xs
xsm
sm
md
lg

กรณีของสุริยะใสกับสื่อเครือASTV

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากกรณีที่คุณสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้นำกลุ่มการเมืองสีเขียวได้ไปออกรายการเช้านี้ดูวูดดี้คู่กับนาย“ตุ๊ดตู่”จตุพร พรหมพันธุ์ ภายใต้เนื้อหาในเรื่องมิตรภาพความเป็นเพื่อนเก่าแก่กับความแตกต่างทางแนวคิดทางการเมืองนั้นได้สร้างกระแสในการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาในวงกว้างของสังคมโดยเฉพาะสังคมออนไลน์

เรื่องนี้มีทั้งผู้ที่มองว่าไม่เป็นเรื่องแปลกในเรื่องจุดยืนทางด้านการเมืองกับมิตรภาพที่แยกออกจากกันชัดเจน และผู้ที่มองว่าการไปแสดงที่จับมือออกสื่อหรือการมีการนัดคุยกินข้าวแลกเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองกันในบางครั้งตามที่นายจตุพรกล่าวอ้างนั้นเป็นเรื่องที่ทำลายความรู้สึกของผู้สนับสนุนการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

กรณีดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันแก่คุณสริยะใสอย่างพอสมควรและคุณสุริยะใสก็ได้ใช้เวทีของสถานีโทรัศน์ ASTV ช่อง news1 ชี้แจงแถลงไขที่มาที่ไปไปเรียบร้อย ส่วนการจะสร้างความเข้าใจในตัวคุณสุริยะใสให้กับแฟนคลับของ ASTV และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้มากน้อยแค่ไหนย่อมขึ้นอยู่กบเหตุผลมุมมองของแต่ละคน

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของคุณสุริยะใส กลับมาเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอีกครั้งจากการที่นิตยสาร ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ ได้นำเอาเรื่องดังกล่าวมาพาดขึ้นปก และเผยแพร่ในเว็บไซต์ ASTVmanager กับการพาดหัวว่า “สุริยะใส”ตายคาจอ ซึ่งเป็นการนำเอาเหตุการณ์ที่คนสนใจในรอบสัปดาห์มาสรุปเล่าเรื่องตามธรรมเนียมการเขียนของนิตยสารการเมืองสุดสัปดาห์ทั่วไปเฉกเช่นเนชั่นสุดสัปดาห์ และมติชนสุดสัปดาห์

และแน่นอน ASTVในฐานะสื่อที่นำเสนอข่าวย่อมถูกนำมาผสมโรงกับกาวิพากษ์วิจาร์ณด้วยซึ่งทางเราน้อมรับทุกคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ผู้อ่านสละเวลาเข้ามาให้ข้อคิด เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและอคติจากทุกฝ่ายจนกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เรื่องนี้เราจึงต้องมองในภาพรวมให้เข้าใจในแต่ละมิติ

เริ่มจากในมุมของคุณสุริยะใส กตะศิลา ที่ถือว่ารับคำวิพากษ์วิจารณ์ไปเต็มๆ จากกรณีนี้ที่ได้ตัดสินใจก้าวเดินขยับขยายตั้งกลุ่มการเมืองสีเขียวขึ้นมา เพื่อสานภาพความฝันบนถนนเส้นการเมืองหลังจากความคาดหวังในการลงแรงกับพรรคการเมืองใหม่ไม่เป็นดังที่คิด

เมื่อพรรคการเมืองใหม่และพันธมิตรฯ แยกทางกัน พันธมิตรฯ ก็ได้หันหลังให้กับระบการเมืองในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะพรรคใหญ่อันดับสอง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลายฝ่ายมองว่าน่าจะจับมือเป็นแนวร่วมทางการเมืองด้วยกันได้ และพรรคประชาธิปัตย์เองก็ได้อยู่เบื้องหลังของกลุ่มเสื้อหลากสี ขณะที่กลุ่มการเมืองต่างๆ ฝั่งไม่เอาทักษิณก็ตั้งกลุ่มย่อยของตนขึ้นมาคู่ขนาน

การที่คุณสุริยะใสจะคิดตั้งกลุ่มการเมืองสีเขียวขึ้นมาบ้าง เพื่อสร้างแนวร่วมของตนโดยขยับขยายแนวร่วมผ่านทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชธิปไตยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ในทางกลับกันอาจจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้คนกลุ่มใหม่เข้ามาเป็นแรงสนับสนุน และความสัมพันธ์ของคุณสุริยะใส กับพันธิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยังคงเป็นการต่อสู้เคียงข้างกัน

เมื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีสถานีข่าว ASTV ช่อง news1 เป็นกระบอกเสียงที่ชัดเจน โดยที่สื่อหลักอื่นๆ พยายามที่จะปิดกั้นไม่ให้ผู้ทรงคุณวุฒิจากฝั่งนี้ไปออกเมื่อเทียบกับขั้วแนวทางการเมืองฝั่งอื่น การเชิญคุณสุริยะใส ไปออกรายการเช้าดูวู้ดดี้ จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะไม่ว่าคนจะชอบหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าชั่วโมงนี้นายวูดดี้เจ้าของและพิธีกรรายการดังกล่าว สามารถสร้างกระแส talk of the town ได้อย่างสม่ำเสมอ

การออกรายการเช้าดูวู้ดดี้ของคุณสุริยะใส จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายหากไม่ได้ไปออกรายการร่วมกับ นายตุ๊ดตู่ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่มีพฤติกรรมสุดโต่งที่เกินกว่าที่ชาวพันธมิตรฯ ที่สนับสนุนคุณสุริยะใส จะรับได้ในประเด็นของความเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ที่แม้จะอยู่คนละขั้วกันแต่ยังมีการนัดพบแลกเปลี่ยนความคิดทางการเมืองกัน

ซึ่งอันที่จริงถ้าคุณสุริยะใสจะใช้โอกาสนี้ในการพีอาร์ตัวเองอย่างฉลาดโดยใช้นายจตุพรเป็นบันได เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อคุณสุริยะใส จะเป็นไปในอีกแนวทางหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะคุณสุริยะใส ไม่ต้องการเรื่องมากหรือให้เกียรติกับโปรดิวเซอร์รายการ ภาพและเสียงที่ปรากฏจึงออกมาตามที่รายการได้ออกอากาศไปแล้ว และคุณสุริยะใส จะต้องยืดอกรับกับคำติชมอย่างลูกผู้ชาย ในฐานะที่ตนเป็นผู้ตัดสินใจไปออกอากาศ และยอมทำตามที่รายการขอด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ขณะเดียวกันในมุมมององแฟนคลับคุณสุริยะใส ที่ไม่น้อยยังเหนีวแน่นกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ย่อมเกิดความผิดหวังกับสิ่งที่ปรากฏผ่านรายการ แน่นอนหลายคนในสังคมย่อมต้องมีเพื่อนหรือญาติพี่น้องคนในครอบครัวที่มีความคิดทางการเมืองต่างกัน แต่สำหรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ถือเป็นข้อยกเว้น เพราะในความรู้สึกของคนที่ไม่เอากับแนวคิดเสื้อแดง นายจตุพร ถือเป็นคนที่หน้าด้าน หน้าทน โกหกรายวัน ปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย เห็นแก่ตัว ทิ้งพวกพ้อง สู้เพื่อทักษิณ และที่สำคัญมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังที่เขากำลังถูกดำเนินคดีอยู่ เรียกได้ว่าแรงชังของคนที่ไม่ชอบนายจตุพร ไม่ได้แพ้ นช.ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นนายแม้แต่น้อย

หลายคนจึงไม่ต้องการเห็นคุณสุริยะใส ที่พวกเขารักไปเกลือกกลั้วกับคนพรรค์นี้ โดยเฉพาะกับคนที่ภาพความสูญเสียของเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ยังติดตา ที่พันธมิตรฯ ผู้บริสุทธิ์มือเปล่าไร้อาวุธถูกเจ้าหน้าที่ปราบปรามด้วมความรุนแรงจนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ย่อมไม่อยากให้วีรชนผู้กล้าต้องตายเปล่า ไม่อยากให้มีใครในพันธมิตรฯ ไปสังฆกรรมกับคนเลวเผาบ้านเผาเมือง ในขณะที่ผู้ปราศรัยที่เขารักไม่ได้ตัดขาดกับบุคคลที่น่ารังเกียจผู้นี้ ซึ่งแม้ว่าคุณสุริยะใส จะบอกทีหลังเมื่อมาอกอากาศทางสถานีข่าว ASTV news1 ว่าเป็นการพบกันพียงบังเอิญไม่กี่ครั้ง และคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองซึ่งเป็นเรื่องปรกติในวิถีระบอบประชาธิปไตย โดยจุดยืนทางการเมืองของตนยังเป็นเช่นเดิม

และสุดท้ายในฝั่งของ ASTV ที่แฟนรายการทั้งที่เป็นพันธมิตรฯ และอีกหลายส่วนต้องการจับตาดูท่าทีว่าจะมีการนำเสอเรื่องราวดังกล่าวหรือไม่ ถ้านำเสนอจะนำเสนออย่างไร ในส่วนของช่องข่าว news1 ก็ได้เปิดพื้นที่ให้คุณสุริยะใส ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ในฝั่งกองบรรณาธิการสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ ได้นำเสนอรายงานเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงโดยนำเสนอข้อมูลอย่างครบด้าน เพราะ ASTV เป็นสื่อของประชาชนจึงต้องกล้าพูดและกล้านำเสนอทุกเรื่องด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์และไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังใด ไม่ได้มีคำสั่งของใครทั้งสิ้น

เราไม่ได้ทำตัวเหมือนพรรคการเมืองบางพรรคที่นำเอาบุคลากรทีมทนายของพรรคมาแทรกแซงคดีฆาตกรรมอื้อฉาวสะเทือนขวัญ เพียงเพราะผู้ต้องหาสังกัดอยู่พรรคการเมืองนั้น ซึ่งแน่นอนคุณสุริยะใส ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายบ้านเมือง และเช่นกัน เราไม่ได้มีแนวคิดในการผลักมิตรให้ไปเป็นศัตรูอย่างที่ใครพยายามเสี้ยมกัน

เราเคารพการตัดสินใจของคุณสุริยะใส และเข้าใจหัวอกของคนที่รับเรื่องนี้ไม่ได้ ในเรื่องบางเรื่องตางคนต่างความคิดต่างวิธีการ เราไม่ได้มาบังคับให้ใครต้องดำเนินตามแบบเรากับการไม่เสวนาสังฆกรรมกับโมฆะบุรุษที่เกินเยียวยาทั้งหลาย หากคุณสุริยะใส ยังคงความเป็นเพื่อนกับคุณจตุพร สามารถแยกแยะมิตรภาพออกจากเรื่องการบ้านการเมืองได้ หวังว่า คุณสุริยะใส และผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านคงจะแยกแยะการทำหน้าที่สื่อและการนำเสนอของ ASTV ในครั้งนี้ได้อย่างเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น