xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมรางวัลของ มช.ถูกทำให้ดูด้อยค่ายิ่งนัก?!

เผยแพร่:   โดย: ปิยะโชติ อินทรนิวาส

ผู้ที่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่ ประกอบด้วย รองและผู้ช่วยอธิการบดี มช. ร่วมกับคณะกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่า มช. ในวันประชุมตัดสินผู้ได้รับรางวัลปีนี้
“ตกลง ปูรับหรือไม่รับ มช.ให้หรือไม่ให้ สรุปถึงไหนกันแล้ว เห็นเงียบๆ กันไป”

ความคิดเห็นที่ 37 ของผู้ที่ใช้นามว่า ‘อยากรู้ตอนจบ’ โพสต์ไว้ท้ายบทความในคอลัมน์นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องราวว่าด้วยเหตุการณ์ที่สมาคมนักศึกษาเก่า มช. โดยความเห็นชอบของผู้บริหาร มช.มอบรางวัลในลักษณะเชลียร์นักการเมือง โดยเฉพาะระบอบทักษิณที่กำลังกุมอำนาจรัฐแบบใหญ่คับบ้านเมืองเวลานี้

ความจริงที่เห็นว่าเงียบๆ ไปนั้น ฝ่ายที่พยายามทำให้เรื่องนี้เงียบงันก็คือ คณะผู้บริหาร มช. ส่วนคณะกรรมการสมาคมฯ ดูเหมือนออกแถลงการณ์ชี้แจงครั้งเดียวแล้วก็หายเงียบไปเลย แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังระงมไปทั่ว ที่ผ่านมาข้ามปียังไม่เคยมีใครที่เกี่ยวข้องออกมาเปิดปากกับสื่อเลย

แต่เมื่ออ่านย้อนไปยังความคิดเห็นที่ 25 ของผู้ที่ใช้นามว่า ‘คนเลือดม่วง’ ที่ได้โพสต์เอาไว้ค่อนข้างยาวเหยียด เชื่อว่าน่าจะเป็นการให้คำตอบในเรื่องนี้ได้พอสมควรที่ว่า...

“เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่การเขียนบทความด้วยข้อมูลผิดๆ ของปิยะโชติในครั้งแรก แต่ไม่ทราบทำไมไม่นำลงให้ครบ มีให้เห็นเพียง 4-5 บรรทัด ครั้งนี้เข้ามาอีกเพื่อจะขอตอบข้อข้องใจทั้งหลายของทุกคนที่ผิดจากความเป็นจริงมากมายคือ...

“รางวัลของปู สมาคมฯ จะมอบในงานราตรีอ่างแก้ว 2555 วันที่ 17 ม.ค. ไม่ใช่ในวันซ้อมใหญ่งานพระราชทานปริญญาฯ วันที่ 18 คนละเวทีกับรางวัลนักศึกษาเก่าดีเด่นฯ...

“และทราบว่าเธอตอบหนังสือถึงสมาคมฯ ว่า ไม่สามารถมารับรางวัลได้ เพราะติดภารกิจที่มีนัดหมายล่วงหน้าไว้แล้ว...”

จากนั้นเป็นการร่ายยาวทั้งกล่าวหา โจมตี และด่าทอผู้เขียนบทความว่า เป็นพวกเกลียดคนเป็นการส่วนตัว แล้วลากเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือ เป็นมนุษย์จิตใจไม่สูง อิจฉาริษยา และอีกต่างๆ นานา ก่อนจะตบท้ายว่า เพราะตนเองเป็นคนรู้ผิดชอบชั่วดีและเข้าใจโลกดีพอ แม้จะมีผู้โต้กลับเฉพาะโพสต์ที่ว่านี้ไปแล้วอย่างน้อย 4 ความคิดเห็น รวมถึงความเห็นของคนอีกจำนวนมากที่เห็นต่างจากคุณคนเลือดสีม่วง จากที่มีการระบุตัวเลขจำนวนผู้อ่านไว้กว่า 9 พัน แต่สำหรับผมเองเมื่ออ่านแล้วก็มีแต่ต้องขอน้อมรับด้วยหัวใจที่ตื่นรู้ไว้แหละครับ

สิ่งที่ทำให้ต้องเขียนถึงกรณีนี้เริ่มจากได้ทราบข่าว รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มช. ที่ได้นั่งเป็นนายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่อยู่ด้วย ออกมาแถลงภายหลังการประชุมสมาคมฯ ครั้งที่ 6/2554 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 เสร็จสิ้นว่า นอกจากที่ประชุมได้คัดเลือกผู้ได้รับรางวัล “นักศึกษาเก่าดีเด่น” ประจำปี 2554 จำนวน 13 คนแล้ว

ที่ประชุมยังได้เลือก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ รหัส 28 ให้รับรางวัล “นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จ” ด้วย

ในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่งและเป็นศิษย์เก่า มช. เมื่อมีช่องทางเสนอความคิดเห็นที่ตนเองคิดว่าน่าจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะกับสถาบันการศึกษาที่เคยร่ำเรียนมาบ้าง จึงไม่รีรอที่จะนำเสนอความคิดเห็นผ่านคอลัมน์นี้ ซึ่งก็ไล่เรียงกันมาแล้วชิ้นนี้นับเป็นตอนที่ 5 และคิดว่าน่าจะเป็นบทจบของเรื่องราวเช่นกัน

มีการยืนยันมาโดยตลอดถึงการแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้นั้น

ประการแรก ผมไม่เห็นด้วยกับเฉพาะการมอบรางวัล “นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต” ให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปีนี้เท่านั้น ซึ่งขัดทั้งสายตาและความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ในสังคม ไม่เกี่ยวกับที่มีการมอบรางวัลเดียวกันนี้ในปีที่ผ่านๆ มาไปแล้ว 17 คน และไม่เกี่ยวกับรางวัล “นักศึกษาเก่าดีเด่น” ซึ่งมีผู้ได้รับไปแล้ว 196 คน ซึ่งรางวัลหลังนี้แตกต่างจากรางวัลแรกตรงที่มีถึง 250 องค์กรในเครือข่าย มช.เสนอเข้าชื่อให้พิจารณา

ประการที่สอง ผมเห็นว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของคณะผู้บริหาร มช.และคณะกรรมการสมาคมฯ เพราะในวันประชุมตัดสินมีตัวแทนจากทั้ง 2 ฝ่ายเข้าร่วม เป็นเรื่องของตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับสถาบันที่เป็นองค์กรที่ทรงเกียรติภูมิและมีประวัติศาสตร์ยาวนาน

ประการที่สาม ผมไม่ได้โกรธ เกลียด หรือขุ่นข้องหมองใจใครที่เกี่ยวข้องมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นคณะผู้บริหาร มช. คณะกรรมการสมาคมฯ รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้ที่ถูกประกาศชื่อให้ได้รับรางวัลในครั้งนี้ รวมถึงไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆ ทั้งในทางตรงหรือทางอ้อม และไม่เกี่ยวกับสีใดๆ ทั้งสิ้น หากใครจะป้ายให้ก็คงเป็นได้แค่สีม่วง มช.เท่านั้น ทั้งนี้เพราะสำนึกที่สถาบันแห่งนี้มีส่วนสำคัญให้ผมได้หยัดยืนในฐานะสื่อสารมวลชนมาจนถึงวันนี้

ครูบาอาจารย์จากสถาบันแห่งนี้นั่นแหละครับที่มีส่วนปลุกปั้นให้ได้ทำหน้าที่อย่างในวันนี้ เคี้ยวจนข้นให้ยืนอยู่บนจรรยาบรรณวิชาชีพ เคี้ยวเข็ญให้กล้าที่จะลุกขึ้นต่อกรกับความไม่ถูกต้องเป็นธรรม เคี้ยวกรำให้ทำหน้าที่สุนัขเฝ้าบ้าน หากใครจ้องทำลายบ้านเราก็ต้องกัดติดชนิดอย่าปล่อยเท่านั้น

แล้วที่สุดบทสรุปของเรื่องนี้ก็เป็นที่ประจักษ์แจ้งในหลายๆ ด้าน ซึ่งในส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่คนส่วนมากเห็นว่าไม่เหมาะสมกับรางวัลที่ได้รับ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากชื่อรางวัลด้วยแล้ว เรื่องราวเหล่านี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มอีก เอาแค่การตอบคำถามของคนอยากรู้ตอนจบข้างต้นนั่นก็เกินพอ

ปูรับหรือไม่?! … คำตอบคือ ไม่ได้ไปร่วมงานราตรีอ่างแก้วเพื่อรับรางวัล

มช.ให้หรือไม่ให้?! … คำตอบคือ ยังคงเดินหน้าให้ตามที่ตั้งใจไว้

สรุปถึงไหนกันแล้ว?! … คำตอบคือ ก็อย่างที่เห็นๆ กันนั่นไง
กำลังโหลดความคิดเห็น