ASTVผู้จัดการรายวัน - “โรซ่า” ทุ่ม 50 ล้านบาท ลุยอาหารพร้อมทาน ทดแทนปลากระป๋องในภาวะโลกร้อน ความเสี่ยงสูง ผ่านงบการตลาด 40 ล้านบาทในครึ่งปีแรก หวังใน3 ปีข้างหน้า ยอดขายทะลุ 3,000 ล้านบาท
นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ “โรซ่า” เปิดเผยว่า ในภาวะความเสี่ยงสูงของตลาดปลากระป๋อง ที่มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นสูงทั้งเรื่องของวัตถุดิบ ปัจจัยทางธรรมชาติ ทำให้สินค้าและวัตถุดิบอาจไม่แน่นอน ซึ่งตรงกันข้ามกับสินค้าในกลุ่มซอส และรีทอร์ต เพ้าซ์ที่ มีโอกาสเติบโตทางการตลาดสูง เนื่องจากบริษัทยังไมได้ปรับราคาซอส เหมือนกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด บวกกับความสะดวกสบายของผลิตภัณฑ์ รีทอร์ต
เพ้าซ์เอง ที่สามารถรับประทานง่าย สะดวก เข้ากับความต้องการของคนรุ่นใหม่ จึงมั่นใจว่าสินค้าในสองกลุ่มนี้จะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดเตรียมงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มในส่วนของผลิตภัณฑ์ประเภท RTE (Ready to Eat) หลังจากที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 51 และผลิตภัณฑ์ประเภทซอส เพิ่ม ในทุกรูปแบบ ขยายกำลังการผลิต กลุ่มซอสมะเขือเทศและอาหารพร้อมทานและอาหารแช่แข็งมากขึ้น เพราะบริษัทมีความพร้อมด้านวัตถุดิบเพราะเป็นผู้ผลิตซอสมะเขือเทศรายเดียวในไทยที่มีไร่มะเขือเทศเป็นของตัวเอง ซึ่งตลาดซอสมะเขือเทศมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดรีเทล 200 ล้านบาท และตลาดอุตสาหกรรม 400 ล้านบาท
ส่วนแผนตลาดปีนี้ เตรียมงบตลาดครึ่งปีแรก 40 ล้านบาท เน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Roza Classic Thai Cuisine อยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่าย จากปัจุบันบริษัทมีเมนูกลุ่มนี้ 30 เอสเคยู ซึ่งเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานหรืออาร์ทีอีแบรนด์โรซ่าพร้อมทาน บรรจุในรีทอร์ตเพาซ์ หรือถุงต้มฆ่าเชื้อได้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานคาดว่าอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมียอดขายที่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 2,000 ล้านบาท และต่างประเทศ 1,000 ล้านบาท พร้อมกับการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในกลุ่มซอส 40% ปลา 50% รีทอร์ต เพ้าซ์ 10% จากปัจจุบันที่สัดส่วนมากที่สุดอยู่ในกลุ่มของปลา 60% ซอส 34% และส่วนที่เหลือคือรีทอร์ต เพ้าซ์
ขณะที่รายได้ในปี 2554 ที่ผ่านมาเติบโต 10% หรือ 1.7 พันล้านบาท (ยอดขายในประเทศ) และอีก 500 ล้านบาท (ยอดขายต่างประเทศ) ซึ่งเติบโตสูงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาที่เติบโตเฉลี่ย 7-8% สัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซอสมะเขือเทศ โดยการเติบโตส่วนหนึ่งยังมาจากการที่บริษัทไมได้ปรับขึ้นราคาสินค้าเหมือนกับคู่แข่งรายอื่นที่มีการปรับราคาสินค้าขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10% และบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
ปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 4 แห่ง คือ1.โรงงานที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ผลิตปลากระป๋อง และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ รีทอร์ต เพ้าซ์ 2.จ.ฉะเชิงเทรา ผลิตซอสมะเขือเทศ
3. จ.ปัตตานี ผลิตปลากระป๋อง และ 4. จ.หนองคาย รผลิตซอสมะเขือเทสเข้มข้นและส่งไปผลิตยังโรงงานที่ฉะเชิงเทรา
นายสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แบรนด์ “โรซ่า” เปิดเผยว่า ในภาวะความเสี่ยงสูงของตลาดปลากระป๋อง ที่มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นสูงทั้งเรื่องของวัตถุดิบ ปัจจัยทางธรรมชาติ ทำให้สินค้าและวัตถุดิบอาจไม่แน่นอน ซึ่งตรงกันข้ามกับสินค้าในกลุ่มซอส และรีทอร์ต เพ้าซ์ที่ มีโอกาสเติบโตทางการตลาดสูง เนื่องจากบริษัทยังไมได้ปรับราคาซอส เหมือนกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด บวกกับความสะดวกสบายของผลิตภัณฑ์ รีทอร์ต
เพ้าซ์เอง ที่สามารถรับประทานง่าย สะดวก เข้ากับความต้องการของคนรุ่นใหม่ จึงมั่นใจว่าสินค้าในสองกลุ่มนี้จะสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดเตรียมงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มในส่วนของผลิตภัณฑ์ประเภท RTE (Ready to Eat) หลังจากที่วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 51 และผลิตภัณฑ์ประเภทซอส เพิ่ม ในทุกรูปแบบ ขยายกำลังการผลิต กลุ่มซอสมะเขือเทศและอาหารพร้อมทานและอาหารแช่แข็งมากขึ้น เพราะบริษัทมีความพร้อมด้านวัตถุดิบเพราะเป็นผู้ผลิตซอสมะเขือเทศรายเดียวในไทยที่มีไร่มะเขือเทศเป็นของตัวเอง ซึ่งตลาดซอสมะเขือเทศมีมูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดรีเทล 200 ล้านบาท และตลาดอุตสาหกรรม 400 ล้านบาท
ส่วนแผนตลาดปีนี้ เตรียมงบตลาดครึ่งปีแรก 40 ล้านบาท เน้นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น และเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Roza Classic Thai Cuisine อยู่ระหว่างการเจรจากับตัวแทนจำหน่าย จากปัจุบันบริษัทมีเมนูกลุ่มนี้ 30 เอสเคยู ซึ่งเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานหรืออาร์ทีอีแบรนด์โรซ่าพร้อมทาน บรรจุในรีทอร์ตเพาซ์ หรือถุงต้มฆ่าเชื้อได้ ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำยอดขายได้กว่า 100 ล้านบาท
จากแผนการดำเนินงานคาดว่าอีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมียอดขายที่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 2,000 ล้านบาท และต่างประเทศ 1,000 ล้านบาท พร้อมกับการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในกลุ่มซอส 40% ปลา 50% รีทอร์ต เพ้าซ์ 10% จากปัจจุบันที่สัดส่วนมากที่สุดอยู่ในกลุ่มของปลา 60% ซอส 34% และส่วนที่เหลือคือรีทอร์ต เพ้าซ์
ขณะที่รายได้ในปี 2554 ที่ผ่านมาเติบโต 10% หรือ 1.7 พันล้านบาท (ยอดขายในประเทศ) และอีก 500 ล้านบาท (ยอดขายต่างประเทศ) ซึ่งเติบโตสูงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาที่เติบโตเฉลี่ย 7-8% สัดส่วนยอดขายส่วนใหญ่มาจากผลิตภัณฑ์ในกลุ่มซอสมะเขือเทศ โดยการเติบโตส่วนหนึ่งยังมาจากการที่บริษัทไมได้ปรับขึ้นราคาสินค้าเหมือนกับคู่แข่งรายอื่นที่มีการปรับราคาสินค้าขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 5-10% และบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
ปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 4 แห่ง คือ1.โรงงานที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ผลิตปลากระป๋อง และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ รีทอร์ต เพ้าซ์ 2.จ.ฉะเชิงเทรา ผลิตซอสมะเขือเทศ
3. จ.ปัตตานี ผลิตปลากระป๋อง และ 4. จ.หนองคาย รผลิตซอสมะเขือเทสเข้มข้นและส่งไปผลิตยังโรงงานที่ฉะเชิงเทรา
