ASTVผู้จัดการรายวัน-“แกรมมี่” ตัดหางปล่อยวัด “เสก โลโซ” พ้นสภาพการเป็นศิลปินในสังกัด พร้อมสั่งเก็บอัลบั้ม "กริช"งง! ไม่รู้จะถูกแฉแเรื่องอะไร แย้มโอกาสกลับมาร่วมงานมี หากอีกฝ่ายปรับปรุงตัว ตำรวจยันหากยังเสพยาอยู่ เจอดำเนินคดีแน่ ด้าน "สถาลันธัญญารักษ์" ยินดีรับเข้าบำบัดอาการติดยา
กลายเป็นประเด็นร้อนไปแล้ว สำหรับกรณีของนายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” หลังเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เปิดบ้านแถลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ตกเป็นข่าวฉาว โดยมีเนื้อหาบางส่วนพาดพิงไปถึงต้นสังกัดอย่าง “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายส่งคนมาตามประกบ รวมถึงดักฟังโทรศัพท์ พร้อมกับเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตนทำรายได้ให้กับค่ายเพลงค่ายนี้กว่า 1,000 ล้านบาท จึงอยากจะให้ทางแกรมมี่เข้ามาชี้แจงและเจรจาว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร เนื่องจากตนก็เป็นหนี้บุญคุณทางแกรมมี่ที่ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมา เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ตนต้องแฉว่าที่ผ่านมา แกรมมี่ทำอะไรกับตน หรือว่ามีวิธีการทำมาหากินอย่างไรบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดวานนี้ (20 ธ.ค.) นายกริช ทอมมัส กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด ได้ตั้งโต๊ะแถลงโต้กลับที่ตึกแกรมมี่ ชั้น21 โดยประกาศยกเลิกสัญญาการเป็นนักร้องของเสกนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายกริชกล่าวว่า เป็นไปตามกติกา ถ้าเจ้าตัวไม่ยืนยัน ก็ทำอะไรไม่ได้ นี่เจ้าตัวมายืนยันแล้ว ถือว่าจบ ยุติการเป็นศิลปิน ไม่ต้องคุยอะไรกันแล้ว หมดสภาวะศิลปินแกรมมี่ เพลงที่จะเตรียมไว้ก็เก็บ ลิขสิทธิ์เพลงก็ตามที่ตกลง เพราะเสกเป็นทั้งโปรดิวซ์เอง ทำเอง ก็เป็นสิทธิ์ที่เขาสามารถเอาไปร้องได้ ผลงานล่าสุดที่วางไปแล้วก็หยุดโปรโมท ใครเจอก็ช่วยเก็บไว้แล้วกัน เอาไปบริจาค งานที่เตรียมไว้ก็โยนทิ้งเลย ค่าเสียหายก็หลายล้านอยู่
ส่วนกรณีที่แกรมมี่ถูกพาดพิง คงจะไม่มีการฟ้องร้อง และยืนยันว่า ไม่มีการดักฟังโทรศัพท์ และงงมากว่า จะมาแฉแกรมมี่เรื่องอะไร ส่วนโอกาสกลับมาร่วมงานไม่มีแน่นอน หากอีกฝ่ายไม่ปรับปรุงตัว
"เราจะทำไปเพื่ออะไร เราเป็นสื่อบันเทิง ไม่ใช่ราชการลับ ถามว่าจะมีการฟ้องร้องมั้ย เราไม่ได้โกรธนะ เราเห็นใจ ให้เขาปรับปรุงตัว ให้เขาดูแลตัวเองดีกว่า โอกาสกลับมาร่วมงานไม่แน่นอน แต่ถ้าเขาดูแลตัวเองได้ อาจว่ากันอีกที ไม่มีลงดาบจำนวนปี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา ถ้าเขาหายดีแล้ว แล้วยังอยากมีประโยชน์ร่วมกัน ก็อาจกลับมา เราตั้งอยู่บนฐานของเมตตาธรรม เราไม่อยากให้เกิด เกิดแล้วต้องรับผล เขาอยู่กับเรามานาน 15 ปีแล้วนะ”นายกริชกล่าว
นายกริชกล่าวว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะดำเนินการกับเสกก็ไม่เกี่ยวกับแกรมมี่ ที่ชัดเจน คือ เสพไม่เสพ ยืนยันมีหลักฐานก็เลิกกัน แต่ตอนนี้ ก็ยุติวันนี้เลย เพลงของเขาสามารถเอาไปแสดงได้ เสกบอกทำรายได้เยอะ บริษัทเราอยู่มานานก่อนเสก บริษัทเราไม่เคยทวงบุญคุณใครเลย ผลประโยชน์อะไรเราเท่าเทียม เรื่องศัตรูนั่นเป็นสิ่งที่เขาคิด เราไม่ได้ทำ ไม่ว่าง ไม่ซีเรียส มันเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเอง
“เรื่องที่เขาบอกว่าแกรมมี่แฉ งงนะ ดูแกรมมี่น่ากลัวจริงๆ เราอยู่ถูกต้องตามปกติทุกอย่าง หลังจากที่เขาแถลง เราก็คุยกันนิดหน่อย ส่วนผลกระทบกับแกรมมี่ ก็นิดหน่อย ช่างมัน งานคอนเสิร์ตเสกเราก็ยุติ คืนคอนเสิร์ตหมด ยุติแล้ว เรายินดีคืนไม่เอาอะไรแล้ว ส่วนมาตรการกับนักร้องคนอื่น ก็เตือนคนอื่นนะ ต่อไปถ้าใช้ชีวิตแบบนี้ เสียดายนะ แต่เดี๋ยวนี้คงไม่มีแบบนี้หรอก”นายกริชกล่าว
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี นางวิภากรณ์ ศุขพิมาย หรือกานต์ อดีตภรรยาของเสก โลโซ ได้นำภาพถ่ายของเสก โลโซ อดีตสามีและนักร้องชื่อดัง ลักษณะคล้ายกำลังเสพยาเสพติดลงโพสต์ใน “เฟซบุ๊ก” ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วว่า การที่เสก โลโซ ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับยอมรับว่า ได้เสพยาเสพติดจริงนั้น ในส่วนของการดำเนินคดี จะต้องมีการพิสูจน์ให้ได้ชัดเจนก่อนว่า ปัจจุบันยังมีการเสพยาเสพติดอยู่อีกหรือไม่ โดยจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจหาสารเสพติด แต่จะต้องได้รับความยินยอมสมัครใจจากเจ้าตัวด้วย
“หากนักร้องดังได้เลิกเสพยาแล้ว จะถือว่าเป็นผู้ป่วยที่จะต้องเข้าสู่การบำบัดรักษาต่อไป แต่หากยังไม่เลิกจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าตัวต้องการที่จะบำบัด หรือเข้าให้เบาะแสเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ที่เป็นประโยชน์ต่อราชการ ทางตำรวจยินดีที่จะพาตัวไปบำบัด หรือเข้าสู่โครงการต่างๆ ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลแหล่งที่มาของยาเสพติดที่นักร้องคนดังกล่าวได้ไปซื้อมาเสพด้วยว่ามาจากที่ไหน” พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าว
ทางด้านนพ.วิโรจน์ วีรชัย ผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีของเสก โลโซ ว่า สถาบันธัญญารักษ์ พร้อมที่จะรับบุคคลที่มีความประสงค์จะบำบัดทุกคนและทุกประเภทของยาเสพติดทั้งเหล้า ยาบ้า หรือยาไอซ์ โดยบุคคลที่จะเข้ารับการบำบัดจะต้องมีความสมัครใจที่จะเข้ามาบำบัดรักษา เพราะการติดยาเสพติด ทางการแพทย์ถือว่าเป็นอาการทางสมองและจำเป็นต้องปรับพฤติกรรม เพราะบางคนเสพติดมากจนสมองเสื่อมจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา
สำหรับวิธีการบำบัดมี 2 รูปแบบ คือ1.ผู้ป่วยนอกแบบไปกลับสำหรับผู้ที่มีอาการไม่มากหรือเป็นผู้เสพยังไม่ถึงขั้นติดยาเสพติด ในการบำบัดจะใช้โปรแกรมให้คำปรึกษา นัดทำกิจกรรมกลุ่ม เพิ่มทักษะการปฏิเสธยา และใช้ยาช่วยในบางกรณี และ 2.ผู้ป่วยใน สำหรับคนที่มีอาการมาก จนถึงขึ้นติดยาเสพติด ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่สถาบันฯ โดยมากจะเน้นการใช้ชุมชนบำบัด ใช้เวลานานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งที่สถาบันฯจะมีแพทย์เฉพาะทางทั้งอายุรกรรมและจิตแพทย์ให้การรักษาดูแล แบบควบคู่กันเพื่อบำบัดอย่างถูกวิธีและเหมาะสม
"กลุ่มศิลปินจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่า การใช้สารเสพติดจะช่วยเพิ่มความสามารถ ช่วยให้ทำอะไรได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะความจริงสารเสพติดจะกระตุ้นและหลอนประสาทแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่หากศึกษาให้ดีพบว่า ศิลปินที่เสพจะอายุสั้น เพราะยาเสพติดจะทำลายสมอง"นพ.วิโรจน์กล่าว
กลายเป็นประเด็นร้อนไปแล้ว สำหรับกรณีของนายเสกสรร ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” หลังเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าตัวได้เปิดบ้านแถลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ตกเป็นข่าวฉาว โดยมีเนื้อหาบางส่วนพาดพิงไปถึงต้นสังกัดอย่าง “จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่” ว่า รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายส่งคนมาตามประกบ รวมถึงดักฟังโทรศัพท์ พร้อมกับเปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตนทำรายได้ให้กับค่ายเพลงค่ายนี้กว่า 1,000 ล้านบาท จึงอยากจะให้ทางแกรมมี่เข้ามาชี้แจงและเจรจาว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร เนื่องจากตนก็เป็นหนี้บุญคุณทางแกรมมี่ที่ทำให้มีชื่อเสียงขึ้นมา เพราะฉะนั้นอย่าทำให้ตนต้องแฉว่าที่ผ่านมา แกรมมี่ทำอะไรกับตน หรือว่ามีวิธีการทำมาหากินอย่างไรบ้าง
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดวานนี้ (20 ธ.ค.) นายกริช ทอมมัส กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจเพลง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด ได้ตั้งโต๊ะแถลงโต้กลับที่ตึกแกรมมี่ ชั้น21 โดยประกาศยกเลิกสัญญาการเป็นนักร้องของเสกนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายกริชกล่าวว่า เป็นไปตามกติกา ถ้าเจ้าตัวไม่ยืนยัน ก็ทำอะไรไม่ได้ นี่เจ้าตัวมายืนยันแล้ว ถือว่าจบ ยุติการเป็นศิลปิน ไม่ต้องคุยอะไรกันแล้ว หมดสภาวะศิลปินแกรมมี่ เพลงที่จะเตรียมไว้ก็เก็บ ลิขสิทธิ์เพลงก็ตามที่ตกลง เพราะเสกเป็นทั้งโปรดิวซ์เอง ทำเอง ก็เป็นสิทธิ์ที่เขาสามารถเอาไปร้องได้ ผลงานล่าสุดที่วางไปแล้วก็หยุดโปรโมท ใครเจอก็ช่วยเก็บไว้แล้วกัน เอาไปบริจาค งานที่เตรียมไว้ก็โยนทิ้งเลย ค่าเสียหายก็หลายล้านอยู่
ส่วนกรณีที่แกรมมี่ถูกพาดพิง คงจะไม่มีการฟ้องร้อง และยืนยันว่า ไม่มีการดักฟังโทรศัพท์ และงงมากว่า จะมาแฉแกรมมี่เรื่องอะไร ส่วนโอกาสกลับมาร่วมงานไม่มีแน่นอน หากอีกฝ่ายไม่ปรับปรุงตัว
"เราจะทำไปเพื่ออะไร เราเป็นสื่อบันเทิง ไม่ใช่ราชการลับ ถามว่าจะมีการฟ้องร้องมั้ย เราไม่ได้โกรธนะ เราเห็นใจ ให้เขาปรับปรุงตัว ให้เขาดูแลตัวเองดีกว่า โอกาสกลับมาร่วมงานไม่แน่นอน แต่ถ้าเขาดูแลตัวเองได้ อาจว่ากันอีกที ไม่มีลงดาบจำนวนปี ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา ถ้าเขาหายดีแล้ว แล้วยังอยากมีประโยชน์ร่วมกัน ก็อาจกลับมา เราตั้งอยู่บนฐานของเมตตาธรรม เราไม่อยากให้เกิด เกิดแล้วต้องรับผล เขาอยู่กับเรามานาน 15 ปีแล้วนะ”นายกริชกล่าว
นายกริชกล่าวว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) จะดำเนินการกับเสกก็ไม่เกี่ยวกับแกรมมี่ ที่ชัดเจน คือ เสพไม่เสพ ยืนยันมีหลักฐานก็เลิกกัน แต่ตอนนี้ ก็ยุติวันนี้เลย เพลงของเขาสามารถเอาไปแสดงได้ เสกบอกทำรายได้เยอะ บริษัทเราอยู่มานานก่อนเสก บริษัทเราไม่เคยทวงบุญคุณใครเลย ผลประโยชน์อะไรเราเท่าเทียม เรื่องศัตรูนั่นเป็นสิ่งที่เขาคิด เราไม่ได้ทำ ไม่ว่าง ไม่ซีเรียส มันเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเอง
“เรื่องที่เขาบอกว่าแกรมมี่แฉ งงนะ ดูแกรมมี่น่ากลัวจริงๆ เราอยู่ถูกต้องตามปกติทุกอย่าง หลังจากที่เขาแถลง เราก็คุยกันนิดหน่อย ส่วนผลกระทบกับแกรมมี่ ก็นิดหน่อย ช่างมัน งานคอนเสิร์ตเสกเราก็ยุติ คืนคอนเสิร์ตหมด ยุติแล้ว เรายินดีคืนไม่เอาอะไรแล้ว ส่วนมาตรการกับนักร้องคนอื่น ก็เตือนคนอื่นนะ ต่อไปถ้าใช้ชีวิตแบบนี้ เสียดายนะ แต่เดี๋ยวนี้คงไม่มีแบบนี้หรอก”นายกริชกล่าว
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร รองผบช.น.เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี นางวิภากรณ์ ศุขพิมาย หรือกานต์ อดีตภรรยาของเสก โลโซ ได้นำภาพถ่ายของเสก โลโซ อดีตสามีและนักร้องชื่อดัง ลักษณะคล้ายกำลังเสพยาเสพติดลงโพสต์ใน “เฟซบุ๊ก” ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วว่า การที่เสก โลโซ ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับยอมรับว่า ได้เสพยาเสพติดจริงนั้น ในส่วนของการดำเนินคดี จะต้องมีการพิสูจน์ให้ได้ชัดเจนก่อนว่า ปัจจุบันยังมีการเสพยาเสพติดอยู่อีกหรือไม่ โดยจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจหาสารเสพติด แต่จะต้องได้รับความยินยอมสมัครใจจากเจ้าตัวด้วย
“หากนักร้องดังได้เลิกเสพยาแล้ว จะถือว่าเป็นผู้ป่วยที่จะต้องเข้าสู่การบำบัดรักษาต่อไป แต่หากยังไม่เลิกจะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งหากเจ้าตัวต้องการที่จะบำบัด หรือเข้าให้เบาะแสเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด ที่เป็นประโยชน์ต่อราชการ ทางตำรวจยินดีที่จะพาตัวไปบำบัด หรือเข้าสู่โครงการต่างๆ ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม พร้อมทั้งสืบสวนขยายผลแหล่งที่มาของยาเสพติดที่นักร้องคนดังกล่าวได้ไปซื้อมาเสพด้วยว่ามาจากที่ไหน” พล.ต.ต.เอื้อพงศ์กล่าว
ทางด้านนพ.วิโรจน์ วีรชัย ผู้อำนวยการสถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีของเสก โลโซ ว่า สถาบันธัญญารักษ์ พร้อมที่จะรับบุคคลที่มีความประสงค์จะบำบัดทุกคนและทุกประเภทของยาเสพติดทั้งเหล้า ยาบ้า หรือยาไอซ์ โดยบุคคลที่จะเข้ารับการบำบัดจะต้องมีความสมัครใจที่จะเข้ามาบำบัดรักษา เพราะการติดยาเสพติด ทางการแพทย์ถือว่าเป็นอาการทางสมองและจำเป็นต้องปรับพฤติกรรม เพราะบางคนเสพติดมากจนสมองเสื่อมจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา
สำหรับวิธีการบำบัดมี 2 รูปแบบ คือ1.ผู้ป่วยนอกแบบไปกลับสำหรับผู้ที่มีอาการไม่มากหรือเป็นผู้เสพยังไม่ถึงขั้นติดยาเสพติด ในการบำบัดจะใช้โปรแกรมให้คำปรึกษา นัดทำกิจกรรมกลุ่ม เพิ่มทักษะการปฏิเสธยา และใช้ยาช่วยในบางกรณี และ 2.ผู้ป่วยใน สำหรับคนที่มีอาการมาก จนถึงขึ้นติดยาเสพติด ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่สถาบันฯ โดยมากจะเน้นการใช้ชุมชนบำบัด ใช้เวลานานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งที่สถาบันฯจะมีแพทย์เฉพาะทางทั้งอายุรกรรมและจิตแพทย์ให้การรักษาดูแล แบบควบคู่กันเพื่อบำบัดอย่างถูกวิธีและเหมาะสม
"กลุ่มศิลปินจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่า การใช้สารเสพติดจะช่วยเพิ่มความสามารถ ช่วยให้ทำอะไรได้มากขึ้น ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะความจริงสารเสพติดจะกระตุ้นและหลอนประสาทแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น แต่หากศึกษาให้ดีพบว่า ศิลปินที่เสพจะอายุสั้น เพราะยาเสพติดจะทำลายสมอง"นพ.วิโรจน์กล่าว
