xs
xsm
sm
md
lg

แค่คูปองยังมั่วขนาดนี้ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 ทำท่าจะปลายบานไปกันใหญ่แล้วสำหรับเรื่องแจกคูปองจำนวน 2 พันบาท เพื่อซื้อเครื่องไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ของกระทรวงพลังงาน ตามไอเดียเก๋ไก๋ของ พิชัย นริพทะพันธุ์ เจ้ากระทรวง แต่เป็นเพราะความมั่ว ไม่เอาไหนในทุกเรื่อง ทำให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเวลานี้ได้สร้างความไม่เข้าใจ และไม่พอใจจากชาวบ้าน ทำให้เกิดการปิดถนนแพร่ระบาดกันหลายจังหวัด วันก่อนเกิดขึ้นที่สมุทรสาครปิด ถนนพระราม 2 ต่อมาที่อยุธยา ปิด ถ.เอเซีย เดือดร้อนกันไปทั่ว
00 สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “สันดานขี้โม้” ของรัฐบาลที่ต้องการหาเสียงเกินจริง โดยไม่ยอมทำความเข้าใจกับชาวบ้านให้ชัดเจนเสียก่อน ว่าแท้ที่จริงคูปองดังกล่าวมันก็ไม่ต่างจากการแจกเพื่อนำซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ห้า ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ใช้แทนเงินสด และคนที่ได้รับแจก ก็ต้องมีชื่อในทะเบียนบ้านที่ถูกน้ำท่วม แต่ที่สำคัญก็คือไม่มีการซักซ้อมให้เข้าใจกันเสียก่อนว่า มีร้านค้าใดบ้างที่เข้าร่วมรายการ และเมื่อร้านค้าได้รับคูปองจากชาวบ้านมาแล้ว จะเอาไปไหน ทำให้ต้องปฏิเสธคูปอง มั่วไปหมด และไม่มีใครตอบคำถามได้
00 เรื่องแบบนี้อย่าหาว่าเป็นเรื่องเล็ก อีกทั้งจะไปโทษชาวบ้านก็ไม่ได้ ต้องโทษ รมต.ขี้โม้ ว่าเรื่องแค่นี้ทำไมถึง “ห่วยนัก” ทีเรื่องเจรจาพลังงานผลประโยชน์แสนล้าน กับประเทศเพื่อนบ้าน ทำได้หมดจดนัก จนสงสัยว่ามี “คนหน้าเหลี่ยม” ซ่อนอยู่ข้างหลังหรือไม่ เพราะกุลีกุจอเป็นพิเศษ ทุด !!
00 ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร นี่มันโลภไม่รู้จักพอ ประเภท “ได้คืบจะเอาวา” ทั้งที่ปัจจุบันนี้ตัวเองก็มีทุกอย่างอยู่ในมือแล้ว มีทั้ง นายกฯ ส่วนตัว มี รมต.ส่วนตัว มีส.ส.เต็มสภา จะสั่งซ้ายหันขวาหันอย่างไรก็ได้ มีอำนาจรัฐเต็มเปี่ยม มี ผบ.ตร. มี ผบ.ชน. เป็นคนในครอบครัว เป็นเด็กในบ้าน น่าจะตั้งหน้าตั้งตาสั่งการให้ทำงานรับใช้ตอบแทนชาวบ้านที่อุตส่าห์มีใจให้อย่างเต็มที่ แต่นี่ตรงกันข้าม กลับคิดไปอีกแบบ ได้แค่นี้ยังไม่พอ คิดจะ “กินรวบ” ไม่เหลือให้คนอื่นได้มีที่ยืน
00 เรื่องรัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกัน ทั้งที่ตัวเองก็ได้ประโยชน์กับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเต็มร้อย เป็นรัฐบาลมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ แต่ก็ยังดันทุรัง เพื่อที่จะแก้ไขเพื่อให้ตัวเองได้ “เอาเปรียบ” คนอื่น จะแก้ไขเพื่อให้ตัวเองได้พ้นผิด และกลับมามีอำนาจโดยทางลัด อย่างนี้มันก็ต้องเจอกันหน่อย เพราะข้ออ้างเรื่องรัฐธรรมนูญเผด็จการอะไรนั่น ล้วนเป็นคำพูด “ดัดจริต” ทั้งสิ้น หากบอกว่าฉบับปี 40 ดีที่สุด ก็ต้องบอกว่าฉบับปี 50 นี่แหละดีกว่าเสียอีก เนื่องจากเป็นการต่อยอด ปิดช่องโหว่เอาไว้ทุกทาง เพียงแต่ว่ามันบีบรัดนักการเมืองขี้ฉ้อมากไปหน่อยจนทนไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง
00 ในที่สุดก็ “ลายออก” มาให้เห็นแล้ว โผล่ออกมาจากคณะกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ที่มี อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธาน ก็ได้โยนหินออกมาก่อนแล้วว่า จะไม่มีการแก้ไข มาตรา 191 ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนุญให้เสียเวลา แต่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจำนวน 30-35 คน โดยมีการล็อกชื่อตัวแทนจากองค์กรอาชีพ มีทั้งสื่อ นักวิชาการ กลุ่มการเมือง เช่น วรเจตน์ ภาคีรัตน์ จาก นิติราษฎร์ จาตุรนต์ ฉายแสง และขาดเสียไม่ได้ก็ต้อง “นิติบริกร” คู่หู บวรศักดิ์ อุวรรโณ วิษณุ เครืองาม เป็นต้น อ้อ และยังพ่วงเอา ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คำนูณ สิทธิสมาน จากกลุ่มพันธมิตรฯ และ ส.ว. เข้าไปด้วย หากคิดตื้นๆว่า เสนอรายชื่อเข้ามาแค่นี้โดยเกลี่ยให้ครบทุกกลุ่มแล้วทุกอย่างจะราบรื่น ก็ลองดู แต่รับรองงานนี้ป่วนแน่
00 เห็นรูปการณ์แล้วก็พอเข้าใจได้ว่า ทำไมถึงมีการเขียนสคริปต์ให้ “นายกฯนกแก้ว” ท่องจำว่า รัฐบาลไม่เป็นเจ้าภาพแก้รัฐธรรมนูญ แต่ให้สภาว่ากันไป ก็เพราะว่า ถ้าสภาดำเนินการโอกาสมันจะเดินเครื่องได้เร็ว และสามารถเสนอเข้ามาได้ทุกทิศทาง ล่าสุดส่งสัญญาณออกมาแล้วว่า หลังจากเสร็จสิ้น พ.ร.บ.งบประมาณ ก็จะเดินเครื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญทันที โดยกลุ่มเสื้อแดงได้จัดทำ “ฉบับใต้ตุ่ม” ร่างเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเป็นการแก้ไขทั้งฉบับ โดยเฉพาะใช้ข้ออ้างลบล้างอำนาจเผด็จการ คมช. แต่ความหมายก็คือ ลบล้างความผิดให้ ทักษิณ ชินวัตร ดังนั้นถ้าพิจารณาจากแนวทางของ อุกฤษ และร่างของคนเสื้อแดง ล้วนมีเนื้อหา และวิธีการไม่ต่างกัน และมีเป้าหมายเดียวกันคือ เพื่อคนคนเดียว แต่ต้องให้ “เนียน” พ่วงเรื่องประชาธิปไตย และเสรีภาพ ให้ดูโก้เก๋หน่อย ที่สำคัญไม่ลืมที่จะเข้าไปเฉี่ยวไปแตะสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้อดใจรออีกนิด รับรองว่าทุกอย่างจะเปิดออกมาเอง ส่วนผลจะออกมาตามที่ “เหลี่ยมจัด” หวังหรือไม่ อีกไม่นานก็เห็นผลเหมือนกัน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น