ASTV ผู้จัดการรายวัน - "โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ " จ้าง "เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่"เป็นตัวแทนคดีความกับดีเอสไอ หลังโดนผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นฟ้อง บริหารงานผิดพลาด ยืนยันการตัดสินใจลงทุนในแต่ละครั้ง ล้วนแล้วแต่กระทำไปหลังจากผ่านขั้นตอนการวิเคราะห์ตรวจสอบกิจการก่อนเข้าลงทุนโดยละเอียดแล้วเท่านั้น
จากกรณีผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA ยื่นฟ้องผู้บริหารบริษัท ในข้อหาบริหารงานผิดพลาด ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย 829 ล้านบาท จากการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS แล้วไม่ใช้สิทธิ์โดยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ได้มอบหมายให้ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็นตัวแทนของบริษัทในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หลังจากที่บริษัทได้รับหนังสือจาก DSI ให้ผู้บริหารเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายบรรเจิด สถาวรานนท์และพวก วานนี้(20ธ.ค.) และยืนยันว่าบริษัทมีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใสและมีความเป็นมืออาชีพมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ DSI ในการให้ข้อมูลตามที่ DSI ร้องขอ เพื่อปกป้องชื่อเสียงขององค์กร และพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ TTA ระบุว่า การตัดสินใจลงทุนในแต่ละครั้งของบริษัทนั้น ล้วนแล้วแต่กระทำไปหลังจากผ่านขั้นตอนการวิเคราะห์ตรวจสอบกิจการก่อนเข้าลงทุนโดยละเอียดแล้วเท่านั้น ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าว เป็นกระบวนการที่หน่วยงานภายในดำเนินการร่วมกับที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากภายนอกองค์กรที่มีประสบการณ์สูงและเป็นอิสระ ซึ่งฝ่ายบริหารของ TTA ขอยืนยันว่าการตัดสินใจลงทุนที่ทำไปทั้งหมดนั้น จะสามารถสร้างมูลค่าและประโยชน์ตอบแทนให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร TTA รู้สึกผิดหวังในการกระทำของคุณบรรเจิดและพวก และเชื่อว่าบุคคลกลุ่มนี้อาจจะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่ยังไม่ทราบชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงขององค์กรและอาจกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทก่อนที่จะมีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่จะมีขึ้นภายในสิ้นเดือนมกราคม 2555
"ฝ่ายบริหารของ TTA ขอยืนยันอีกครั้งว่าข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำความผิดไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และบริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการทางกฎหมายใดๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ขององค์กร พนักงาน และผู้ถือหุ้นโดยรวม"
จากกรณีผู้ถือหุ้นรายย่อยบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)หรือ TTA ยื่นฟ้องผู้บริหารบริษัท ในข้อหาบริหารงานผิดพลาด ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย 829 ล้านบาท จากการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ(วอร์แรนต์)บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS แล้วไม่ใช้สิทธิ์โดยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ล่าสุดบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA ได้มอบหมายให้ บริษัท เบเคอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ จำกัด เป็นตัวแทนของบริษัทในการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) หลังจากที่บริษัทได้รับหนังสือจาก DSI ให้ผู้บริหารเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายบรรเจิด สถาวรานนท์และพวก วานนี้(20ธ.ค.) และยืนยันว่าบริษัทมีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใสและมีความเป็นมืออาชีพมาโดยตลอด ซึ่งบริษัทยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับ DSI ในการให้ข้อมูลตามที่ DSI ร้องขอ เพื่อปกป้องชื่อเสียงขององค์กร และพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ TTA ระบุว่า การตัดสินใจลงทุนในแต่ละครั้งของบริษัทนั้น ล้วนแล้วแต่กระทำไปหลังจากผ่านขั้นตอนการวิเคราะห์ตรวจสอบกิจการก่อนเข้าลงทุนโดยละเอียดแล้วเท่านั้น ซึ่งการวิเคราะห์ดังกล่าว เป็นกระบวนการที่หน่วยงานภายในดำเนินการร่วมกับที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากภายนอกองค์กรที่มีประสบการณ์สูงและเป็นอิสระ ซึ่งฝ่ายบริหารของ TTA ขอยืนยันว่าการตัดสินใจลงทุนที่ทำไปทั้งหมดนั้น จะสามารถสร้างมูลค่าและประโยชน์ตอบแทนให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว
ขณะเดียวกัน ผู้บริหาร TTA รู้สึกผิดหวังในการกระทำของคุณบรรเจิดและพวก และเชื่อว่าบุคคลกลุ่มนี้อาจจะได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากแหล่งข้อมูลที่ยังไม่ทราบชัดเจนในขณะนี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงขององค์กรและอาจกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทก่อนที่จะมีการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ที่จะมีขึ้นภายในสิ้นเดือนมกราคม 2555
"ฝ่ายบริหารของ TTA ขอยืนยันอีกครั้งว่าข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำความผิดไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และบริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการทางกฎหมายใดๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ขององค์กร พนักงาน และผู้ถือหุ้นโดยรวม"
