“สวนดุสิตโพล” ชี้สังคมคาดหวัง “ครู” เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเด็กไม่โกงร้อยละ 73.28 ขณะที่ร้อยละ 44.72 อยากให้ครูเอาใจใส่ดูแลเด็กและให้คำปรึกษาที่เหมาะสม เผยครูหนี้น้ำท่วมพุ่ง ขณะที่ ครม.มีมติถวายพระราชสมัญญา"พระบิดาแห่งการอุดมศึกษาไทย" แด่สมเด็จฯพระบรมราชชนก
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น และใน “วันครู” ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปีสังคมมีความคาดหวังว่าให้ครูเป็นบุคคลสำคัญที่จะหล่อหลอม ปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดีได้ ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นประชาชน จำนวน 1,422 คน ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2555 สรุปว่า “ความคาดหวัง” ของประชาชนที่มีต่อ ครู กับการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตในตัวเด็กและเยาวชน เห็นว่า ครูสามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้บ้าง เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีหรือเป็นต้นแบบที่ดีได้ ฯลฯ ร้อยละ 60.34 , ครูสามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้อย่างดี เพราะในวัยเรียนครูจะมีบทาทในการอบรมสั่งสอนและใกล้ชิดเด็ก โดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ร้อยละ 21.94 ,ครูคงจะช่วยป้องกันและแก้ไขไม่ค่อยได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนิสัยความคิดของเด็ก การอบรมจากครอบครัว ร้อยละ 12.66 และครูไม่สามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป ยึดวัตถุและเงินมากขึ้น ร้อยละ 5.06
“ครู” จะมีวิธีการที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตในตัวเด็กและเยาวชนที่เป็นรูปธรรมอย่างไร? เห็นว่า ควรให้ความรักและดูเอาใจใส่เด็กให้มาก /คอยสังเกตพฤติกรรม เมื่อเด็กมีปัญหาก็ให้คำแนะนำที่เหมาะสม ร้อยละ 44.72%, ควรปลูกฝังจิตสำนึก /ยกตัวอย่างที่ดีและไม่ดี มาเปรียบเทียบหรือชี้ให้เด็กได้เห็นและเข้าใจอย่างชัดเจน ร้อยะล 43.90 และควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมเรื่องคุณธรรม จริยธรรมเป็นประจำ เช่น จัดอบรม เข้าค่ายคุณธรรม เป็นต้น ร้อยละ 11.38
“ครู” จะต้อง “ปฏิบัติตัว” อย่างไร? จึงจะช่วยปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริตได้ เห็นว่า ควรเป็นแบบอย่างที่ดี มีจิตสำนึกที่ดีของความเป็นครู ร้อยละ 73.28, ครูไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ใดๆ /ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 15.06% และครูไม่ควรตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีอิทธิพลหรือใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ผิด ร้อยละ 11.66
“ปัญหา อุปสรรค” ในการที่ครูจะปลูกฝังความซื่อสัตย์ สุจริตให้แก่เด็ก ณ วันนี้ เห็นว่า สภาพแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัวเด็กไม่เอื้ออำนวย เช่น ฐานะทางบ้าน การคบเพื่อน สภาพเศรษฐกิจ ร้อยละ 38.24, พื้นฐานทางครอบครัว /การดูแลเอาใจใส่ การให้ความรักความอบอุ่นของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ร้อยละ 24.70, ปัจจุบันสื่อและเทคโนโลยีต่างๆสามารถเข้าถึงเด็กได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ร้อยละ18.72% และ การเสนอข่าวการทุจริต คอรัปชั่นในแวดวงต่างๆให้เด็กได้เห็นอยู่เสมอ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก ร้อยละ 18.34%
นอกจากนี้ สวนดุสิตโพล ได้จัดทำดัชนีครูไทยขึ้น เพื่อวัดความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อครูไทย โดยสำรวจความเห็นจากประชาชน จำนวน 8,194 คน สรุปได้ว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อครูไทยมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะด้านบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เหมาะสมกับอาชีพ อุดมการณ์ จิตสำนึก ความรักในวิชาชีพครู และความทันสมัย ทันเหตุการณ์ รู้ข้อมูลข่าวสาร
แต่ในขณะเดียวกันประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อครูไทยลดลง ด้านการไม่เป็นหนี้เป็นสิน การรู้จักประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ และการไม่เอาเปรียบผู้อื่น มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อย่างไรก็ดีปัญหาอุทกภัยทำให้ครูต้องเป็นหนี้สิน ต้องกู้เงินมาดูแลครอบครัวและซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการครุสภา และสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จะต้องพิจารณาแก้ปัญหาให้กับครูโดยเร็วในเรื่องสวัสดิการและความเป็นอยู่ของครูเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากครูมีหนี้สิน ครูไม่มีแรงจูงใจในการสอน จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาของประเทศได้ ทั้งนี้ ศธ. ควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาและพัฒนาครูให้ถูกทางต่อไป
**“โทนี่ แบลร์” สอนภาษาอังกฤษ นร.ไทย
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. กล่าวว่า วันนี้ (16 ม.ค.) นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรี ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนประเทศไทย จะร่วมหารือกับนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ. เรื่องความร่วมมือทางการศึกษา ซึ่งคาดว่าอดีตนายกฯ จะแสดงความเสียใจที่สถานศึกษาหลายแห่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ขณะที่ รมว.ศึกษาธิการ อาจจะขอบคุณรัฐบาลอังกฤษที่ให้ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจกับประเทศไทย ทางเอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้ไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นอกจากนั้นจะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะความร่วมมือในการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
“ไฮไลต์สำคัญของการมาเยือน ศธ. นายโทนี่ แบร์จะสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนไทย ประมาณ 100 คน เป็นเวลา 20 นาที ที่บริเวณโถงอาคารราชวัลลภ เชื่อว่าการมาเยือนของนายโทนี่ แบร์ จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ สอดคล้องกับที่ ศธ.ประกาศให้ปี 2555 เป็นแห่งการพูดภาษาอังกฤษ หรือ English Speaking Years : 2012”ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า ศธ.จะมีการสอนภาษาอังกฤษให้ข้าราชการด้วย เป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยเน้นการพูดเพื่อการสื่อสารได้เป็นหลัก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการอุดมศึกษาไทย" แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระราชกรณียกิจด้านการอุดมศึกษาและระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปี แห่งการพระราชสมภพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เนื่องจากเห็นว่า สร้างประโยชน์แก่ระบบการศึกษาไทย กระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา และเป็นโอกาสที่จะแสดงความกตัญญูกตเวทิตาที่พึงมีต่อพระผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ต่อระบบการศึกษาไทย กระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงจิตวิณญาณของความเป็นครู.
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนทั่วประเทศ ในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น และใน “วันครู” ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปีสังคมมีความคาดหวังว่าให้ครูเป็นบุคคลสำคัญที่จะหล่อหลอม ปลูกฝังเด็กและเยาวชนให้เป็นคนดีได้ ทั้งนี้ ผลการสำรวจความเห็นประชาชน จำนวน 1,422 คน ระหว่างวันที่ 10-14 มกราคม 2555 สรุปว่า “ความคาดหวัง” ของประชาชนที่มีต่อ ครู กับการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตในตัวเด็กและเยาวชน เห็นว่า ครูสามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้บ้าง เพราะเป็นตัวอย่างที่ดีหรือเป็นต้นแบบที่ดีได้ ฯลฯ ร้อยละ 60.34 , ครูสามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้อย่างดี เพราะในวัยเรียนครูจะมีบทาทในการอบรมสั่งสอนและใกล้ชิดเด็ก โดยสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ร้อยละ 21.94 ,ครูคงจะช่วยป้องกันและแก้ไขไม่ค่อยได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับนิสัยความคิดของเด็ก การอบรมจากครอบครัว ร้อยละ 12.66 และครูไม่สามารถช่วยป้องกันและแก้ไขได้ เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป ยึดวัตถุและเงินมากขึ้น ร้อยละ 5.06
“ครู” จะมีวิธีการที่จะช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาทุจริตในตัวเด็กและเยาวชนที่เป็นรูปธรรมอย่างไร? เห็นว่า ควรให้ความรักและดูเอาใจใส่เด็กให้มาก /คอยสังเกตพฤติกรรม เมื่อเด็กมีปัญหาก็ให้คำแนะนำที่เหมาะสม ร้อยละ 44.72%, ควรปลูกฝังจิตสำนึก /ยกตัวอย่างที่ดีและไม่ดี มาเปรียบเทียบหรือชี้ให้เด็กได้เห็นและเข้าใจอย่างชัดเจน ร้อยะล 43.90 และควรจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมเรื่องคุณธรรม จริยธรรมเป็นประจำ เช่น จัดอบรม เข้าค่ายคุณธรรม เป็นต้น ร้อยละ 11.38
“ครู” จะต้อง “ปฏิบัติตัว” อย่างไร? จึงจะช่วยปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเป็นคนซื่อสัตย์ สุจริตได้ เห็นว่า ควรเป็นแบบอย่างที่ดี มีจิตสำนึกที่ดีของความเป็นครู ร้อยละ 73.28, ครูไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ใดๆ /ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ร้อยละ 15.06% และครูไม่ควรตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้มีอิทธิพลหรือใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางที่ผิด ร้อยละ 11.66
“ปัญหา อุปสรรค” ในการที่ครูจะปลูกฝังความซื่อสัตย์ สุจริตให้แก่เด็ก ณ วันนี้ เห็นว่า สภาพแวดล้อมต่างๆที่อยู่รอบตัวเด็กไม่เอื้ออำนวย เช่น ฐานะทางบ้าน การคบเพื่อน สภาพเศรษฐกิจ ร้อยละ 38.24, พื้นฐานทางครอบครัว /การดูแลเอาใจใส่ การให้ความรักความอบอุ่นของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ร้อยละ 24.70, ปัจจุบันสื่อและเทคโนโลยีต่างๆสามารถเข้าถึงเด็กได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีทั้งข้อดี-ข้อเสีย ร้อยละ18.72% และ การเสนอข่าวการทุจริต คอรัปชั่นในแวดวงต่างๆให้เด็กได้เห็นอยู่เสมอ เป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับเด็ก ร้อยละ 18.34%
นอกจากนี้ สวนดุสิตโพล ได้จัดทำดัชนีครูไทยขึ้น เพื่อวัดความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อครูไทย โดยสำรวจความเห็นจากประชาชน จำนวน 8,194 คน สรุปได้ว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อครูไทยมากขึ้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะด้านบุคลิกภาพ การแต่งกายที่เหมาะสมกับอาชีพ อุดมการณ์ จิตสำนึก ความรักในวิชาชีพครู และความทันสมัย ทันเหตุการณ์ รู้ข้อมูลข่าวสาร
แต่ในขณะเดียวกันประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อครูไทยลดลง ด้านการไม่เป็นหนี้เป็นสิน การรู้จักประหยัดไม่ฟุ้งเฟ้อ และการไม่เอาเปรียบผู้อื่น มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อย่างไรก็ดีปัญหาอุทกภัยทำให้ครูต้องเป็นหนี้สิน ต้องกู้เงินมาดูแลครอบครัวและซ่อมแซมบ้านที่ได้รับความเสียหาย ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ สำนักงานคณะกรรมการครุสภา และสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการ และสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จะต้องพิจารณาแก้ปัญหาให้กับครูโดยเร็วในเรื่องสวัสดิการและความเป็นอยู่ของครูเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้น หากครูมีหนี้สิน ครูไม่มีแรงจูงใจในการสอน จะส่งผลกระทบต่อการศึกษาของประเทศได้ ทั้งนี้ ศธ. ควรกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาและพัฒนาครูให้ถูกทางต่อไป
**“โทนี่ แบลร์” สอนภาษาอังกฤษ นร.ไทย
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. กล่าวว่า วันนี้ (16 ม.ค.) นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรี ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนประเทศไทย จะร่วมหารือกับนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศธ. เรื่องความร่วมมือทางการศึกษา ซึ่งคาดว่าอดีตนายกฯ จะแสดงความเสียใจที่สถานศึกษาหลายแห่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ขณะที่ รมว.ศึกษาธิการ อาจจะขอบคุณรัฐบาลอังกฤษที่ให้ความช่วยเหลือและเป็นกำลังใจกับประเทศไทย ทางเอกอัคราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ได้ไปตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) นอกจากนั้นจะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือต่าง ๆ โดยเฉพาะความร่วมมือในการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ
“ไฮไลต์สำคัญของการมาเยือน ศธ. นายโทนี่ แบร์จะสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนไทย ประมาณ 100 คน เป็นเวลา 20 นาที ที่บริเวณโถงอาคารราชวัลลภ เชื่อว่าการมาเยือนของนายโทนี่ แบร์ จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ สอดคล้องกับที่ ศธ.ประกาศให้ปี 2555 เป็นแห่งการพูดภาษาอังกฤษ หรือ English Speaking Years : 2012”ปลัด ศธ. กล่าวต่อว่า ศธ.จะมีการสอนภาษาอังกฤษให้ข้าราชการด้วย เป็นเวลา 8 สัปดาห์ โดยเน้นการพูดเพื่อการสื่อสารได้เป็นหลัก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมเห็นชอบการถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการอุดมศึกษาไทย" แด่สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อเฉลิมพระเกียรติในพระราชกรณียกิจด้านการอุดมศึกษาและระบบการศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 120 ปี แห่งการพระราชสมภพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เนื่องจากเห็นว่า สร้างประโยชน์แก่ระบบการศึกษาไทย กระตุ้นให้สังคมไทยตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา และเป็นโอกาสที่จะแสดงความกตัญญูกตเวทิตาที่พึงมีต่อพระผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ต่อระบบการศึกษาไทย กระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงจิตวิณญาณของความเป็นครู.
