นายบดินทร์ แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานรากชั้นนำในประเทศไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจงานเสาเข็มเจาะและรับเหมาก่อสร้างมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 55 เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่หลายโครงการโดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้า 3 สายจากภาครัฐ ซึ่งล่าสุดมีการเซ็นสัญญาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (แบริ่ง – สมุทรปราการ) ขณะที่ภาพรวมงานก่อสร้างจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้นทิศทางเดียวกัน หลังหลายบริษัทฯ เร่งก่อสร้างช่วงผ่านพ้นวิกฤตการณ์น้ำท่วม ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมเสาเข็มเจาะ และรับเหมาก่อสร้างของบริษัทฯ ได้รับผลดี โดยในปีนี้บริษัทฯ วางเป้ารายได้ 1.2 พันล้านบาท มาจากงานฐานรากสัดส่วน 70% และงานจากรับเหมาก่อสร้างของบริษัท เอ็กซิลอน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกสัดส่วน 30% “เชื่อว่าปี 2555 เป็นปีที่ดีของบริษัทฯ เนื่องจากตลาดงานฐานราก และรับเหมาก่อสร้างคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา
หลังมีโครงการก่อสร้างจำนวนมาก ส่งผลให้การแข่งขันลดน้อยลง โดยในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าทางผู้รับเหมาหลักได้เซ็นสัญญาสายสีเขียว (แบริ่ง – สมุทรปราการ) เมื่อปลายปีก่อนและคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้กลางปีนี้ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค,บางซื่อ-ท่าพระ ) น่าจะเริ่มก่อสร้างได้เดือนมกราคม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต)อยู่ระหว่าง รอเซ็นสัญญา ซึ่งจากการที่มีโอกาสรับงานภาครัฐบาลเพิ่มขึ้น สัดส่วนรายได้จากภาครัฐปีนี้อาจขยับขึ้นจาก 40% ในปัจจุบัน” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่รับรู้รายได้ปีนี้ ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่องกระจายทั้งภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมเบื้องต้นประมาณ 1 – 1.2 พันล้านบาท โดยเข้าประมูลงานเสาเข็มเจาะ มูลค่าประมาณ 500 – 600 ล้านบาท และงานรับเหมาก่อสร้าง มูลค่า 500 – 600 ล้านบาท ซึ่งจากศักยภาพการรับงานดังกล่าวของบริษัทฯ คาดว่าได้งานสัดส่วน 25% และเชื่อว่าสะท้อนให้ผลประกอบการรวมปี 55 มีรายได้รวมแตะ 1.2 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
สำหรับผลประกอบการปี 54 รายได้อาจลดลงต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 1,000 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่จากการที่ผลประกอบการรวมของบริษัทฯมีการเติบโตจากปี 53 มาก ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่บริษัทฯ มีโอกาสจ่ายเงินปันผลงวดปี 2554 มากกว่าปีก่อนที่จ่ายในอัตรา0.08 บาท/หุ้น ซึ่งบริษัทฯ จะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ PYLON มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอัตรา 40% ของกำไรสุทธิ
หลังมีโครงการก่อสร้างจำนวนมาก ส่งผลให้การแข่งขันลดน้อยลง โดยในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าทางผู้รับเหมาหลักได้เซ็นสัญญาสายสีเขียว (แบริ่ง – สมุทรปราการ) เมื่อปลายปีก่อนและคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้กลางปีนี้ ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค,บางซื่อ-ท่าพระ ) น่าจะเริ่มก่อสร้างได้เดือนมกราคม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ – รังสิต)อยู่ระหว่าง รอเซ็นสัญญา ซึ่งจากการที่มีโอกาสรับงานภาครัฐบาลเพิ่มขึ้น สัดส่วนรายได้จากภาครัฐปีนี้อาจขยับขึ้นจาก 40% ในปัจจุบัน” นายบดินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 1 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่รับรู้รายได้ปีนี้ ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯ ยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่องกระจายทั้งภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมเบื้องต้นประมาณ 1 – 1.2 พันล้านบาท โดยเข้าประมูลงานเสาเข็มเจาะ มูลค่าประมาณ 500 – 600 ล้านบาท และงานรับเหมาก่อสร้าง มูลค่า 500 – 600 ล้านบาท ซึ่งจากศักยภาพการรับงานดังกล่าวของบริษัทฯ คาดว่าได้งานสัดส่วน 25% และเชื่อว่าสะท้อนให้ผลประกอบการรวมปี 55 มีรายได้รวมแตะ 1.2 พันล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
สำหรับผลประกอบการปี 54 รายได้อาจลดลงต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 1,000 ล้านบาทเล็กน้อย เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่จากการที่ผลประกอบการรวมของบริษัทฯมีการเติบโตจากปี 53 มาก ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่บริษัทฯ มีโอกาสจ่ายเงินปันผลงวดปี 2554 มากกว่าปีก่อนที่จ่ายในอัตรา0.08 บาท/หุ้น ซึ่งบริษัทฯ จะส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ PYLON มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอัตรา 40% ของกำไรสุทธิ
