐวิสาหกิจจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วย ซึ่งก็จะไม่สะดวกสำหรับกรรมการที่เป็นต่างชาติ ส่วนการนำส่งรายได้นั้น แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังจะลดลง แต่ยังอยู่ในรูปของผู้ถือหน่วยที่จะได้รับเงินปันผล เป็นเพียงการย้ายเงินจากกระเป๋าย้ายไปขวาเท่านั้น“ นายประสงค์กล่าว

สำหรับแนวคิดการขยายเวลากองทุนรวมวายุภักษ์ เป็นแนวคิดที่สคร.ศึกษาไว้ เพื่อเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาอยู่แล้วว่า กองทุนที่จะครบอายุในปี 2556 นั้นจะเป็นการแก้ไขกฎหมายให้เป็นกองทุนเปิด เพื่อให้ดำเนินการต่อไปหรือยุบเลิกกองทุนและขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่งหากแก้ไขให้เป็นกองทุนเปิดก็จะง่ายในการดำเนินงาน เพราะสามารถเดินหน้าในการขายหน่วยลงทุน เพื่อนำไปลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่ต้องการได้เลย เพราะที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จด้วยดี จากขนาดสินทรัพย์ของกองทุนวายุภักษ์ 1 ที่มีสูงถึง 3 แสนล้านบาทจากเริ่มต้นเพียง 1 แสนล้านบาทและที่ผ่านมากระทวงการคลังก็ได้รับเงินผันผลในอัตราที่ดีอย่างต่อเนื่อง หากจะเริ่มตั้งกองทุนใหม่ก็อาจจะล่าช้าในกระบวนการ รวมถึงเงินงบประมาณที่จะนำมาเป็นทุนจัดตั้งด้วย

โดยการจัดเก็บรายได้ของรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2555 มั่นใจว่าจะยังสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.04 แสนล้านบาท แม้ว่าจะมีรัฐวิสาหกิจหลายแห่งต้องประสบปัญหาน้ำท่วมและต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูกิจการ เพราะในไตรมาสแรกสามารถจัดเก็บรายได้มากกว่าเป้าหมายถึง 4 พันล้านบาท มีบางแห่งที่อาจจะขอเลื่อนเวลาในการนำส่งรายได้ โดยเฉพาะกิจการสาธารณูปโภคเช่นกิจการ ไฟฟ้า น้ำประปา แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่องบลงทุนของกิจการรัฐวิสาหกิจเหล่านี้.

**ปตท.ยืนยันสนใจซื้อIRPCจากออมสิน
นายเทวินทร์ วงศ์ วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ยังคงสนใจซื้อหุ้นบมจ.ไออาร์พีซี(IRPC) เพิ่มเติม จากปัจจุบันปตท.ถือประมาณ 38% โดยได้เคยเจรจากับธนาคารออมสินมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่คืบหน้า ซึ่งเชื่อว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มไม่เกิน50% เพราะไม่ต้องการให้กลายเป็นรัฐวิสาหกิจได้
สำหรับเหตุผล เนื่องจากมองว่า ธุรกิจของไออาร์พีซีนั้นเป็นธุรกิจปิโตรเลียมครบวงจร ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายโรงกลั่นแบบครบวงจรของบริษัท และมีโอกาสขยายต่อไปได้อีกในอนาคต

***สนใจแยกธุรกิจก๊าซออกจากบริษัท
ขณะเดียวกัน จากที่ผ่านมามีหลายฝ่ายมองว่าบริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจด้านก๊าซเอ็นจีวี แต่ความจริงปตท.แบกรับผลขาดทุนจากธุรกิจนี้อยู่กว่า 40,000 ล้านบาท ดังนั้น บริษัทจึงมีแนวคิดแยกธุรกิจก๊าซเอ็นจีวีออกมาเป็นโซเซี่ยล เอ็นเตอร์ไพร์ส หรือกิจการเพื่อสังคมและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มสหกรณ์ขนส่งรถบรรทุก รถแท็กซี่ เข้ามาร่วมถือหุ้น ซึ่งปตท.จะไม่กำหนดบทบาทตนเองต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือจะไม่ให้ปตท.เข้ามาถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวเลยก็ได้ เช่นเดียวกับผลขาดทุน 40,000 บาท ทางบริษัทก็จะไม่เรียกร้องรับคืน เพียงแต่ต้องการให้ทุกฝ่ายเห็นว่าเมื่อแยกเอ็นจีวีออกเป็นบริษัทหนึ่งนั้น จะทำให้เห็นข้อมูลราคาที่แท้จริงและสบายใจด้วยกันทุกฝ่าย
ส่วนทิศทางแนวโน้มการดำเนินธุกริจในปี 2555 ภาพรวมคงไม่สามารถกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนของเป้ารายได้หรือยอดขายได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่เรืองดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวลดลงอย่างมาก ขณะเดียวกันก็มีโอกาสผลักดันให้ราคาปรับตัวขึ้นไปในระดับสูง พร้อมกันนี้ในช่วงกลางปีบริษัทืมีแผนที่จะออกหุ้นกูประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อนำไปรีไฟแนนซ์หนี้ และลงทุนทุนเช่นเดียวกับ บมจ.ปตท.สผ.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) จะจัดหาเงินทุนราว 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งการออกหุ้นกู้และเงินกู้
กำลังโหลดความคิดเห็น