ASTVผู้จัดการรายวัน-"ส.ว.สุนันท์" แฉโครงการรับจำนำข้าวภาคอีสาน "สวมสิทธิ์-ทุจริต"อื้อซ่า กดราคา อ้างความชื้น สารพัด ระบุปัญหาเกิดจากเจ้าหน้าที่ขาด-โรงสีไม่พอ เผยชาวนาวอนจำนำโรงสีข้ามจังหวัดได้ ป้องกันการถูกกดราคา ของพ่อค้าคนกลาง
น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบจากนโยบายรับจำนำข้าวเปลือก ในคณะกมธ.เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรรม วุฒิสภา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อศึกษาสภาพข้อเท็จจริง และรับฟังปัญหาการรับจำนำข้าวของเกษตรกร ที่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ อุบลราชธานี พบว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/55 ของจังหวัดในภาคอีสาน มีปัญหาจากการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกแต่ละจังหวัด คือ เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมจากขั้นตอนการวัดค่าความชื้น และคุณภาพข้าว รวมถึงการหักสิ่งเจือปน ทำให้ราคารับจำนำต่ำกว่าที่ควรจะเป็น การออกใบประทวนล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ คณะกรรมการติดตามกำกับดูแลฯไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ให้เกษตรกร สมาชิกสภาเกษตกรไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของอนุ กมธ. ทุกระดับ ทำให้ไม่รับทราบปัญหา และอุปสรรคที่แท้จริง ที่สำคัญพบปัญหาการสวมสิทธิ์ และมีการทุจริตเกิดขึ้น
น.ส.สุนันท์ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอของเกษตรกร เห็นควรให้รัฐบาลจัดหาเครื่องตรวจวัดคุณภาพข้าวที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุม กำกับดูแลของสภาเกษตรกรจังหวัด โดยจัดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของการออกใบประทวนให้เพียงพอ รัฐบาลควรอนุญาตให้เกษตรกร สามารถนำข้าวมาจำนำ ณ โรงสีข้าวข้ามเขตจังหวัดได้เพิ่มมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรมาจำนำในโครงการรัฐบาล เพราะบางพื้นที่มีโรงสีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาเกษตรกต้องนำข้าวไปขายให้กับโรงสีนอกโครงการรับจำนำ จึงถูกกดราคารับซื้อข้าวเปลือก ต่ำกว่าราคาจำนำมาก
" เรื่องนี้ควรให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการทุจริตและดูแลเอาใจใส่โครงการรับจำนำข้าวอย่างเข้มงวดและจริงจังต่อไป” น.ส.สุนันท์ ระบุ
น.ส.สุนันท์ สิงห์สมบุญ ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาผลกระทบจากนโยบายรับจำนำข้าวเปลือก ในคณะกมธ.เศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรรม วุฒิสภา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่เพื่อศึกษาสภาพข้อเท็จจริง และรับฟังปัญหาการรับจำนำข้าวของเกษตรกร ที่ จ.มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และ อุบลราชธานี พบว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/55 ของจังหวัดในภาคอีสาน มีปัญหาจากการเปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกแต่ละจังหวัด คือ เกษตรกรไม่ได้รับความเป็นธรรมจากขั้นตอนการวัดค่าความชื้น และคุณภาพข้าว รวมถึงการหักสิ่งเจือปน ทำให้ราคารับจำนำต่ำกว่าที่ควรจะเป็น การออกใบประทวนล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ คณะกรรมการติดตามกำกับดูแลฯไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ให้เกษตรกร สมาชิกสภาเกษตกรไม่ได้อยู่ในโครงสร้างของอนุ กมธ. ทุกระดับ ทำให้ไม่รับทราบปัญหา และอุปสรรคที่แท้จริง ที่สำคัญพบปัญหาการสวมสิทธิ์ และมีการทุจริตเกิดขึ้น
น.ส.สุนันท์ กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอของเกษตรกร เห็นควรให้รัฐบาลจัดหาเครื่องตรวจวัดคุณภาพข้าวที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุม กำกับดูแลของสภาเกษตรกรจังหวัด โดยจัดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของการออกใบประทวนให้เพียงพอ รัฐบาลควรอนุญาตให้เกษตรกร สามารถนำข้าวมาจำนำ ณ โรงสีข้าวข้ามเขตจังหวัดได้เพิ่มมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรมาจำนำในโครงการรัฐบาล เพราะบางพื้นที่มีโรงสีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาเกษตรกต้องนำข้าวไปขายให้กับโรงสีนอกโครงการรับจำนำ จึงถูกกดราคารับซื้อข้าวเปลือก ต่ำกว่าราคาจำนำมาก
" เรื่องนี้ควรให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการทุจริตและดูแลเอาใจใส่โครงการรับจำนำข้าวอย่างเข้มงวดและจริงจังต่อไป” น.ส.สุนันท์ ระบุ