xs
xsm
sm
md
lg

เพื่อไทย-เสื้อแดงประสานเกมรุก เจาะกำแพงเหล็กทหาร-อำมาตย์

เผยแพร่:   โดย: นกหวีด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
“รัฐบาลยิ่งลักษณ์”บริหารประเทศได้เดือนเศษ ในสายตาประชาชนยังคงเป็นแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ

ยิ่งมาเจอวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุด นับเป็นงานหนักหนาสาหัสของรัฐบาลอย่างยิ่ง นโยบายต่างๆ ที่พยายามจะตีปี๊บนำเสนออกมา เหมือนละลายหายไปกับสายน้ำ

ชั่วโมงนี้ รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่น จำเป็นที่จะต้องทุ่มสรรพกำลังที่มีลงไปแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมให้ผ่านพ้นไปก่อน ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งนี้จะผ่านพ้นประเทศไทยไป เพราะจะต้องเข้าไปดูแลเยียวยา ฟื้นฟู หลังน้ำท่วมอีกพักใหญ่

การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลครั้งนี้ ดูเหมือนจะไม่ราบรื่นนัก บางฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ ทำงานแบบขอไปที ทำให้คนในฝ่ายรัฐบาลฉุนกึก ถ้าบ้านเมืองวิกฤติขนาดนี้แล้วยังมีบางคนบางฝ่ายคิดเล่นเกมการเมือง หรือคิดถึงประโยชน์ส่วนตน

มันก็น่าจับมาตัดหัวคั่วแห้งให้หมดๆ ไป

หันมามองที่กระดานการเมืองยามนี้ลดโทนความรุนแรงลง ผ่องถ่ายไปแก้ไขสถานการณ์อุทกภัย เกมพาวเวอร์เพลย์ต้องพักยกกันไปก่อนโดยปริยาย

กระนั้นก็ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขพ.ร.บ.การจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เครือข่ายคนในพรรคเพื่อไทย ตลอดจนคนเสื้อแดง ดาหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์สับละเอียดว่า

เป็นกฎหมายเผด็จการแฝงตัวอยู่ เป็นกฎหมายที่เป็นผลพวงการยึดอำนาจ กลิ่นอายรัฐประหารยังคงมีอยู่ในพ.ร.บ.ฉบับนี้

ซึ่งมันได้สะท้อนออกมาจากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการทหารครั้งล่าสุด ที่ดูเหมือนว่าฝ่ายการเมือง หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ไม่สามารถเข้าไปล้วงลูก จัดโผได้เลย กลายเป็นฝ่ายทหาร กองทัพ ที่จัดการกันเองเบ็ดเสร็จ

นายทหารที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น “ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ” “โปฎก บุนนาค” ล้วนขึ้นชั้น ขึ้นแท่นจ่อตำแหน่งใหญ่ โดยที่ไม่สามารถทัดทานยับยั้งได้เลย แม้จะก่อม็อบ เคลื่อนไหวต่อต้านกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตูแล้ว

ฝ่ายการเมืองโดยพรรคเพื่อไทยมองเห็นจุดยุทธศาสตร์ตรงนี้ หากปล่อยให้ดำรงอยู่แบบนี้ต่อไป คงไม่อาจสั่นคลอนอำนาจทหาร ยึดอำนาจบริหาร อำนาจความมั่นคงมาไว้ในมือได้

ต้องเจอะเจอกับการสืบทอดกับอำนาจของฝ่ายทหารซึ่งเป็นขั้วตรงข้ามเรื่อยไป และยังคงต้องหวาดระแวงโดนยึดอำนาจในรูปแบบต่างคล้ายคนวิตกจริต

เพื่อไทยกับทหาร จึงอยู่ในภาวะที่ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ ยิ่งเหินห่างยิ่งเคืองแค้น

วันนี้รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงได้กุมเสียงข้างมากของประชาชน พร้อมแผ่ขยายแทรกซึมไปทุกวงการทีละก้าวๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย แต่อำนาจเดียวที่ดูเหมือนว่าจะยังย่างกรายเข้าไปแตะต้องไม่ได้ คืออำนาจทหาร

เมื่อตอนนี้มีพลังอยู่ในมือย่อมต้องไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปแน่ ดังจะเห็นภาพการออกมาขย่มซ้ำๆ หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เพื่อหวังผลสัมฤทธิ์บางอย่าง

แต่ก็ได้ประเมินกันในทีว่า การออกมาเปิดหน้าเล่นเกมพาวเวอร์เพลย์แบบนี้ สิ่งที่จะได้กลับมามันคงไม่ใช่ทั้งหมด มันคงเป็นเพียงบางส่วน หรือเศษเสี้ยวเท่านั้น

ไอ้ที่จะได้อำนาจมาหมดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเป็นไปไม่ได้แน่ หัวเด็ดตีนขาดฝ่ายอำมาตย์ ฝ่ายทหาร ไม่มีทางยอม กองทัพในชั่วโมงนี้ก็แค่โอนอ่อนให้บ้างเป็นพิธี เพื่อหลบเลี่ยงกระแส หลบคลื่นสึนามิของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงเท่านั้น

เมื่อใดฝ่ายอำมาตย์จับสัญญาณได้ว่ากระแสฝ่ายตรงข้ามเบาบางลงแล้ว คงจะได้เห็นเกมรุกกลับ อาจถึงขั้นรุกฆาตเลยทีเดียว หากฝ่ายเพื่อไทยและคนเสื้อแดงไม่สามารถกดอำนาจอำมาตย์ไว้ได้ตลอดรอดฝั่ง

สถานการณ์ตอนนี้ถือเป็นจังหวะของคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยที่จะระดมสรรพกำลังเข้ามาบ่อนเซาะทำลายเครือข่ายอำมาตย์ ที่หลายฝ่ายยังเชื่อว่าเป็นผู้เกาะกุมอำนาจที่แท้จริงในประเทศนี้

ต้องเล่นเกมจัดหนัก จัดเต็ม จากทุกภาคส่วน เล่นกันแบบสุดโต่ง รุนแรงหวังกระชากเรตติ้งกระแสสังคมให้อยู่กับฝ่ายตนเองต่อเนื่องไป แล้วบ่อนทำลายฝ่ายอำมาตย์ไปเรื่อยๆ

ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ผ่านมาบนกระดานการเมือง จะพบว่าหลายเรื่องราวพุ่งเป้ากระแทกกระทั้นไปที่อำนาจทหาร และอำมาตย์ทั้งสิ้น เพราะเป็นอำนาจเดียวที่เหมือนเป็นกำแพงเหล็กที่พลพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงยังฝ่าเข้าไปไม่ได้

เหมือนเป็นภารกิจที่ต้องเจาะ ต้องทะลวงกันทุกเมื่อเชื่อวัน และจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทำให้ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังหลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศได้กลับบ้านในที่สุด

ความเคลื่อนไหวของ “คณะนิติราษฎร์” ที่สุดโต่ง รุนแรง ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม นั่นก็ถูกนินทาว่าเป็นขบวนการเดียวกันกับคนเสื้อแดง จนถูกครหาว่าเป็น “นิติเรด”

เมื่อจับอาการก็ดูเหมือนว่าจะเป็นการจุดพลุจุดประเด็นให้สังคม โดยใช้ชนชั้นปัญญาชนเข้ามากล่อมเกลา นับเป็นยุทธศาสตร์ที่แหลมคมอันหนึ่ง แต่ดีดลูกคิดรางแก้วในเชิงปฏิบัติคงเกิดขึ้นยาก

ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้กับการเดินเกมของ “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ออกมาเขี่ยลูกให้เข้าเท้ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย เหมือนรับงานมาคล้ายกับการเปิดคลิปทลายบ่อนกลางกรุง เพ่งเล็งไปที่ทหาร

แฉว่าทหารบางหน่วยรู้เห็นเป็นใจกับประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาสวมสิทธิ ยึดประโยชน์ของคนในประเทศ ทั้งเรื่องข้าว เรื่องแก๊ส ที่เป็นนโยบายสำคัญของพรรคเพื่อไทย

แฉกลิ่นเหม็นเน่าของอำนาจสีเขียว เปิดทางให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาจัดระเบียบ แก้ข้อกฎหมาย หวังผลกดหัวทหารให้อยู่ใต้อาณัติ มุ่งไปสู่เป้าหมายยึดครองอำนาจเบ็ดเสร็จ นำพานายใหญ่กลับสู่ประเทศไทย แผ่นดินเกิด ที่เฝ้าถวิลหากลับมาเป็นเรือนตาย

ทั้งหลายทั้งปวงบนกระดานการเมืองประเทศไทย ยังคงติดหล่มอยู่กับการแย่งชิงอำนาจของ 2 ขั้ว อย่างไม่รู้จบสิ้น วันนี้หลายคนอาจมองไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีความหวังจะเห็นความสมานฉันท์ที่จะเกิดขึ้นบนแผ่นดินเกิด แต่รู้ไว้เลยว่าหลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ความสมานฉันท์ที่เฝ้ารอ ยังคงเป็นแสงริบหรี่ การต่อสู้ประหัตประหารบนอำนาจการเมืองยังคงมีอยู่อย่างเปี่ยมล้น ไม่มีการลดราวาศอก จนกว่าใครหรือใครต้องตายกันไปข้างหนึ่งเท่านั้น

อนิจจาประเทศไทย เมื่อไหร่จะหลุดพ้นบ่วงกรรม เป็นประเทศศิวิไลซ์ที่ทุกคนทุกฝ่ายร่วมกันนำพาไปสู่ประเทศที่เจริญแล้วเสียที!!
กำลังโหลดความคิดเห็น