ASTVผู้จัดการรายวัน-“ ผู้บริหาร” โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ “ม.ล.จันทรจุฑา –ฐิติมา ” เข้ารายงานตัววันนี้ ตามหมายเรียกDSI เหตุ ผู้ถือหุ้นยื่นฟ้อง ฐานบริหารงานผิดพลาด กรณีซื้อวอแรนต์ ยูนิคไมนิ่ง แล้วไม่ใช้สิทธิ์ สูญเงิน 829 ล้านบาท พร้อมทำหนังสือจี้ ก.ล.ต.ปลดเป็นผู้บริหารทั้ง 2 จากขาดคุณสมบัติ
นายสนั่น เยรัมย์ ในฐานะทนายความของนายบรรเจิด สถาวรานนต์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA เปิดเผยว่า นายบรรเจิดได้มอบอำนาจให้ตนยื่นฟ้องผู้บริหาร TTA ในข้อหาบริหารงานผิดพลาด ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย 829 ล้านบาท จากการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอแรนต์)บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS แล้วไม่ใช้สิทธิ์ โดยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเป็นคดีพิเศษ และได้ออกหมายเรียกให้ผู้บริหาร TTA คือ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบัญชีและการเงิน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 20 ธันวาคม
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ยื่นฟ้องผู้บริหาร TTA กรณีที่ซื้อวอร์แรนต์ UMS โดยใช้เงินไปจำนวน 829 ล้านบาท แล้วปล่อยให้วอแรนท์หมดอายุ โดยไม่ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ปล่อยให้วอแรนท์มีค่าเป็น 0 หรือไม่มีมูลค่าเลยทำให้ผู้ถือหุ้นเสียหาย แทนที่จะแปลงสภาพเพื่อให้ได้หุ้นเพิ่มมาอีก 56 ล้านหุ้น หรืออาจจะขายวอแรนท์ออกไปอย่างน้อยก็ได้เงินคืนมา แต่ทางผู้บริหารตอบว่าการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นไม่คุ้ม แต่ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นใช้เงินลงทุนไปกว่า 800 ล้านบาท ควรที่จะมีการดำเนินการอะไรได้บ้างไม่ใช่ปล่อยให้เงินที่ลงทุนไปสูญเปล่า ซึ่ง ดีเอสไอได้ให้รวมสำนวนข้อกล่าวหาผู้บริหารในประเด็นนี้กับคำร้องของผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่นๆที่เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารTTA กับดีเอสไอหลายประเด็น”นายสนั่นกล่าว
นอกจากนี้ตนได้ทำหนังสือไปถึงประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เพื่อให้มีการดำเนินการตามประกาศของ ก.ล.ต.ในการให้ มล.จันทรจุฑาและ นางฐิติมาพ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัท เพราะถือว่าผู้บริหารทั้ง 2 ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน หลังจาก DSI ได้พิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านตนได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการ ก.ล.ต.ในประเด็นนี้แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
นายสนั่นกล่าวว่า ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องการกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ที่ระบุไว้ในข้อ6.1 ผู้บริหารที่มีพฤติกรรมการกระทำหรือละเว้นการกระทำโดยไม่สุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการทำธุรกรรมของบริษัทหรือบริษัทย่อย และเป็นเหตุให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย หรือเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลอื่นได้รับประโยชน์มิชอบ
และข้อ 6.2 มีพฤติกรรมในการเปิดเผย เผยแพร่ข้อมูล หรือข้อความเกี่ยวกับบริษัทหรือบริษัทย่อยอันเป็นเท็จที่อาจทำให้สำคัญผิดหรือ ปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ผุ้ลงทุน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะโดนสั่งการ การมีส่วนรับผิดชอบ หรือ มีส่วนร่วมในการจัดทำ เปิดเผย หรือเผยแพร่ข้อมูลหรือข้อความนั้น หรือโดยการกระทำ ละเว้นการกระทำอื่นใด ทั้งนี้ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าโดยตำแหน่ง ฐานะ หรือหน้าที่ของตน ไม่อาจล่วงรู้ถึงความเป็นเท็จของข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวหรือการขาดข้อเท็จจริงที่ควรต้องแจ้งนั้น
อย่างไรก็ตามจะให้เวลาก.ล.ต.. 7 วัน ในการดำเนินการให้ผู้บริหาร TTA ม.ล..จันทรจุฑา และ นางฐิติมา ้พ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัท และหากก.ล.ต.ยังไม่ดำเนินการใดๆ ตนจะทำหนังสือร้องไปถึงศาลปกครอง เพื่อให้มีคำสั่งให้ก.ล.ต.มีการดำเนินการให้บุคคลทั้ง 2 พ้นจากการเป็นผู้บริหารTTA”นายสนั่น กล่าว
นายสนั่น เยรัมย์ ในฐานะทนายความของนายบรรเจิด สถาวรานนต์ ผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA เปิดเผยว่า นายบรรเจิดได้มอบอำนาจให้ตนยื่นฟ้องผู้บริหาร TTA ในข้อหาบริหารงานผิดพลาด ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย 829 ล้านบาท จากการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอแรนต์)บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS แล้วไม่ใช้สิทธิ์ โดยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับเป็นคดีพิเศษ และได้ออกหมายเรียกให้ผู้บริหาร TTA คือ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบัญชีและการเงิน ให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 20 ธันวาคม
ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ยื่นฟ้องผู้บริหาร TTA กรณีที่ซื้อวอร์แรนต์ UMS โดยใช้เงินไปจำนวน 829 ล้านบาท แล้วปล่อยให้วอแรนท์หมดอายุ โดยไม่ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ ปล่อยให้วอแรนท์มีค่าเป็น 0 หรือไม่มีมูลค่าเลยทำให้ผู้ถือหุ้นเสียหาย แทนที่จะแปลงสภาพเพื่อให้ได้หุ้นเพิ่มมาอีก 56 ล้านหุ้น หรืออาจจะขายวอแรนท์ออกไปอย่างน้อยก็ได้เงินคืนมา แต่ทางผู้บริหารตอบว่าการใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นไม่คุ้ม แต่ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นใช้เงินลงทุนไปกว่า 800 ล้านบาท ควรที่จะมีการดำเนินการอะไรได้บ้างไม่ใช่ปล่อยให้เงินที่ลงทุนไปสูญเปล่า ซึ่ง ดีเอสไอได้ให้รวมสำนวนข้อกล่าวหาผู้บริหารในประเด็นนี้กับคำร้องของผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่นๆที่เข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารTTA กับดีเอสไอหลายประเด็น”นายสนั่นกล่าว
นอกจากนี้ตนได้ทำหนังสือไปถึงประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)เพื่อให้มีการดำเนินการตามประกาศของ ก.ล.ต.ในการให้ มล.จันทรจุฑาและ นางฐิติมาพ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัท เพราะถือว่าผู้บริหารทั้ง 2 ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน หลังจาก DSI ได้พิจารณารับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านตนได้ทำหนังสือไปถึงเลขาธิการ ก.ล.ต.ในประเด็นนี้แล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ
นายสนั่นกล่าวว่า ตามประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรื่องการกำหนดลักษณะขาดความน่าไว้วางใจของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท ที่ระบุไว้ในข้อ6.1 ผู้บริหารที่มีพฤติกรรมการกระทำหรือละเว้นการกระทำโดยไม่สุจริตหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการทำธุรกรรมของบริษัทหรือบริษัทย่อย และเป็นเหตุให้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย หรือเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลอื่นได้รับประโยชน์มิชอบ
และข้อ 6.2 มีพฤติกรรมในการเปิดเผย เผยแพร่ข้อมูล หรือข้อความเกี่ยวกับบริษัทหรือบริษัทย่อยอันเป็นเท็จที่อาจทำให้สำคัญผิดหรือ ปกปิดข้อความจริงที่ควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญ ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น ผุ้ลงทุน หรือผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะโดนสั่งการ การมีส่วนรับผิดชอบ หรือ มีส่วนร่วมในการจัดทำ เปิดเผย หรือเผยแพร่ข้อมูลหรือข้อความนั้น หรือโดยการกระทำ ละเว้นการกระทำอื่นใด ทั้งนี้ เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าโดยตำแหน่ง ฐานะ หรือหน้าที่ของตน ไม่อาจล่วงรู้ถึงความเป็นเท็จของข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวหรือการขาดข้อเท็จจริงที่ควรต้องแจ้งนั้น
อย่างไรก็ตามจะให้เวลาก.ล.ต.. 7 วัน ในการดำเนินการให้ผู้บริหาร TTA ม.ล..จันทรจุฑา และ นางฐิติมา ้พ้นจากการเป็นผู้บริหารบริษัท และหากก.ล.ต.ยังไม่ดำเนินการใดๆ ตนจะทำหนังสือร้องไปถึงศาลปกครอง เพื่อให้มีคำสั่งให้ก.ล.ต.มีการดำเนินการให้บุคคลทั้ง 2 พ้นจากการเป็นผู้บริหารTTA”นายสนั่น กล่าว