xs
xsm
sm
md
lg

บุกสภาค้านอุ้ม"ครรชิต"-"เหลิม"ร้อนตัว!ปัดสร้างหลักฐานเท็จ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"เฉลิม อยู่บำรุง"ยืนยันตำรวจไม่มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จในคดีฆ่า "อุดร" ขณะที่"อุดม"น้องผู้ตาย ยื่นสภาคัดค้านการให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง"ครรชิต"ผู้ต้องหา พร้อมแฉบิดาผู้ต้องหายุ่งเกี่ยวสถานที่เกิดเหตุ

วานนี้ (29 ธ.ค)ที่รัฐสภา นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้สดถาม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการฆาตกรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทสาคร โดยนายไพจิต กล่าวว่า จากคดีคนร้ายยิงนายอุดร ไกรวัฒนุสรณ์ นายกอบจ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.54 และมีการออกหมายจับผู้หาในวันที่ 26 ธ.ค.54 ซึ่งสังคมมองว่า ที่ออกหมายจับคนร้ายได้รวดเร็ว มีหลักฐานประกอบชัดหรือไม่ และเลือกปฏิบัติหรือไม่ จึงมีผู้สนใจกระบวนการในการจับกุม ว่าเป็นอย่างไร รัฐบาลได้ดำเนินการรอบคอบแค่ไหน อย่างไร

ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวยืนยันว่า คดีนี้ตำรวจทำงานตรงไปตรงมา และคดีที่เกิดขึ้น มีการสืบสวนสอบสวนอย่างใกล้ชิด และสื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคนี้ถูกยิง ทำไมจับไม่ได้ แต่คราวนี้นายกฯ อบจ.สมุทสาคร ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ทำไม ทำเร็ว โดยวันที่เกิดเหตุ คือ 25 ธ.ค.เวลา 15.30 น. ซึ่งเป็นเวลากลางวัน อุกอาจ ท้าทาย ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยิงและหลบหนีไป

"ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 9 ปลอก ขนาด .40 ซึ่งเรียกกันว่า ปืนกล็อก เกิดเหตุที่ปั้มปตท. ผู้ตายเข้าห้องน้ำ พอออกมาระหว่างล้างมือ ก็ถูกยิง ซึ่งเบื้องต้นจากกล้องวงจรปิด เชื่อมโยงว่า มีรถ 2 คันวิ่งตามกันมา หลักฐานชัด มีพยาน เป็นคนขับรถของผู้ตาย และรู้จักกับผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งคนขับรถได้เล่าให้ตนฟังว่า เห็นผู้ตายเข้าห้องน้ำนาน จึงเข้าตามไปดู และได้ยินเสียงปืน เห็นผู้ถูกกล่าวหายิงปืน และผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้คำพูดว่า"เดี๋ยวมึง" พยานก็ได้ยกมือขอชีวิต" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีพยานปากที่ 2,3 เป็นหญิง 1 ชาย 1 ยืนยันว่า เห็นผู้ถูกกล่าวหา คนแรก เห็นในระยะ 20 เมตร คนที่สองเห็นในระยะ 50 เมตร และปืนชนิดนี้ใน จ.สมุทรสาคร มีผู้ได้รับใบอนุญาตครอบครองอยู่ 8 คน ถ้าเจ้าหน้าที่นำปืนทั้ง 8 กระบอก มายิง และตรวจสอบหัวกระสุน ก็จะรู้ว่า ใครเป็นคนยิง จากหลักฐานทั้งหมดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอหมายจับต่อศาลจังหวัด และศาลเป็นผู้อนุมัติหมายจับ ไม่ใช่ตำรวจอนุมัติ ทั้งหมดเป็นหลักฐานที่ตนรวบรวม ตำรวจส่วนตำรวจ รองนายกฯ ไม่มีการกลั่นแกล้ง สร้างหลักฐานเท็จ พวกตน ยุติธรรมพอ แต่ทั้งหมด ตนเอารายละเอียดมาบอกว่า ทำตามขั้นตอน ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่มีอะไรที่ต้องไปใส่ร้าย เพียงแต่เอาความจริงมาบอก

ขณะที่ นายไพจิต กล่าวว่าในชั้นการสอบสวนเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องมีการคุมครองดูแลพยาน อย่างจริงจัง และต้องมีนโยบายเรื่องซุ้มมือปืน ผู้มีอิทธิพล ให้ชัดเจน และเรื่องร้านปืน ต้องป้องปราม ป้องกัน

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องพยาน ตำรวจมีมาตรการดูแลคุ้มครองเรียบร้อย ทางคดีอาญาผู้ต้องหาหรือจำเลยให้การอย่างไรก็ได้ พนักงานสอบสวนต้องหลักฐานชี้ให้ชัด ส่วนเรื่องอาวุธปืนเพิ่มขึ้น สมัยตนเป็น รมว.มหาดไทย ไม่เคยเซ็นอนุญาตแม้แต่กระบอกเดียว ทั้งนี้ หลังจากปีใหม่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จะปฏิบัติการเชิงรุก อย่างเฉียบขาดกับซุ้มมือปืน ตามจับ เพื่อให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการชี้แจง ร.ต.อ.เฉลิม ได้นำแผ่นชาร์ต มาประกอบการอภิปราย โดยเป็นรูปภาพของผู้ตาย ภาพแผนที่เกิดเหตุ และภาพจากกล้องวงจรปิด

**ยื่นสภาค้านให้เอกสิทธิ์คุ้มครอง**

วันเดียวกันที่รัฐสภา นายอุดม ไกรวัตนุสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร น้องชายของนายอุดร ไกรวัตนุสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ยื่นหนังสือคัดค้านการอนุญาตให้ใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง ของนายครรชิต ทับสุวรรณ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายครรชิต เป็นผู้ต้องหาลอบยิงพี่ชายของตนเองจนเสียชีวิต

นายอุดม ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือว่า อาจจะมีการพูดคุยกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยเพื่อไม่ให้เอกสิทธิ์ ทั้งนี้เชื่อว่า ส.ส.ได้ติดตามข่าวสารพอสมควร ดังนั้นแทบจะไม่ต้องพูดคุยอะไรกันมาก เพราะกรณีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมามีแต่กรณีถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จ้างวาน ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง แต่คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ หลังจากศาลพิจารณาหลักฐานก็ได้อนุมัติหมายจับทันที สำหรับกรณีที่มีการระบุว่า มีการรวบรวมหลักฐานเร็วผิดปกตินั้น เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนกลางวัน ไม่เปลี่ยว และไม่ได้มีการจ้างวาน จึงทำให้รวบรวมหลักฐานได้เร็วกว่าคดีอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การอนุญาตให้ใช้เอกสิทธิ์หรือไม่นั้นคงต้องดูจากความมุ่งหมายด้วยว่า เป็นการให้เอกสิทธิ์ส.ส.เพื่อการทำหน้าที่ส.ส.หรือไม่ ถ้าเป็นการทำหน้าที่ส.ส.ต้องได้รับการคุ้มครอง แต่กรณีนี้เป็นการทำหน้าที่ของส.ส.หรือไม่ ตนเชื่อจริยธรรมและดุลพินิจของส.ส.ในการทำหน้าที่แม้ที่ผ่านมาสภาฯ จะให้เอกสิทธิ์คุ้มครองส.ส.ทุกครั้ง แต่เฝ้ามองพฤติกรรมของส.ส.ในขณะนี้แล้วไม่เหมือนในอดีต เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นก็อาจจะเกิดขึ้นได้

**อ้างพ่อผู้ต้องหายุ่งเกี่ยวที่เกิดเหตุ**

ทั้งนี้มีความเป็นห่วงว่าพยานอาจจะถูกข่มขู่ โดยเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 11.00 น. นายเอนก ทับสุวรรณ บิดานายครรชิตได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในสถานที่เกิดเหตุ เพราะเจ้าของสถานที่นั้นมีความสนิทสนมส่วนตัวกับผู้ต้องหา และข่มขู่พยานที่เป็นชาวบ้าน ทำให้พยานจำนวนมากที่รู้เห็นเหตุการณ์หวาดกลัว ไม่กล้ามาเป็นพยาน ดังนั้นจะร้องขอตำรวจกองปราบเพื่อให้มาคุ้มครองพยาน เพราะผู้ถูกกล่าวหานั้นเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และยังมีเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการทำสำนวนสอบสวนในคดีนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องกลัวว่าจะมีการเมืองเข้ามาแทรกแซงการดำเนินคดี เพราะตำรวจที่ทำคดีนี้แต่งตั้งมาในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อย่ามากลัวในจุดนี้ พวกตนต่างหากที่ต้องกลัว ทั้งนี้ หากได้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง การดำเนินคดีก็จะยืดยาวออกไป ตนเกรงว่าพยานหลักฐานต่างๆ จะสูญหายไป เพราะขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมส่งอาวุธปืนและรถที่ก่อเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ดังนั้นหากบริสุทธิ์จริงจะไปกลัวอะไร

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว พร้อมระบุว่า การคุ้มครองเอกสิทธิ์ เป็นดุลยพินิจของ ส.ส.โดยที่ผ่านมาไม่เคยเกิดคดีเช่นนี้ ซึ่ง ส.ส.แต่ละพรรค ก็คงจะมีการพิจารณากันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น