ASTVผู้จัดการรายวัน – คลังชงครม.เพิ่มค่าลดหย่อนภาษี ซ่อมแซมบ้าน-รถ อีก 2 รายการพิจารณาวันนี้ พร้อมเตรียมเสนอปรับโครงสร้างภาษีให้มีความเหมาะสมและยืดหยุ่นมากขึ้นพร้อมเข้าสู่สมาชิก AEC มั่นใจรายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิมแม้เจอปัญหาน้ำท่วม ด้าน"ธีรชัย" สั่งกรมธนารักษ์ฟื้นโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพทั่วประเทศ ขณะที่พื้นที่สวนผึ้งที่มีปัญหาบุกรุกและเช่าช่วงต่อต้องจัดการให้ถูกต้อง ระบุหน่วยงานอื่นไม่มีสิทธิ์นำที่ราชพัสดุไปให้เช่าต่อ
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดี กรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะปรับแบบแสดงรายการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ในรอบปีภาษี 2554 ที่ยื่นระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2555 โดยจะเพิ่มรายการลดหย่อนภาษีเข้าไปอีก 2 รายการคือ ค่าซ่อมแซมบ้าน และค่าซ่อมแซมรถยนต์ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติในวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งจะทำให้รายการลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็น 21 รายการจากเดิมที่มี 19 รายการหรือคิดเป็นเงินที่หายไปประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยจะจัดเป็นทางเลือกต่างให้รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลังเป็นคนตัดสินใจ หากอะไรที่จะออกเป็นกฎหมายลูก ก็สามารถดำเนินการได้โดยเป็นประกาศกระทรวง แต่หากจะออกเป็นกำหมายแม่หรือเป็นมาตรการถาวร ก็ต้องออกเป็นกฎหมายแม่ ผ่านสภา 3 วาระ
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างภาษีจะต้องดูความเหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งโครงสร้างกฎหมายภาษี ช่องโหว่ของกฎหมาย ให้เป็นมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) มาตรฐานทางบัญชีที่เปลี่ยนไป โดยจะต้องพิจารณาหลายเรื่องมาก อะไรที่ทยอยประกาศออกมาได้ ก็จะรีบดำเนินการ อย่างรายการยกเว้นภาษีต่างๆ เพราะออกเป็นกฎหมายลูกได้เลย แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณ หรือกฎกติกาต่างๆ ที่เป็นค่าลดหย่อนภาษี หรือการลดภาษีแบบถาวรก็ต้องออกเป็นกฎหมายแม่
“การจะปรับลดรายการลดหย่อนต่างๆ ที่มีถึง 19 รายการและกำลังจะเพิ่มเป็น 21 รายการนั้นก็ต้องพิจารณาในหลายๆ ด้าน และจะเสนอเป็นทางเลือกเข้าไปให้รัฐมนตรีตัดสินใจ เพราะบางประเทศจะเป็นรายการเดียว แต่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ หรือบางประเทศใช้ฐานภาษีสูง แต่ก็จะไม่ยืดหยุ่นที่ไม่สามารถปรับตามเงินเฟ้อได้ และหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยก็จะเหมือนไทย ที่รายการจะเยอะมาก” นายสาธิตกล่าว
นายสาธิตกล่าวว่า เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ในเดือนธันวาคมและน่าจะต่อเนื่องถึงเดือนมกราคมปีหน้า แต่ยังมั่นใจว่า การจัดเก็บรายได้ในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2555 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 272,000 ล้านบาท จากช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ(ตุลาคม-พฤศจิกายน)สามารถจัดเก็บรายได้รวม 187,000 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จะเพิ่มขึ้นมากจากกิจกรรมการซื้อข่ายสินค้าในช่วงน้ำท่วม แต่ก็ไม่สามารถชดเชยกับภาษีเงินได้นิติบุคคลที่หายไปจากการหยุดกำลังการผลิตของโรงงงานต่างๆ ได้ และหวังว่า จากการฟื้นฟูและเยียวยาจากน้ำท่วมต่างๆจะมีเม็ดเงินเข้าไปในระบบ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นมารและจะเป็นผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้
โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้ลงนามในบันทึกความตกลงให้บริการรับชำระภาษีด้วยบัตรเครดิตไทยพาณิชย์กับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผู้เสียภาษีสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2555 โดยช่วงแรกจะเริ่มจากการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีที่สรรพากรในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 51 แห่งก่อนและจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศและการยื่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วย ซึ่งนอกจากผู้เสียภาษีและที่เป็นลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 1.8 ล้านบัตร จะมีมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 45 วันที่ไม่ต้องจ่ายเงินสดทันที ซึ่งถือว่าจะเป็นในช่วงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมแล้วยังไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมด้วย
**ปรับแผนพัฒนาที่ราชพัสดุ**
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับกรมธนารักษ์ว่า ได้เร่งให้กรมธนารักษ์ดำเนินการในโครงการที่คั่งค้างอย่าง โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุหมอชิต โครงการพื้นที่สวนผึ้ง ที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม และการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต เพราะบางโครงการคั่งค้างมานานกว่า 18-20 ปี จึงต้องการให้เร่งรัดให้มีความคืบหน้า โดยจะต้องจัดทำแผนและเสนอความคืบหน้าต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการการคลังทุกเดือนและบางโครงการก็อาจจะยกเป็นบทเรียนไปอยู่ในแผนแม่บท
“อย่างพื้นที่สวนผึ้ง ที่มีการบุกรุกที่ราชพัสดุจำนวนมากมาทำเป็นรีสอร์ท ก็ต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรในส่วนที่บุกรุกไปแล้ว อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามผิด เพราะหน่วยงานราชการที่ครอบครองที่ราชพัสดุหรือเช่าพื้นเช่าไว้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปให้เช่าต่ออยู่แล้ว รวมถึงทุกแห่งด้วย เพราะการเช่าที่ราชพัสดุจะต้องเป็นคู่สัญญาจากกรมธนารักษ์เท่านั้น ซึ่งจะต้องเข้าไปทำงานร่วมกับหน่วยงานที่ใช้ที่ราชพัสดุด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มเติม ส่วนการพัฒนาที่หมอชิตน่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนาคมปีหน้า” นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัยกล่าวว่า กรมธนารักษ์มีที่ดินที่อยู่ในความครอบครองถึง 13 ล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปัญหามาก บางส่วนไม่ได้ใช้ประโยชน์ บางส่วนมีหน่วยงานราชการถือครอง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ เช่น ทหาร และบางส่วนบุกรุก เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และบางส่วนมีการตกลงในการใช้พื้นที่กับกรมธนารักษ์แล้ว แต่มีปัญหาที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามข้อตกลง จึงต้องการให้กรมธนารักษ์จัดทำแผนแม่บทและหารือร่วมกับปลัดกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เพื่อมาดูร่วมกัน คาดว่าต้นเดือนกุมภาพันธ์น่าจะทราบปัญหาและแนวทางแก้ไขได้
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดี กรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะปรับแบบแสดงรายการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ในรอบปีภาษี 2554 ที่ยื่นระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2555 โดยจะเพิ่มรายการลดหย่อนภาษีเข้าไปอีก 2 รายการคือ ค่าซ่อมแซมบ้าน และค่าซ่อมแซมรถยนต์ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติในวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งจะทำให้รายการลดหย่อนภาษีเพิ่มเป็น 21 รายการจากเดิมที่มี 19 รายการหรือคิดเป็นเงินที่หายไปประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยจะจัดเป็นทางเลือกต่างให้รัฐมนตรีว่าการกระทวงการคลังเป็นคนตัดสินใจ หากอะไรที่จะออกเป็นกฎหมายลูก ก็สามารถดำเนินการได้โดยเป็นประกาศกระทรวง แต่หากจะออกเป็นกำหมายแม่หรือเป็นมาตรการถาวร ก็ต้องออกเป็นกฎหมายแม่ ผ่านสภา 3 วาระ
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างภาษีจะต้องดูความเหมาะสมและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งโครงสร้างกฎหมายภาษี ช่องโหว่ของกฎหมาย ให้เป็นมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) มาตรฐานทางบัญชีที่เปลี่ยนไป โดยจะต้องพิจารณาหลายเรื่องมาก อะไรที่ทยอยประกาศออกมาได้ ก็จะรีบดำเนินการ อย่างรายการยกเว้นภาษีต่างๆ เพราะออกเป็นกฎหมายลูกได้เลย แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณ หรือกฎกติกาต่างๆ ที่เป็นค่าลดหย่อนภาษี หรือการลดภาษีแบบถาวรก็ต้องออกเป็นกฎหมายแม่
“การจะปรับลดรายการลดหย่อนต่างๆ ที่มีถึง 19 รายการและกำลังจะเพิ่มเป็น 21 รายการนั้นก็ต้องพิจารณาในหลายๆ ด้าน และจะเสนอเป็นทางเลือกเข้าไปให้รัฐมนตรีตัดสินใจ เพราะบางประเทศจะเป็นรายการเดียว แต่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ หรือบางประเทศใช้ฐานภาษีสูง แต่ก็จะไม่ยืดหยุ่นที่ไม่สามารถปรับตามเงินเฟ้อได้ และหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยก็จะเหมือนไทย ที่รายการจะเยอะมาก” นายสาธิตกล่าว
นายสาธิตกล่าวว่า เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ในเดือนธันวาคมและน่าจะต่อเนื่องถึงเดือนมกราคมปีหน้า แต่ยังมั่นใจว่า การจัดเก็บรายได้ในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2555 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 272,000 ล้านบาท จากช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ(ตุลาคม-พฤศจิกายน)สามารถจัดเก็บรายได้รวม 187,000 ล้านบาท แม้ว่ารายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)จะเพิ่มขึ้นมากจากกิจกรรมการซื้อข่ายสินค้าในช่วงน้ำท่วม แต่ก็ไม่สามารถชดเชยกับภาษีเงินได้นิติบุคคลที่หายไปจากการหยุดกำลังการผลิตของโรงงงานต่างๆ ได้ และหวังว่า จากการฟื้นฟูและเยียวยาจากน้ำท่วมต่างๆจะมีเม็ดเงินเข้าไปในระบบ และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นมารและจะเป็นผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้
โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้ลงนามในบันทึกความตกลงให้บริการรับชำระภาษีด้วยบัตรเครดิตไทยพาณิชย์กับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยผู้เสียภาษีสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2555 โดยช่วงแรกจะเริ่มจากการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีที่สรรพากรในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 51 แห่งก่อนและจะขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศและการยื่นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตด้วย ซึ่งนอกจากผู้เสียภาษีและที่เป็นลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์กว่า 1.8 ล้านบัตร จะมีมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 45 วันที่ไม่ต้องจ่ายเงินสดทันที ซึ่งถือว่าจะเป็นในช่วงการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมแล้วยังไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมด้วย
**ปรับแผนพัฒนาที่ราชพัสดุ**
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้กับกรมธนารักษ์ว่า ได้เร่งให้กรมธนารักษ์ดำเนินการในโครงการที่คั่งค้างอย่าง โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุหมอชิต โครงการพื้นที่สวนผึ้ง ที่ราชพัสดุโรงภาษีร้อยชักสาม และการสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติภูเก็ต เพราะบางโครงการคั่งค้างมานานกว่า 18-20 ปี จึงต้องการให้เร่งรัดให้มีความคืบหน้า โดยจะต้องจัดทำแผนและเสนอความคืบหน้าต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการการคลังทุกเดือนและบางโครงการก็อาจจะยกเป็นบทเรียนไปอยู่ในแผนแม่บท
“อย่างพื้นที่สวนผึ้ง ที่มีการบุกรุกที่ราชพัสดุจำนวนมากมาทำเป็นรีสอร์ท ก็ต้องดำเนินการให้เกิดความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรในส่วนที่บุกรุกไปแล้ว อะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามผิด เพราะหน่วยงานราชการที่ครอบครองที่ราชพัสดุหรือเช่าพื้นเช่าไว้ ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปให้เช่าต่ออยู่แล้ว รวมถึงทุกแห่งด้วย เพราะการเช่าที่ราชพัสดุจะต้องเป็นคู่สัญญาจากกรมธนารักษ์เท่านั้น ซึ่งจะต้องเข้าไปทำงานร่วมกับหน่วยงานที่ใช้ที่ราชพัสดุด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการบุกรุกเพิ่มเติม ส่วนการพัฒนาที่หมอชิตน่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนมีนาคมปีหน้า” นายธีระชัยกล่าว
นายธีระชัยกล่าวว่า กรมธนารักษ์มีที่ดินที่อยู่ในความครอบครองถึง 13 ล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีปัญหามาก บางส่วนไม่ได้ใช้ประโยชน์ บางส่วนมีหน่วยงานราชการถือครอง แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ เช่น ทหาร และบางส่วนบุกรุก เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และบางส่วนมีการตกลงในการใช้พื้นที่กับกรมธนารักษ์แล้ว แต่มีปัญหาที่ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามข้อตกลง จึงต้องการให้กรมธนารักษ์จัดทำแผนแม่บทและหารือร่วมกับปลัดกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เพื่อมาดูร่วมกัน คาดว่าต้นเดือนกุมภาพันธ์น่าจะทราบปัญหาและแนวทางแก้ไขได้