ศูนย์ข่าวภูเก็ต-บริษัทที่ปรึกษาสรุปผลการศึกษาออกแบบโครงการพัฒนาเขื่อนบางวาด และเขื่อนบางเหนียวดำ ใช้งบกว่า 350 ล้านบาท พัฒนาเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและเรียนรู้ธรรมชาติ ควบคู่กับการเป็นแหล่งท่องเที่ยว อบจ.รับลูกเตรียมลงนาม MOU กับกรมชลประทานเข้าพัฒนาพื้นที่ในปี 2556 เริ่มต้นเฟสแรกด้วยงบกว่า 100 ล้านบาท
วานนี้ (20ธ.ค.)ที่โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต ร่วมกับ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการออกแบบวางแผนแม่บทพัฒนางานเขื่อนบางวาดและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษาครั้งสุดท้าย โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ซึ่งมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชาชนเข้าร่วม
โครงการออกแบบวางแผนแม่บทพัฒนางานเขื่อนบางวาดและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อบจ.ภูเก็ตได้ว่าจ้างบริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด ศึกษาการพัฒนาเขื่อนบางวาดและเขื่อนบางเหนียวดำให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภูเก็ต เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับการท่องเที่ยว และเป็นการสร้างโครงข่ายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงพื้นที่ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต ภายใต้กรอบการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ
สำหรับผลการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาเขื่อนบางวาด ซึ่งตั้งอยู่อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กำหนดเป็นแหล่งส่งเสริมการพัฒนาเป็นศูนย์นันทนาการและพักผ่อนหย่อนใจควบคู่กับแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และพันธุ์ไม้พื้นถิ่นภาคใต้ โดยมีโครงการพัฒนาแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ประกอบด้วยการก่อสร้างส่วนบริการชุมชน การก่อสร้างจุดพักรอและจุดชมทิวทัศน์ การก่อสร้างลานกีฬาชุมชนและเรือนเพาะชำ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ใช้งบประมาณในการพัฒนารวมทั้งสิ้น 57.85 ล้านบาท ระยะที่ 2 เป็นการก่อสร้างส่วนแสดงพันธุ์ไม้พื้นถิ่น และการก่อสร้างส่วนผจญภัยและสันทนาการเชิงสุขภาพ ใช้งบประมาณในการพัฒนาประมาณ 44.35 ล้านบาท และระยะที่ 3 การก่อสร้างหอประภาคารบริเวณส่วนกิจกรรมผจญภัยและสันทนาการเชิงสุขภาพ และการก่อสร้างส่วนประชุมสัมมนา ใช้งบประมาณในการพัฒนารวมประมาณ 65.16 ล้านบาท
ส่วนการพัฒนาเขื่อนบางเหนียวดำ ซึ่งตั้งอยู่ที่ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผลการศึกษากำหนดให้เป็นการส่งเสริมการพัฒนาเป็นศูนย์กีฬาและนันทนาการระดับอำเภอ โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการก่อสร้างส่วนกีฬาและนันทนาการและส่วนพักผ่อนหย่อนใจ ใช้งบประมาณ 77.46 ล้านบาท ระยะที่ 2 การก่อสร้างส่วนกีฬาและนันทนาการ การก่อสร้างจุดพักรอและจุดชมวิว 3 แห่ง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ใช้งบประมาณดำเนินการ 89.43 ล้านบาท และระยะที่ 3 การก่อสร้างส่วนอเนกประสงค์ของชุมชนและลานแคมปิงใช้งบประมาณ 21.92 ล้านบาท
การพัฒนาเขื่อนบางวาดและเขื่อนบางเหนียวดำนั้นใช้งบประมาณดำเนินการรวมทั้งสิ้น 356.17 ล้านบาท ซึ่งการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทที่ปรึกษาส่งมอบผลการศึกษาให้อบจ.แล้ว อบจ.จะทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับกรมชลประทาน ซึ่งเป็นผู้ใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยมีกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กำหนดแนวทางค่าตอบแทนในการพัฒนาแต่ละเฟส เพราะมีพื้นที่บางส่วนที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งที่สามารถสร้างรายได้ ซึ่งจุดนี้ทางกรมชลประทานจะเป็นผู้ดำเนินการที่เป็นสวัสดิการของกรมชลประทาน
หลังจากนั้นอบจ.จะใช้งบประมาณในปี 2556 พัฒนาเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยรวมก่อน เช่น สวนสาธารณะ สนามกีฬา ลานกิจกรรม ลานวิ่ง ลู่จักรยาน ใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 100 ล้านบาท
ส่วนที่เป็นที่พักและการจัดประชุมสัมมนาและจุดที่จะสามารถสร้างรายได้ อบจ.จะไม่เข้าไปลงทุน จะให้เป็นการลงทุนของทางกรมชลประทานที่เป็นในส่วนของสวัสดิการ เหมือนกับที่ดำเนินการตามเขื่อนต่างๆ
วานนี้ (20ธ.ค.)ที่โรงแรมภูเก็ต เมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ภูเก็ต ร่วมกับ บริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นโครงการออกแบบวางแผนแม่บทพัฒนางานเขื่อนบางวาดและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอผลสรุปการศึกษาครั้งสุดท้าย โดยมีนายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต เป็นประธาน ซึ่งมีหน่วยงานเกี่ยวข้อง ประชาชนเข้าร่วม
โครงการออกแบบวางแผนแม่บทพัฒนางานเขื่อนบางวาดและอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ อบจ.ภูเก็ตได้ว่าจ้างบริษัท พิสุทธิ์ เทคโนโลยี จำกัด ศึกษาการพัฒนาเขื่อนบางวาดและเขื่อนบางเหนียวดำให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของภูเก็ต เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับการท่องเที่ยว และเป็นการสร้างโครงข่ายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงพื้นที่ฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของเกาะภูเก็ต ภายใต้กรอบการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบบบูรณาการ
สำหรับผลการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาเขื่อนบางวาด ซึ่งตั้งอยู่อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต กำหนดเป็นแหล่งส่งเสริมการพัฒนาเป็นศูนย์นันทนาการและพักผ่อนหย่อนใจควบคู่กับแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ และพันธุ์ไม้พื้นถิ่นภาคใต้ โดยมีโครงการพัฒนาแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะที่ 1 ประกอบด้วยการก่อสร้างส่วนบริการชุมชน การก่อสร้างจุดพักรอและจุดชมทิวทัศน์ การก่อสร้างลานกีฬาชุมชนและเรือนเพาะชำ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ใช้งบประมาณในการพัฒนารวมทั้งสิ้น 57.85 ล้านบาท ระยะที่ 2 เป็นการก่อสร้างส่วนแสดงพันธุ์ไม้พื้นถิ่น และการก่อสร้างส่วนผจญภัยและสันทนาการเชิงสุขภาพ ใช้งบประมาณในการพัฒนาประมาณ 44.35 ล้านบาท และระยะที่ 3 การก่อสร้างหอประภาคารบริเวณส่วนกิจกรรมผจญภัยและสันทนาการเชิงสุขภาพ และการก่อสร้างส่วนประชุมสัมมนา ใช้งบประมาณในการพัฒนารวมประมาณ 65.16 ล้านบาท
ส่วนการพัฒนาเขื่อนบางเหนียวดำ ซึ่งตั้งอยู่ที่ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ผลการศึกษากำหนดให้เป็นการส่งเสริมการพัฒนาเป็นศูนย์กีฬาและนันทนาการระดับอำเภอ โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 เป็นการก่อสร้างส่วนกีฬาและนันทนาการและส่วนพักผ่อนหย่อนใจ ใช้งบประมาณ 77.46 ล้านบาท ระยะที่ 2 การก่อสร้างส่วนกีฬาและนันทนาการ การก่อสร้างจุดพักรอและจุดชมวิว 3 แห่ง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ใช้งบประมาณดำเนินการ 89.43 ล้านบาท และระยะที่ 3 การก่อสร้างส่วนอเนกประสงค์ของชุมชนและลานแคมปิงใช้งบประมาณ 21.92 ล้านบาท
การพัฒนาเขื่อนบางวาดและเขื่อนบางเหนียวดำนั้นใช้งบประมาณดำเนินการรวมทั้งสิ้น 356.17 ล้านบาท ซึ่งการศึกษาจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ธ.ค.นี้
นายไพบูลย์ อุปัติศฤงค์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่บริษัทที่ปรึกษาส่งมอบผลการศึกษาให้อบจ.แล้ว อบจ.จะทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับกรมชลประทาน ซึ่งเป็นผู้ใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยมีกรมธนารักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่กำหนดแนวทางค่าตอบแทนในการพัฒนาแต่ละเฟส เพราะมีพื้นที่บางส่วนที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งที่สามารถสร้างรายได้ ซึ่งจุดนี้ทางกรมชลประทานจะเป็นผู้ดำเนินการที่เป็นสวัสดิการของกรมชลประทาน
หลังจากนั้นอบจ.จะใช้งบประมาณในปี 2556 พัฒนาเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยรวมก่อน เช่น สวนสาธารณะ สนามกีฬา ลานกิจกรรม ลานวิ่ง ลู่จักรยาน ใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 100 ล้านบาท
ส่วนที่เป็นที่พักและการจัดประชุมสัมมนาและจุดที่จะสามารถสร้างรายได้ อบจ.จะไม่เข้าไปลงทุน จะให้เป็นการลงทุนของทางกรมชลประทานที่เป็นในส่วนของสวัสดิการ เหมือนกับที่ดำเนินการตามเขื่อนต่างๆ
