xs
xsm
sm
md
lg

มรสุมถล่มชุมพรท่วมสายเอเซีย ภาคใต้อัมพาต น้ำป่าทะลักนครศรีฯ-หาดใหญ่คลี่คลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - กระแสน้ำป่าได้ไหลทะลักเข้า 3 อำเภอนครศรีธรรมราชจนต้องมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัย ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพหนีอย่างทุลักทุเล และมีนักท่องเที่ยวติดค้างรอความช่วยเหลือ แต่สภาพยังน่าเป็นห่วงเมื่อถนนถูกตัดขาด กระแสไฟฟ้าดับ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่เริ่มทรงตัวคาดว่าจะลดระดับลงตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ ด้านชุมพรฝนตกหนักตลอดทั้งวัน ส่งผลถนนสายเอเชียสู่ภาคใต้ถูกตัดขาด รพ.หลังสวนอพยพผู้ป่วยขึ้นขั้น 2 เพื่อความปลอดภัยแล้ว

วานนี้ (2 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์หลังจากเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 2 วัน ปรากฏว่าได้เกิดเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ บ้านเผียน, บ้านสามเทพ, บ้านวังส้าน ต.เทพราช และ ต.ฉลอง ได้เกิดน้ำป่าทะลักลงมาจากเทือกเขาหลวงอย่างรุนแรง ถนนหลายสายในพื้นที่ถูกกระแสน้ำตัดขาดอย่างสิ้นเชิง ชาวบ้านต้องอพยพตนเองออกมาอาศัยอยู่ที่โรงเรียนบ้านเผียน ต.เทพราช หลายสิบครัวเรือนอย่างทุลักทุเล โดยยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่สามารถอพยพตนเองออกมาได้ทันเนื่องจากน้ำป่าตัดขาดถนนหลายสาย ไฟฟ้าดับ

ขณะเดียวกัน น้ำในคลองท่าทนเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่สามารถเปิดประตูระบายน้ำไดด้วยสาเหตุไฟฟ้าดับ ทำให้ไม่สามารถใช้งานมอเตอร์ไฮดรอลิกเปิดประตูระบายน้ำได้ และน้ำป่าได้ทะลักท่วมข้ามถนนสาย 401 ช่วงกิโลเมตรที่ 36 ต.สิชล อ.สิชล ระดับสูงกว่า 80 ซม.รถทุกชนิดไม่สามารถใช้การได้

***นบพิตำอ่วม น้ำป่าถล่มต่อเนื่อง

วันเดียวกันที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กระแสน้ำป่าได้ไหลหลากอย่างรุนแรงและต่อเนื่องมาตามลำห้วยสายต่างๆในพื้นที่ ต.กรุงชิง ต.นบพิตำ ทำให้ถนนถูกตัดขาดไม่สามารถเดินทางเข้าสู่ ตงกรุงชิง ได้แล้ว กระแสน้ำได้พัดพาเอาต้นไม้ใหญ่น้อยถอนรากถอนโคมากระแทกกับตอม่อสะพานอย่างรุนแรงต่อเนื่องเสียงดังสนั่นตลอดเวลา สะพานสะเทือนเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ของ อบต.นบพิตำ และ อบต.กรุงชิง ได้ใช้รถยนต์ติดเครื่องขยายเสียงเปิดสัญญาณไซเรนแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และอพยพออกจากพื้นที่ในจุดเสี่ยง โดยชาวบ้านที่อพยพออกมายังชั้นนอกของ ต.กรุงชิง ได้บอกว่ามีภูเขาถล่มลงมาหลายจุดแล้ว รวมทั้งมีบ้านเรือนพังเสียหาย แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และล่าสุดนั้นยังไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังเขตป่าเขาที่มีชุมชนตั้งอยู่ภายในได้

นายพล จันทร์ชุม นายก อบต.กรุงชิง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า น้ำป่าได้หลากลงมาอย่างรุนแรงขณะนี้ถนนถูกตัดขาดไปแล้วหลายจุด เช่นที่ ม.1, ม.10 ต.กรุงชิง แต่ยังไม่สามารถรวบรวมได้ และล่าสุดนั้นมีดินโคลนถล่มอยู่ที่ ม.8 ต.กรุงชิง มีบ้านพังไปจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมเจ้าของบ้าน ล่าสุดนั้นทหารจากกองทัพภาคที่ 4 ได้ยกกำลังเข้าพื้นที่เพื่อให้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว

***นักท่องเที่ยวติดค้างน้ำตกลานสกา 70 คน

ส่วนที่ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง ได้พยายามเข้าให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่ในน้ำตกท่าหา ต.กำโลน อ.ลานสกา เนื่องจากน้ำป่าได้ทะลักลงมาจากเทือกเขาหลวง ผ่านลงมายังลำคลองท่าดี ซึ่งเป็นลำคลองสายหลักในการถ่ายเทน้ำจากเทือกเขาหลวงอย่างรุนแรง โดยมีรายงานว่าสมีนักท่องเที่ยวติดค้าองยู่ถึงประมาณ 70 คน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถข้ามกระแสน้ำไปให้การช่วยเหลือได้ โดย พ.ต.อ.สุตรีธา อ่อนสด ผกก.สภ.ลานสกา ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปประสานในการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

***ผวจ.นครศรีฯ เตรียมประกาศเขตภัยพิบัติ 3 อำเภอ

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อสั่งการในการให้การช่วยเหลือประชาชนด้วยตัวเอง และเปิดเผยว่าได้เตรียมกลับมายังศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยนครศรีธรรมราช เพื่อลงนามการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติใน 3 อำเภอ คือ อ.นบพิตำ อ.สิชล อ.ท่าศาลา จำนวน 3 อำเภอในเรื่องของน้ำป่าดินโคลนถล่มและน้ำท่วมในลุ่มน้ำคลองกลายเพื่อให้การช่วยเหลือตามกรอบขั้นตอนทางกฎมายในการอนุมัติงบประมาณและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

***ถนนเอเชียเข้าหาดใหญ่ติดแน่น

วานนี้ (2 ม.ค.) ปริมาณน้ำจากพื้นที่ อ.สะเดา และ อ.คลองหอยโข่ง ที่ไหลทะลักมายังพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ทำให้เกิดน้ำท่วมผิวจราจรเส้นทางสายเอเชีย ขาออกจากตัวเมืองหาดใหญ่ช่วงระหว่างสี่แยกคลองหวะกับสี่แยกสนามบิน โดยน้ำได้ท่วมถนนถึง 3 ช่วงระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ระดับน้ำประมาณ 10 เซนติเมตร แม้รถทุกชนิดจะยังสามารถผ่านได้ แต่ได้ทำการให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เพราะเป็นเส้นทางทางขาขึ้นที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และออกจากตัวเมืองหาดใหญ่ ประกอบกับปริมาณรถหนาแน่นเนื่องจากอยู่ในช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ตำรวจทางหลวงต้องมาอำนวยความสะดวกและคอยบอกสถานการณ์น้ำให้ผู้ใช้รถคอยระวัง เพราะวิ่งได้ช่องทางเดียว
ทั้งนี้ จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ส่งผลให้มีประชาชนนำรถมาจอดบนสะพานคลองหวะและสะพานหน้ามหาวิทยาลัยหาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ทำให้กีดขวางการจราจร

***หาดใหญ่ในน้ำเริ่มลดเที่ยงวานนี้

ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา ล่าสุดทางจังหวัดสงขลาได้ประกาศให้พื้นที่ 12 อำเภอจาก 16 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว ประกอบด้วย อ.สะเดา หาดใหญ่ เมือง นาทวี นาหม่อม จะนะ สะบ้าย้อย คลองหอยโขง บางกล่ำ เทพา สิงหนครและ อ.สทิงพระ ความเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วม 69 ตำบล 364 หมู่บ้าน ประชาชนประชาชน 20,390 คน เสียชีวิต 1 คน แต่ภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมทั้ง 12 อำเภอเริ่มคลี่เข้าสู่ภาวะปกติแล้วเหลือเพียงเฉพาะพื้นที่ริมคลองอู่ตะเภาและคลองระบายน้ำ ร.1 ที่น้ำยังล้นตลิ่งเข้าท่วม

ส่วนความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่ใน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่า มวลน้ำก้อนที่ 2 มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบ 4 ชุมชน คือ ชุมชนวัดหาดใหญ่ใน ตลาดพ่อพรหม ซอย 41 เพชรเกษม และชุมชนริมคลอง ร.1 มีระดับน้ำเฉลี่ยประมาณ 30-50 เซนติเมตร และน้ำไหลเข้าโรงสูบน้ำของการประปา ทำให้เครื่องสูบน้ำเสียหาย 1 เครื่อง ต้องส่งเครื่องสูบน้ำเทศบาลไปช่วย แต่ยังต้องเฝ้าระวังมวลน้ำจากสะเดาอีกหนึ่งก้อน ที่จะไหลเข้าคลองอู่ตะเภาในเวลาประมาณ 09.00 น.วานนี้

ด้าน สำนักงานชลประทานสงขลา ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่ในคาดว่าจะเริ่มลดระดับลงตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวานนี้เนื่องจากมวลน้ำก้อนใหญ่ได้ไหลผ่านไปแล้ว

***น้ำท่วมปิดทางหลวงหมายเลข 41 อ.หลังสวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้ (2 ม.ค.) ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้มีน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมผิวการจราจรบริเวณถนนสายเอเชีย 41 หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร และน้ำป่าได้ทะลักเข้าท่วมบริเวณพื้นลานชั้นล่างและชั้นหนึ่งของโรงพยาบาลหลังสวนที่อยู่บริเวณดังกล่าว สูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยต้องอพยพผู้ป่วยกว่า 50 คน อพยพขึ้นไปอยู่ชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ขณะที่น้ำได้เพิ่มปริมาณมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา ปลัดจังหวัดชุมพร และ พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.หลังสวน ได้ประสานไปยัง พ.อ.ศรีศักดิ์ เลิศล้ำ รองผู้บังคับการการจังหวัดทหารบกชุมพร ขอสนับสนุนกำลังทหารในการขนเคลื่อนย้ายเวชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ ยารักษาโรค ขึ้นไปไว้ในที่สูง

นอกจากนั้น น้ำป่าจำนวนมากได้ไหลทะลักเข้ากัดเซาะคอสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวน ในช่องทางขาขึ้น กทม. มีน้ำป่าไหลทะลักจากภูเขาม่วง ไหลเข้าท่วมถนนเอเซีย 41 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. ทำให้รถไม่สามารถผ่านไปได้ พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี ผกก.สภ.หลังสวน ได้สั่งการให้ปิดการจราจรบนสะพานข้ามแม่น้ำหลังสวนในช่องขาขึ้นกรุงเทพฯ โดยให้รถทุกชนิดไปใช้ช่องทางขาล่องใต้สวนกันไปมาเพียงช่องทางเดียว ส่งผลให้รถที่กำลังเดินทางมาจากภาคใต้มุ่งหน้ากรุงเทพฯ ติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

ขณะเดียวกัน ถนนสายเอเชีย 41 เยื้องที่ว่าการอำเภอทุ่งตะโก น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมสูง จนเจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นการจราจรให้รถทุกชนิดไปใช้ทางเลี่ยงถนนเลียบชายทะเลแทน ซึ่งปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่ของ จ.ชุมพร ตั้งแต่ อ.ทุ่งตะโก อ.ละแม อ.หลังสวน และ อ.พะโต๊ะ ทำให้พื้นที่ลุ่มมีน้ำฝนไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว เช่น หมู่ที่ 1 ต.ละแม หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งหลวง อ.ละแม ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร อยู่ระหว่างการออกช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งดวนขณะนี้

กรมทางหลวงแจ้งระดับน้ำ 1.)ทางหลวงหมายเลข 401สายสุราษฏร์-นครศรี ช่วงสิชลน้ำสูง 50-80 ซ.ม. 2.) ทางหลวงหมายเลข 41 อ.หลังสวน น้ำท่วมฝั่งขาออก ให้วิ่งสวนเลนกัน ในฝั่งขาเข้า กม. 65 +375 ครับ 3.) ทางหลวงหมายเลข 4 เพชรเกษม ควนลัง-พังลา กม.149-151 รถวิ่งสวนทางกัน ผ่านได้แต่ไม่สะดวก ล่าสุดอำเภอหลังสวน จว.ชุมพร ทางหลวงหมายเลข 41 ปิดการจราจรแล้วน้ำท่วมไม่สามารถผ่านได้

**ประกาศให้อส.เฝ้าระวังดินถล่ม-น้ำป่า

นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรธรณีได้ออกประกาศขอให้อาสาสมัคร เครือข่ายกรมทรัพยากรธรณีเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ในระหว่างวันที่ 2 - 3 ม.ค.55 ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และกระบี่ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย อ.สิชล นบพิตำเชียรใหญ่ พิปูน ขนอม ลานสกา พรหมคีรี ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช อ.กาญจนดิษฐ์ บ้านนาสาร เวียงสระ เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.เขาพนม เมืองกระบี่ เกาะลันตา จ.กระบี่ เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มม. เริ่มมีดินไหลและน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่แล้ว

"ฝากให้อาสาสมัครเครือข่ายฯ ทรัพยากรธรณี เตรียมพร้อมเฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก และวัดปริมาณน้ำฝนอย่างต่อเนื่อง หากเกิดเหตุให้แจ้งเตือนสถานการณ์ดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากให้ประชาชนในหมู่บ้านรับทราบ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมปฏิบัติตามแผนเฝ้าระวังที่ได้มีการอบรมไว้แล้ว" ผอ.สำนักธรณีวิทยาฯกล่าว

นอกจากนี้ ขอให้อาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยดินถล่มของกรมทรัพยากรธรณีและประชาชนทั่วไป พื้นที่ จ.ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา และภูเก็ต เฝ้าระวังภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย อ.ห้วยยอด เมือง นาโยง ย่านตาขาว ปะเหลียน จ.ตรัง อ.ละงู ควนกาหลง มะนัง ทุ่งหว้า จ.สตูล อ.ศรีบรรพต ศรีนครินทร์ ตะโหมด กงหรา จ.พัทลุง อ.รัตภูมิ หาดใหญ่ สะเดา สะบ้าย้อย นาทวี จ.สงขลา เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มม. เริ่มมีดินไหลและน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่แล้ว

** อุตุฯเผย6จังหวัดที่น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายใน1-2วันนี้

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยถึงสภาพอากาศในช่วงนี้ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางพัดปกคลุม ทำให้ ภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง จะยังคงหนาวเย็นต่อไป ซึ่งในวันที่ 3-4 มกราคมนี้ จะมีความกดอากาศระลอกใหม่ลงมาปกคลุม แต่อากาศจะไม่หนาวเย็นมากเหมือนกับช่วงคริสมาสต์ที่ผ่านมา ส่วนภาคใต้ซึ่งมีฝนหนักต่อเนื่องมาหลายวัน และมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ เป็นผลมาอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำยังคงมีอยู่ แต่น้อยกว่าวานนี้ ทำให้ฝนยังคงตกอีกในวันนี้ แต่จะลดน้อยลงกว่าวันก่อน และใน 6 จังหวัดที่น้ำท่วมจะเริ่มคลี่คลายลง ใน 1-2 วันนี้

ประชาชนสามารถติดตามการพยากรณ์อากาศและประกาศของหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงต้องปรับตัวเพราะสภาพอากาศเริ่มเปลี่ยน การใช้รถใช้ถนนต้องขับอย่างระมัดระวัง เพราะมีหมอกหนา
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ว่า ได้สั่งให้รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ใน จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งหน่วยแพทย์ ลงให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่า สถานการณ์น้ำคงจะไม่รุนแรง

ทั้งนี้ ใน จ.สงขลา ได้รับรายงานว่า มีน้ำท่วม 12 อำเภอ มีสถานพยาบาลในสังกัดถูกน้ำท่วม 3 แห่ง แต่ยังเปิดให้บริการได้อยู่ ขณะที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ณ อำเภอนาทวี อ.นาทวี ระดับน้ำรอบๆ สูง 15-30 เซนติเมตร ยังคงเปิดบริการตามปกติ 90 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องปิดบางส่วนเนื่องจากต้องขนย้ายอุปกรณ์บางส่วนขึ้นที่สูง และได้ส่งต่ผู้ป่วยหนัก 8 ราย ไป โรงพยาบาลจะนะ อ.จะนะ 7 ราย โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 ราย ซึ่งในวันนี้ ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ออกบริการประชาชน 5 จุด ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และที่ อ.นาทวี ด้วย ส่วนที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ สถานการณ์ยังปกติ แต่ได้จัดระบบป้องกันน้ำท่วม พร้อมทั้งสำรองเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์ อย่างเต็มที่ สำหรับที่ จ.นครศรีธรรมราช ในส่วนของสถานพยาบาลในสังกัด ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ได้เตรียมความพร้อมรองรับน้ำท่วมไว้เรียบร้อยแล้ว

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง การแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ว่า เดิมที มีการสั่งให้ตั้งศูนย์ช่วยหลือในแต่ละจังหวัด รวมถึง ซ้อมแผนต่าง ๆ ไปแล้วในทุกพื้นที่ และปรากฏว่าสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที แต่ยอมรับว่า เป็นห่วงใน จ.สงขลา ที่มีฝนตกหนักมาก และมีน้ำสะสมจำนวนมาก แต่ก็ได้ประสานกับนายอำเภอ หาดใหญ่ และเทศบาลไปแล้ว ในการติดตามให้ความช่วยเหลือ และคาดว่า ไม่น่าจะเสียหายรุนแรงเหมือนเมื่อปีก่อน

พ.ต.ต. ธีระ สันติเมธี ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เขต 12 เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดเผชิญเหตุภาวะ วิกฤต (อีอาร์ที) พร้อมกับส่งเรือท้องแบน และเครื่องจักรกล ไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้เร่งด่วนแล้ว

ด้านนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก กล่าวว่า หย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวมาชายฝั่งของประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่างจะได้รับอิทธิพลจากหย่อมอากาศต่ำและ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแผ่ปกคลุมอ่าวไทย จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีคลื่นลมในอ่าวไทยแรงขึ้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันได้ตั้งแต่วันที่ 1-4 ม.ค.55
กำลังโหลดความคิดเห็น