หน้าเว็บไซต์งานประชาสัมพันธ์ มช. ในหมวดข่าวผู้บริหาร ได้นำสรุปข่าวและนำภาพผู้บริหาร มช. ร่วมประชุมกับคณะกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่า มช. เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 อันเป็นครั้งที่เกิดข่าวฉาวประกาศมอบรางวัลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่มีข้อสังเกตว่าทำไมทิ้งเวลาข้ามปี เพิ่งเอามาโพสต์ในวันที่ 10 มกราคม 2555 นี้เอง
เป็นเรื่องตลกร้ายพอสมควรที่ผมในฐานะศิษย์เก่า มช.อยากรู้จัก “คณะกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่” ชุดปัจจุบัน โดยได้พยายามค้นหาในอินเทอร์เน็ตเท่าไหร่ก็ไม่พบ แม้แต่ในหน้าของสมาคมฯ เองที่มีลิงก์จากหน้าเว็บไซต์ของ มช. (http://alumni.cmu.ac.th/province/chiangmai/) ก็แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย นอกจากเอาคำชี้แจงกรณีมอบรางวัลให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นเรื่องอื้อฉาวและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักไปแปะโชว์ไว้
ที่ผมอยากดูรายชื่อและอยากเห็นหน้าค่าตาบรรดาคณะกรรมการสมาคมฯ ชุดล่าสุดนี้ ก็เนื่องจากมีเสียงกล่าวขานในความหาญกล้าอย่างยิ่งยวดที่มอบรางวัล “นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต” ให้กับนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้รับการโคลนนิ่งจากนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชายและเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ซึ่งแม้จะเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศ แต่ก็สามารถยึดกุมอำนาจรัฐไทยไว้ในมือ และบงการเกมการเมืองในประเทศให้เป็นไปตามความต้องการของตนเองตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีรายชื่อและภาพคณะกรรมการสมาคมฯ ให้ได้ยลกัน แต่ในหน้าเว็บไซต์งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง มช. ในหมวดของข่าวผู้บริหาร มีการประมวลภาพการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ ครั้งล่าสุด (http://www.prcmu.cmu.ac.th/activity_detail.php?act_id=1489) ไว้ถึง 15 ภาพ พร้อมกับคำบรรยายว่า...
“ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ วรยศ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และรองศาสตราจารย์ ธีรภัทร วรรณฤมล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายมวลชนสัมพันธ์และนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมการประชุมคณะกรรมการสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ครั้งที่ 1-2555 เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดเตรียมพิธีมอบโล่รางวัลนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีเด่น และงานราตรีอ่างแก้ว ประจำปี 2554 โดยมีรองศาสตราจารย์ธีระ วิสิทธิ์พานิช นายกสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555”
เป็นที่น่าสังเกตว่า การประชุมตัดสินรางวัลมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2554 แต่กลับทิ้งเวลาข้ามปีเพิ่งได้ฤกษ์เอามาโพสต์ไว้ในวันที่ 10 มกราคม 2555
และการแถลงข่าวผลประชุมของ รศ.ธีระ วิสิทธิ์พานิช เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2554 เป็นเสมือนพลุไฟดอกแรกที่จุดกระแสสวดส่งอย่างหนาหูในสังคม โดยเฉพาะประเด็นผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ แต่กลับทำตัวไปสยบยอมต่ออำนาจการเมือง รวมถึงการเชลียร์ระบอบทักษิณที่กำลังใหญ่คับบ้านเมืองแบบออกหน้าออกตา ชนิดที่ไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก
ลองไปเยี่ยมชมโฉมหน้าบรรดาผู้มีส่วนร่วมในการพิจารณาให้รางวัลอันเป็นที่โจษขานกันหนักหน่วงจากภาพทั้ง 15 ภาพดังกล่าวดูกันนะครับว่ามีใครบ้าง
แม้วันนี้ความรู้สึกลบๆ เหล่านั้นก็ยังไม่จางหาย และเชื่อว่าในวันที่ 18 มกราคม 2554 ที่กำลังจะมาถึง เมื่อข่าวและภาพการมอบรางวัลให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในพิธีซ้อมใหญ่งานพระราชทานปริญญาบัตรครั้งที่ 46 ของ มช.ปรากฏต่อสาธารณชน พลุไฟในแบบเดียวกันจะถูกจุดให้เจิดจ้าและดังสนั่นหวั่นไหวอีกระลอกเป็นแน่
ต้องยอมรับความจริงว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเสื่อมเสียแก่บรรดาผู้บริหาร มช.และคณะกรรมการสมาคมฯ เท่านั้น ในส่วนของชื่อเสียงสถาบันที่สั่งสมมาครึ่งศตวรรษก็มีอันต้องหมองหม่นไปด้วย หลายครั้งยังลามเลยและสร้างความอับเฉาให้กับศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน รวมถึงคณาจารย์และบุคลากรของ มช.
ที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องให้ผู้บริหาร มช.และคณะกรรมการสมาคมฯ ทบทวนการตัดสินใจมอบรางวัลอันฉาวโฉ่ใครครานี้ แต่ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้น มีแต่คำชี้แจงที่ยังคงตอกย้ำความคิดตรงข้ามกับคนส่วนใหญ่ในสังคม
ผมเขียนถึงเรื่องนี้ข้ามปีมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้ว เพียงเพราะเป็นศิษย์เก่าที่รักและผูกพันสถาบัน ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรเลย หรือมุ่งหวังทำร้ายทำลายใคร โดยระลึกอยู่เสมอว่าสถาบันแห่งนี้มีส่วนช่วยทำให้หยัดยืนอยู่ได้ในสังคม และคณาจารย์จากคณะการสื่อสารมวลชนนี่แหละที่พร่ำสอนให้ศิษย์กล้าลุกขึ้นทายท้ากับความไม่ถูกต้อง ต่อตีกับความอยุติธรรม การมอบรางวัลให้กับโคลนนิ่งที่ยิ่งกว่านอมินีของระบอบทักษิณในครั้งนี้ ไม่ต้องหยิกยกทฤษฎีอะไรมาอ้างอิงหรอก เอาแค่สัญชาตญาณของความเป็นคนไทยไปจับ ก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ได้ทำตามหน้าที่
อีกทั้งแทบไม่ต้องพิจารณาอะไรให้มากเรื่องมากความ เอาแค่ชื่อรางวัล “นักศึกษาเก่าผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต” แท้จริงชีวิตของเจ้าของรางวัลถือว่าประสบความสำเร็จจริงล่ะหรือ
หากเป็นเช่นนั้นทำไมจึงมีเสียงดูถูกดูแคลนระงมว่า เธอถูกโอบอุ้มให้ตั้งไข่บนเส้นทางธุรกิจ แล้วหนทางแห่งการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกก็ไม่ได้เป็นวิถีที่ตัวเองกำหนด และเมื่อได้นั่งกุมบังเหียนนำพาประเทศชาติมาถึง 5 เดือน ทำไมความล่มสลายจึงมากมายและสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อบ้านเมืองได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ยิ่งนัก มิพักต้องแจกแจงเรื่องราวอันเป็นความล้มเหลวส่วนตัว
เมื่อแก๊งมอบรางวัลให้ไม่คิดทบทวน ศิษย์เก่าพิราบขาว รหัส 2601072 จึงอยากฝากความไปยังศิษย์เก่าสิงห์ขาว รหัส 2804271 ว่า ช่วงเวลา 1 สัปดาห์ก่อนพิธีมอบรางวัลจะมีขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตัดสินใจกระทำอะไรสักอย่างเพื่อให้บังเกิดสิ่งดีๆ อันเป็นการยุติการสร้างตราบาปให้กับสถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง
หรือว่าห้วงเวลาที่ยังพอเหลืออยู่นี้ สมควรต้องมีปรากฏการณ์ “ดอกเอื้องบาน” ไปทั่วประเทศเสียก่อน เพื่อช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น