ASTVผู้จัดการรายวัน- ดีเซล 16 ม.ค.นี้จ่อทะลุ 31 บาทต่อลิตรเหตุรัฐเดินหน้ารีดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯคืนดีเซล 60 สต.ต่อลิตร เบนซินและแก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อลิตร”บางจาก”มองก.พ.ดีเซลเฉลี่ย 32-33 บาท ก.พลังงานเล็งชงกพช.ทบทวนแผนจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯเพื่อไม่ให้กระทบประชาชน ขณะที่ราคาแอลพีจีและเอ็นจีวี 16 ม.ค.ขยับเป็น 75 สต.ต่อกก.และ50 สต.ต่อกก.ตามแผนเดิม
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้(12ม.ค.55) ว่า มีมติให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ไปจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ทบทวนมติเดิมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กำหนดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อเดือนและดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตรมีผล 16 ม.ค.55 ว่าหลังจากม.ค.ไปแล้วเดือนต่อไปจะบริหารอย่างไรไม่ให้กระทบกับประชาชนโดยให้พิจารณาตลาดโลกรวมถึงส่วนต่างระหว่างราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทน
“ มติกพช.27ส.ค.2554 นั้นได้มีการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯลงไปในขณะนั้นเพื่อลดผลกระทบราคาน้ำมันต่อมามติกพช. 30 ก.ย.54 ได้วางกรอบการจัดเก็บเงินคืนเข้ากองทุนฯไว้ซึ่งเป็นรายเดือนมีผลตั้งแต่ 16 ม.ค.นี้จึงได้มอบให้สนพ.ไปทบทวนใหม่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้ราคาแพงจนกระทบประชาชน”นายพิชัยกล่าว
ดังนั้นวันที่ 16 ม.ค.55 จะมีการประกาศการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน ตามมติ กพช. 30 ก.ย.ไปก่อนคือ ดีเซลจัดเก็บเงินกองทุน 60 สต./ลิตร เบนซิน 95และ 91 จัดเก็บ 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อัตราใหม่ 1.20 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันจัดเก็บ 0.20 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91เดิมได้รับการอุดหนุน 1.40 บาท ก็จะได้รับการอุดหนุนลดลงเหลือ 0.40 บาท/ลิตร อี 20 เดิมได้รับการอุดหนุน 2.80 บาท อัตราใหม่ลดลงเหลือ 1.80 บาท/ลิตร
อี 85 เดิมได้รับการอุดหนุน 13.50 บาท จะได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 13.60 บาท/ลิตร
สำหรับการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันก็จะทำให้ภาระลดของกองทุนน้ำมันที่อดุหนุนลดลงประมาณ 53.62 ล้านบาท จากติดลบวันละ 97.85 ล้านบาท เหลือติดลบวันละ 44.23 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังประกาศขึ้นราคาเอ็นจีวี 50 สต./กก. แอลพีจีภาคขนส่ง 75 สต./กก.หรือ 41 สต./ลิตร ในวันที่ 16 ม.ค.55 แต่เอ็นจีวีจะมีการปรับขึ้นเท่ากับอัตราเดิม คือปรับขึ้นทุกเดือน รวม 6 บาท/กก.หรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะทำงานของกระทรวงพลังงานกับผู้ประกอบการขนส่งจะหารือกัน อย่างไรก็ตามที่ประชุมกบง.ได้เห็นชอบให้ขยายกลุ่มให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่รถร่วมโดยสารปรจะทาง ขสมก.รถมินิบัสร่วม ขสมก.และรถสองแถวร่วม ขสมก.จากเดิมช่วยเหลือเฉพาะรถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถตู้ร่วมโดยสาร ขสมก. โดยจะมีทั้งบัตราเครดิตพลังงานและบัตรส่วนลดเอ็นจีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ว่า (13ม.ค.55) บมจ.บางจากและปตท.ได้แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรยกเว้น แก๊สโซฮอล์อี 85 ที่ปรับเพียง 30 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันนี้ (4ม.ค.)เป็นต้นไปหลังจากที่คาลเท็กซ็และเชลล์ได้นำปรับขึ้นดีเซลไปก่อน ส่งผลให้ราคาขายปลีกของปตท.และบางจากในเขตกทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91 ราคาอยู่ที่37.47 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.19 บาทต่อลิตร อี 20 อยู่ที่ 33.44 บาทต่อลิตร อี 85 อยู่ที่ 22.42 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.44 บาทต่อลิตรและดีเซล 30.49 บาทต่อลิตรซึ่งเป็นราคาดีเซลสูงสุดในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่พ.ย. 2553
ทั้งนี้ตั้งแต่เปิดทำงานหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นไปแล้ว 4 ครั้ง(รวมครั้งล่าสุดด้วย) โดยน้ำมันเบนซินมีการปรับขึ้นรวม 2.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลมีการปรับขึ้นไป 2 ครั้งรวม 1.10 บาทต่อลิตร
**บางจากมองดีเซลก.พ.32-33บ.
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า คาดว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในเดือนก.พ.นี้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 32-33 บาทต่อลิตรแน่นอน ขณะเดียวกันก็ต้องดูภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่จะสิ้นสุดมาตรการสิ้นเดือนม.ค.นี้ ว่าจะมีการต่ออายุมาตรการออกไปอีกหรือไม่ หากไม่ต่ออายุราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลก็จะขึ้นทันทีอีก 5บาทต่อลิตร
รับมือดีเซลทะลุ31บ.16ม.ค.
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหารบมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ดูจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่เข้าสู่ฤดูหนาวและความตึงเครียดของการบอยคอตอิหร่านจะส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังเป็นขาขึ้นดังนั้นเมื่อรัฐจะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 16 ม.ค.โดยเฉพาะดีเซลอีก 60 สตางค์ต่อลิตรก็จะมีโอกาสทำให้ราคาดีเซลขยับทะลุระดับ 31 บาทต่อลิตรค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ดีเซลน่าจะเป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะจะเจอ 4 เด้งคือ 1. สถานการณ์อิหร่านที่จะทำให้ราคาโลกยังคงสูง 2.ผลจากการปรับคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยุโรปหรือยูโร 4 ทำให้ต้นทุนผู้ค้าเพิ่มโดยเบนซิน 48 สตางค์ต่อลิตร ดีเซล 41 สตางค์ต่อลิตรซึ่งส่วนนี้ยังไม่ได้สะท้อนมายังราคาขายปลีก 3. การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯที่ก่อนหน้าลดลงไป 3บาทต่อลิตรและ 4. ภาษีสรรพสามิตดีเซลที่ลดการจัดเก็บไป 5.30 บาทต่อลิตรซึ่งรัฐได้ต่ออายุถึงม.ค.นี้ดังนั้นเชื่อว่าส่วนนี้รัฐบาลคงจะต้องยืดเวลาต่ออีก 1-2 เดือนเพื่อชะลอผลกระทบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วานนี้(12ม.ค.55) ว่า มีมติให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ไปจัดทำรายละเอียดเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ทบทวนมติเดิมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กำหนดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 1 บาทต่อเดือนและดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตรมีผล 16 ม.ค.55 ว่าหลังจากม.ค.ไปแล้วเดือนต่อไปจะบริหารอย่างไรไม่ให้กระทบกับประชาชนโดยให้พิจารณาตลาดโลกรวมถึงส่วนต่างระหว่างราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์เพื่อส่งเสริมพลังงานทดแทน
“ มติกพช.27ส.ค.2554 นั้นได้มีการปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯลงไปในขณะนั้นเพื่อลดผลกระทบราคาน้ำมันต่อมามติกพช. 30 ก.ย.54 ได้วางกรอบการจัดเก็บเงินคืนเข้ากองทุนฯไว้ซึ่งเป็นรายเดือนมีผลตั้งแต่ 16 ม.ค.นี้จึงได้มอบให้สนพ.ไปทบทวนใหม่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้ราคาแพงจนกระทบประชาชน”นายพิชัยกล่าว
ดังนั้นวันที่ 16 ม.ค.55 จะมีการประกาศการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมัน ตามมติ กพช. 30 ก.ย.ไปก่อนคือ ดีเซลจัดเก็บเงินกองทุน 60 สต./ลิตร เบนซิน 95และ 91 จัดเก็บ 1 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อัตราใหม่ 1.20 บาท/ลิตร จากที่ปัจจุบันจัดเก็บ 0.20 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91เดิมได้รับการอุดหนุน 1.40 บาท ก็จะได้รับการอุดหนุนลดลงเหลือ 0.40 บาท/ลิตร อี 20 เดิมได้รับการอุดหนุน 2.80 บาท อัตราใหม่ลดลงเหลือ 1.80 บาท/ลิตร
อี 85 เดิมได้รับการอุดหนุน 13.50 บาท จะได้รับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นเป็น 13.60 บาท/ลิตร
สำหรับการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันก็จะทำให้ภาระลดของกองทุนน้ำมันที่อดุหนุนลดลงประมาณ 53.62 ล้านบาท จากติดลบวันละ 97.85 ล้านบาท เหลือติดลบวันละ 44.23 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังประกาศขึ้นราคาเอ็นจีวี 50 สต./กก. แอลพีจีภาคขนส่ง 75 สต./กก.หรือ 41 สต./ลิตร ในวันที่ 16 ม.ค.55 แต่เอ็นจีวีจะมีการปรับขึ้นเท่ากับอัตราเดิม คือปรับขึ้นทุกเดือน รวม 6 บาท/กก.หรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะทำงานของกระทรวงพลังงานกับผู้ประกอบการขนส่งจะหารือกัน อย่างไรก็ตามที่ประชุมกบง.ได้เห็นชอบให้ขยายกลุ่มให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่รถร่วมโดยสารปรจะทาง ขสมก.รถมินิบัสร่วม ขสมก.และรถสองแถวร่วม ขสมก.จากเดิมช่วยเหลือเฉพาะรถแท็กซี่ รถสามล้อ และรถตู้ร่วมโดยสาร ขสมก. โดยจะมีทั้งบัตราเครดิตพลังงานและบัตรส่วนลดเอ็นจีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ว่า (13ม.ค.55) บมจ.บางจากและปตท.ได้แจ้งปรับราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลทุกชนิด 50 สตางค์ต่อลิตรยกเว้น แก๊สโซฮอล์อี 85 ที่ปรับเพียง 30 สตางค์ต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันนี้ (4ม.ค.)เป็นต้นไปหลังจากที่คาลเท็กซ็และเชลล์ได้นำปรับขึ้นดีเซลไปก่อน ส่งผลให้ราคาขายปลีกของปตท.และบางจากในเขตกทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้ เบนซิน 91 ราคาอยู่ที่37.47 บาทต่อลิตรแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.19 บาทต่อลิตร อี 20 อยู่ที่ 33.44 บาทต่อลิตร อี 85 อยู่ที่ 22.42 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 34.44 บาทต่อลิตรและดีเซล 30.49 บาทต่อลิตรซึ่งเป็นราคาดีเซลสูงสุดในรอบ 14 เดือนนับตั้งแต่พ.ย. 2553
ทั้งนี้ตั้งแต่เปิดทำงานหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นไปแล้ว 4 ครั้ง(รวมครั้งล่าสุดด้วย) โดยน้ำมันเบนซินมีการปรับขึ้นรวม 2.50 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลมีการปรับขึ้นไป 2 ครั้งรวม 1.10 บาทต่อลิตร
**บางจากมองดีเซลก.พ.32-33บ.
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า คาดว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลในเดือนก.พ.นี้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 32-33 บาทต่อลิตรแน่นอน ขณะเดียวกันก็ต้องดูภาษีสรรพสามิตน้ำมันที่จะสิ้นสุดมาตรการสิ้นเดือนม.ค.นี้ ว่าจะมีการต่ออายุมาตรการออกไปอีกหรือไม่ หากไม่ต่ออายุราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลก็จะขึ้นทันทีอีก 5บาทต่อลิตร
รับมือดีเซลทะลุ31บ.16ม.ค.
นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านน้ำมันและอดีตผู้บริหารบมจ.บางจากปิโตรเลียม กล่าวว่า ดูจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่เข้าสู่ฤดูหนาวและความตึงเครียดของการบอยคอตอิหร่านจะส่งผลให้ราคาน้ำมันตลาดโลกยังเป็นขาขึ้นดังนั้นเมื่อรัฐจะต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 16 ม.ค.โดยเฉพาะดีเซลอีก 60 สตางค์ต่อลิตรก็จะมีโอกาสทำให้ราคาดีเซลขยับทะลุระดับ 31 บาทต่อลิตรค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ดีเซลน่าจะเป็นสิ่งที่ต้องจับตาว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการอย่างไร เพราะจะเจอ 4 เด้งคือ 1. สถานการณ์อิหร่านที่จะทำให้ราคาโลกยังคงสูง 2.ผลจากการปรับคุณภาพน้ำมันตามมาตรฐานยุโรปหรือยูโร 4 ทำให้ต้นทุนผู้ค้าเพิ่มโดยเบนซิน 48 สตางค์ต่อลิตร ดีเซล 41 สตางค์ต่อลิตรซึ่งส่วนนี้ยังไม่ได้สะท้อนมายังราคาขายปลีก 3. การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯที่ก่อนหน้าลดลงไป 3บาทต่อลิตรและ 4. ภาษีสรรพสามิตดีเซลที่ลดการจัดเก็บไป 5.30 บาทต่อลิตรซึ่งรัฐได้ต่ออายุถึงม.ค.นี้ดังนั้นเชื่อว่าส่วนนี้รัฐบาลคงจะต้องยืดเวลาต่ออีก 1-2 เดือนเพื่อชะลอผลกระทบ