กทม.จับมือเครือข่ายฟื้นฟูบ้าน 5 เขต ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม ทวีวัฒนา และ บางแค ประสบอุทกภัยรุนแรง
เบื้องต้นกำหนดให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยรุนแรงในพื้นที่เขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม ทวีวัฒนา และ บางแค เขตละ 100 หลังๆ ละไม่เกิน 20,000 บาท พร้อมตั้งเป้าเป็นต้นแบบความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือพื้นที่อื่นต่อไป
วันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 13.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมหาแนวทางการฟื้นฟูและซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมี ผู้แทนจากบริษัท โอสถสภา จำกัด กองทัพภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษา ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการ กทม.(เสาชิงช้า) กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บริษัท โอสถสภา จำกัด กองทัพภาคที่ 1 และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ด้วยการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนในชุมชนต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจากอุทกภัยในพื้นที่ 5 เขต ได้แก่ ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางแค และ ทวีวัฒนา โดยบริษัท โอสถสภา ได้สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการเขตละ 2 ล้านบาท รวมทั้งหมด 10 ล้านบาท กองทัพบก และสำนักงานอาชีวศึกษาสนับสนุนกำลังคนในการดำเนินการ ตั้งเป้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนได้ 500 หลังคาเรือน ในงบประมาณ 20,000 บาทต่อหลังคาเรือน เช่น ซ่อมแซมประตูและบันได เปลี่ยนหน้าต่าง ทาสีอาคารกับรั้ว ทำความสะอาดบ้านเรือน
ทั้งนี้ เบื้องต้นที่ประชุมเห็นควรให้แต่ละเขตคัดเลือกบ้านเรือนที่เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ อาทิ ประสบอุทกภัยรุนแรง เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ให้ความร่วมมือกับสำนักงานเขตหรือภาครัฐในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ และเป็นแบบอย่างที่ดีในชุมชน ซึ่งถือเป็นรางวัลที่มอบให้สำหรับผู้ที่กระทำความดี
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กับภาคเอกชน และหน่วยงานต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษารับดำเนินการใน 3 เขต ได้แก่ ดอนเมือง สายไหม และ บางแค ส่วนกองทัพภาคที่ 1 ดำเนินการ 2 เขต ได้แก่ หลักสี่ และ ทวีวัฒนา นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนมีส่วนร่วมในการบูรณะฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะในชุมชนของตนเอง เพื่อแสดงออกถึงความสามัคคี ความร่วมมือ และการช่วยเหลือตนเองของชุมชนด้วย โดยจะจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการและลงนาม MOU อย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า
