xs
xsm
sm
md
lg

“ปูแดง”แอ๊บการเมืองอำพราง แอบหนุน“นิติเรด”แก้“ม.112”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ความเคลื่อนไหวของคณะนิติราษฎร์ ที่มีการเผยแพร่บทความเมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุถึงกิจกรรมที่ใช้บทบาทนักวิชาการมาบังหน้าในการรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยเริ่มดีเดย์วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2555
ถึงขนาดจะเปิดตัว “คณะกรรมการ” ที่จะรวบรวมรายชื่อบุคคลเพื่อร่วมเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กันอย่างเป็นล่ำเป็นสันนั้น จึงเป็นเรื่องที่คนไทยมิอาจมองข้าม
เนื่องด้วยนักวิชาการกลุ่มนี้ ยึดโยงอย่างแนบแน่นกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้กลายเป็นนักโทษคดีอาญาหนีคุกอยู่ต่างประเทศ จนอาจเรียกได้ว่า คนกลุ่มนี้คือขุมข่ายที่ “ทักษิณ” ร้อยไว้ใช้งาน นับตั้งแต่การยึดอำนาจโดยใช้คนเสื้อแดงป่วนเมือง มีนักวิชาการสมองเฟื่องเหล่านี้ เป็นฐานรองรับ สร้างความชอบธรรมให้การเคลื่อนไหวเพื่อ “ทักษิณ” คนเดียว กลายเป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง
**ทั้ง ๆ ที่แต่ไหนแต่ไรมาบ้านเมืองของเราก็ไม่เคยขาดแคลนประชาธิปไตย
กระทั่ง “ทักษิณ” พ้นคดีซุกหุ้น ปกครองประเทศอย่างเหิมเกริม ลุแก่อำนาจ ขาดความชอบธรรม พัวพันผลประโยชน์ทับซ้อน ย่ำยีรัฐธรรมนูญ 40 แทรกแซงองค์กรอิสระ ฯลฯ ประชาธิปไตยของไทยที่กำลังพัฒนาจึงเริ่มถูกตั้งคำถามมากขึ้นว่า ภายใต้เปลือกนอกที่สวมเสื้อคลุมประชาธิปไตยในยุคระบอบทักษิณครองเมืองนั้น แท้จริงแล้วไทยกำลังได้ผู้นำที่มีวิธีคิดไม่ต่างจาก “ฮิตเลอร์” จอมโหดซึ่งมีที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนกันหรือไม่
จึงเป็นเรื่องที่น่าขบขันอย่างยิ่ง ที่นักวิชาการกลุ่มนี้เลือกตัดตอนว่า ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย นับตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 49 โดยไม่มีการพูดถึงความเลวทรามต่ำช้าที่ผู้นำประเทศ กระทำชำเราบ้านเมืองนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา
**ข้อเสนอในทางวิชาการที่มิได้เป็นไปเพื่อประโยน์ส่วนรวมโดยแท้ของกลุ่มนิติราษฎร์ หรือนิติเรด ที่มีความชัดเจนว่า ถูกใช้เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนทางการเมืองให้กับ “ทักษิณ” เหมือนที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้
ทั้งประเด็นการลบล้างผลพวงการรัฐประหารปี 49 และการเสนอหน้าออกโรงให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพื่อเป็นหนังหน้าไฟแทนรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่แม้จะแอ๊บเต็มที่ ประกาศไม่คิดแก้กฎหมายมาตรานี้ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาชัดเจนถึงความกระดี๊กระด๊า กระสันที่จะแก้ไขเต็มที่ เพียงแต่ไม่มีความกล้าหาญเพียงพอ ที่จะออกหน้าด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นประเด็นเปราะบาง ที่อาจทำให้รัฐบาลสั่นคลอนได้จากแรงต้านของคนส่วนใหญ่ในสังคม
จึงไม่น่าแปลกใจที่พรรคเพื่อไทย จะมีมติในวันที่ 27 ธันวาคม ว่า ไม่มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะการตบตาประชาชนแบบ “สับขาหลอก” จริง คือเท็จ เท็จคือจริง นั้น เป็นงานถนัดของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกสังคมจับได้ตั้งแต่ช่วงการหาเสียงแล้ว
**ซึ่งคนไทยควรจะได้ย้อนรอยดูพฤติกรรมไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชนของพรรคเพื่อไทย ก็จะได้คำตอบว่า การไม่แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ประกาศออกจากปากของ “เด็จพี่”พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นั้น เชื่อถือได้หรือไม่
21 พ.ค. 54 ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ของพรรคเพื่อไทยระบุว่า “จะมอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 3ไปดูแล เพราะ เคยเสนอให้มีการออก พระราชบัญญัติอภัยโทษ และนิรโทษกรรม ส่วนวิธีการจะมีคณะกรรมการ ที่มาจากคนกลาง พิจารณาอีกครั้ง โดย ยึดหลักนิติธรรม คือความเสมอภาค ทุกคนต้องได้รับความเสมอภาคที่เท่าเทียมกัน
**ส่วนจะทำประชามติหรือไม่ ต้องไปว่ากันในรายละเอียด และต้องให้โอกาส พ.ต.ท.ทักษิณได้รับความเป็นธรรมเหมือนคนอื่น”
วันถัดมา ยิ่งลักษณ์ เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่จังหวัดเชียงใหม่ พูดบนเวทีเป็นภาษาเหนือว่า “ไม่เคยกลับบ้านครั้งไหนซึ้งใจเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย น้องสาวกลับยังขนาดนี้ ถ้าพี่ชาย (พ.ต.ท.ทักษิณ) กลับจะขนาดไหน ”
และว่า “พรรคเพื่อไทย จะคิดใหม่ทำใหม่ โดยมีทักษิณช่วยคิด แต่ยิ่งลักษณ์เป็นคนขอทำ”
วันเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปรองดอง ย้ำบนเวทีปราศรัยจะนิรโทษกรรมให้ ทักษิณ พาทักษิณกลับบ้าน แต่เมื่อเกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนักก็กลับลำง่าย ๆ ว่าไม่ใช่นโยบายเป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคลเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยถึงขนาดออกแถลงการณ์ในนามพรรคว่า จะไม่มีนิรโทษกรรมแถมยังตอกย้ำด้วยคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม ระหว่างการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาว่า รัฐบาลจะไม่มีการออกฎหมายนิรโทษกรรม
ผ่านไปไม่ถึง 4 เดือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลับเดินหน้าผลักดันนิรโทษกรรมให้ทักษิณแบบเต็มสูบ โดยอ้างว่าหาเสียงไว้แล้ว คน 15 ล้านเสียง เลือกให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาทำในสิ่งนี้
พลิ้วจากช่วงหาเสียง ที่ยืนยันทำงานเพื่อประชาชนไม่มีวาระทักษิณซ่อนเร้นอย่างไร้ยางอายยิ่ง
มาวันนี้เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศไม่แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 คนไทยคงนอนตาไม่หลับ เพราะมิอาจวางใจได้แม้แต่ขณะจิตเดียวว่า “ยิ่งลักษณ์” จะไม่ทำหน้าซื่อตาใสแต่ใจไม่เหมือนตา จีบปากจีบคอบอกกับสังคมว่า
“เรื่องแก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นเรื่องของสภาจะพิจารณา เพราะเป็นกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล”
จากนั้นร่างแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ของคณะนิติเรดที่กำลังเผาหัวเชื้อกันอยู่ตอนนี้ ก็จะผ่านฉลุยด้วย 300 เสียงที่ “ยิ่งลักษณ์”มีอยู่ในมือภายในสมัยประชุมนี้
**คนไทยต้องเท่าทันกับ “การเมืองอำพราง” ที่ “ยิ่งลักษณ์” สืบสันดานมาจาก “ทักษิณ” ผู้เป็นพี่ชายไม่ต่างจากการทำนิติกรรมอำพรางในกรณีซุกหุ้น
15 ล้านเสียงที่พรรคเพื่อไทยอ้างอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น มิได้ทำให้นักการเมืองพรรคนี้สำนึกถึงบุญคุณของประชาชนแม้แต่น้อย
เพราะสิ่งที่รัฐบาล “ทักษิณส่วนหน้า” ทำอยู่ในขณะนี้ คือ “รับใช้ทักษิณ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน”
การบริหารงานภายใต้การนำของ “ยิ่งลักษณ์” เป็นสิ่งที่ 15 ล้านเสียงที่เคยหลงผิดเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อของพรรคเพื่อไทย ต้องกลับมาทบทวนใหม่ในการเลือกตั้งที่อาจมาถึงเร็วกว่าที่คิดว่า จะยังยินยอมถูกใช้เป็นแค่ข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมให้กับนักเลือกตั้ง ที่ไม่เคยซื่อสัตย์กับประชาชนต่อไป หรือจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้บทเรียนกับคนเหล่านี้ว่า
** คนไทยมีสมองไม่ทำผิดซ้ำสอง เลือกคนชั่วมาทรยศบ้านเมือง
กำลังโหลดความคิดเห็น