xs
xsm
sm
md
lg

สับ“สัปปายะฯ”สวยแต่รูป “เจริญ”อ้างแบบสภาฯไร้ความปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (17 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฏร คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดและติดตามการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ว่า ตนจะนำข้อสรุปความเห็นของทางคณะกรรมการฯ ส่งให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ถึงข้อคิดเห็นในการย้ายสถานที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งเมื่อดูจากเอกสารประกอบเหตุผลที่เลือกพื้นที่ย่านเกียกกาย เพราะพื้นที่นี้เป็นแกนประวัติศาสตร์ แบบที่ออกก็เน้นแต่ความสวยงาม แต่ไม่ได้พูดถึงความปลอดภัยเลย
ทั้งนี้หากนายสมศักดิ์ เห็นว่าควรสร้างอาคารรัฐสภาในที่เดิม ทางคณะกรรมการฯจะเสนอข้อคิดเห็นด้านความปลอดภัยในการก่อสร้างเพื่อป้องกันปัญหาอุทกภัย แต่หากเห็นควรให้ย้ายไปยังสถานที่ใหม่ ทางคณะกรรมการฯ ก็ได้เตรียมสถานที่ที่ จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสม และเป็นพื้นที่ราชพัสดุ
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฏรว่าจะพิจารณาอย่างไร สำหรับพื้นที่ จ.นนทบุรี ทางคณะกรรมการฯ มองว่าหากมีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงควรใช้สถานที่ที่มีพร้อมทุกด้านเหมาะที่จะก่อสร้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาโครงการและควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ได้ทำหนังสือถึงสมาชิกวุฒิสภา ลงวันที่ 17 ม.ค.เพื่อรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ในพื้นที่ราชพัสดุถนนทหาร (เกียกกาย)เขตดุสิต กทม.ในวงเงินงบประมาณ 20,000 ล้านบาท
โดยมีสาระสำคัญคือ การแจ้งความคืบหน้าในการรื้อถอนของหน่วยงานพื้นที่จากพื้นที่เดิม ณ วันที่ 6 ม.ค.55 ได้แก่ 1.โรงเรียนกองทัพบกอุปถัมภ์ช่างกล ขส.ทบ. ณ โรงเรียนขส.ทบ. ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างที่ใหม่ ณ วัดสลัก เริ่มสัญญาก่อสร้าง 7 ก.พ.54 สิ้นสุด 28 ก.ย. 55 แล้วเสร็จโดยรวม 18.67 % โดยรวม 2.กองร้อยทหารขนส่งเรือ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินก่อสร้างที่ใหม่ ณ วัดสลัก เริ่มสัญญาก่อสร้าง 7 ก.พ.54 สิ้นสุด 28 ก.ย.55 แล้วเสร็จโดยรวม 8.71 % 3.กองพันนักเรียนและอาคารอื่น ๆรวม 7 หลัง อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างที่ใหม่ ณ วัดสลัก เริ่มสัญญาก่อสร้าง 7 พ.ย.53 สิ้นสุด 20 ม.ค.55 ในส่วนของบ้านพักและสันทนาการ และกองคลังขส.ทบ.แล้วเสร็จโดยรวม 8.71 % บ้านพักข้าราชการของสพ.ทบ.แล้วเสร็จโดยรวม 57 %
4.บ้านพักกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.)และบ้านพักกองร้อยทหารม้า (ลาดตะเวน) กองพล 1รักษาพระองค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างแฟลตที่พักใหม่ฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เริ่มสัญญาก่อสร้าง 6 ส.ค.53 สิ้นสุด 26 พ.ค.55 แล้วเสร็จโดยรวม 67.57 % 5. กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.)ย้ายไปม.รอ.และพัน.ซบร.กรมสน.พล.ม.2รอ.เกียกกาย และพล.ม.2รอ.สนามเป้า ซึ่งตามแผนงานกองทัพบกกำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือนพ.ย.55 แต่ทางกองทัพบกยืนยันที่จะส่งมอบพื้นที่ในส่วนของบ้านพัก (บางส่วน)ให้ได้ประมาณเดือน พ.ค.55 ส่วนพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เหลือซึ่งใช้เป็นพื้นที่สำหรับก่อสร้างอาคารรัฐสภาจะส่งมอบในเดือนพ.ย.55
ขณะที่การรื้อถอนของหน่วยงานอื่น ๆและชุมชนประกอบด้วย 1.โรงเรียนโยธินบูรณะ ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่แห่งใหม่ (วัดสร้อยทอง)คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ได้ในต้นปี 57 2.ศูนย์บริการสาธารณสุข 38 และห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ดุสิต อยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ได้ประมาณเดือน มี.ค.56 3.บ้านพักข้าราชการกรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร อยู่ระหว่างการก่อสร้างพื้นที่แห่งใหม่คาดว่าจะแล้วเสร็จและส่งมอบพื้นที่ได้ต้นปี 56 และ4.ชุมชนบ้านพักองค์การทอผ้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ยื่นประกวดราคาการก่อสร้างที่พักใหม่ ซึ่งจะอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยสรุปคาดว่าจะได้รับมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างก่อสร้างเข้าไปดำเนินการได้บางส่วนในเดือนพ.ค.55 เป็นต้นไป สำหรับหน่วยงานและชุมชนที่ย้ายออกจากพื้นที่แล้วได้แก่ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กรมราชองค์รักษ์ และชุมชนตระกูลดิษฐ์
ทั้งนี้การจ่ายชดเชยค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างแก่หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ งบประมาณ 7,120,135,622บาท สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จ่ายเงินชดเชยจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 54 ไปแล้ว เป็นจำนวน 6,213,417,122 บาท ดังนี้ 1.สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 1,213,366,000 บาท จากวงเงิน 1,221,000,000 บาท 2.กองทัพบก 3,576,067,522 บาท จากวงเงิน 3,925,000,000 บาท 3. กรมราชองค์รักษ์ 1,425,000 บาท จากวงเงิน 2,000,000 บาท 4. องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 402,667,600 บาท จากวงเงิน 402,667,600 บาท 5. โรงเรียนโยธินบูรณะ 999,891,000 บาท จากวงเงิน 1,000,000,000 บาท 6.ค่าชดเชยยกเลิกสถานีบริการน้ำมันให้แก่บริษัทปตท.จำกัด มหาชน 20,000,000 บาท ซึ่งได้จ่ายครบแล้ว ในการนี้ยังคงเหลือของกทม.ที่ยังไม่มีการเบิกจ่ายค่าชดเชยในวงเงิน 142,000,000 บาท
ในส่วนของการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำนักงานเลขาธิการสภาฯได้ว่าจ้างบริษัทธารา คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัททรานส์ เอเชีย คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อมงบประมาณ 4,990,000 บาท และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ความเห็นชอบรายงานเมื่อวันที่ 4 เม.ย.54 การจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้างได้ดำเนินการคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติเบื้องต้น โดยมีบริษัทที่ผ่านมาตรวจสอบคุณสมบัติ 4 ราย คือบริษัทเพาเวอร์ไลน์ เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัทอิตาเลียนไทย อีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทชิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรั๊คชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทชินแท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.54
สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเกียกกาย คณะกรรมการฯมีมติเห็นชอบให้สร้างเป็นสะพาน 4 ช่องจราจร จะกระทบต่อพื้นที่ก่อสร้างอาคารรัฐสภาบางส่วน เมื่อเวลาออกแบบรายละเอียดกทม.จะต้องหารือกับรัฐสภา เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อรูปแบบภูมิทัศน์ และความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา และยังจะต้องศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)เพิ่มเติมขึ้นด้วย เนื่องจากโบราณสถานใกล้รัศมี 2 กม. คาดว่ากทม.จะสามารถดำเนินการได้ในภายหลัง รัฐสภาได้ก่อสร้างอาคารเสร็จแล้ว ส่วนปัญหาการจราจรโดยรอบ กทม.จะขยายถนนสามเสนเป็น 8 ช่องทางจราจร และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)มีแผนสร้างสถานีรถไฟใต้ดินบริเวณอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เชื่อมต่อจากโครงการรถไฟสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ทั้งหมดนี้รูปแบบอาคารรัฐสภาพร้อมรายละเอียดและประมาณราคาในขณะนี้พร้อมที่จะดำเนินการประกวดราคา ถ้าเป็นไปตามแผนงานจะทราบผลผู้รับจ้างได้ภายในเดือน มิ.ย.55 และลงนามสัญญาได้ประมาณเดือนก.ย.55 ซึ่งสอดคล้องกับการส่งมอบพื้นที่
กำลังโหลดความคิดเห็น