วิวาห์หวาน “น้องเอม” “ฮุน มาเนต”ร่วมงาน “แม้ว” อยากอุ้มหลาน ต้องกลับบ้านมา “ติดคุก” !

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สดชื่นสมหวัง ยืนยันการเป็น “ผัว-เมีย” กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่าง “น้องเอม” น.ส.พินทองทา ชินวัตร กับ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ นักธุรกิจหนุ่มด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่คบหาดูใจกันมานาน ในพิธีมงคลสมรส ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ

โดยบรรยากาศภายในงาน เจ้าบ่าวสวมชุดทักซิโดสีดำ ขณะที่น้องเอม สวมชุดเจ้าสาวเกาะอกสีงาช้าง โดยทั้งคู่มีสีหน้าชื่นมื่น จากนั้นน้องเอมได้กล่าวขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชนที่ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงฉลองสมรสครั้งนี้กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พี่ๆ สื่อมวลชนได้ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้อวยพรอะไรบ้าง น้องเองตอบว่า...

“คุณพ่ออวยพรให้รักกัน ความรักคือการเสียสละซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องอุปสรรค คุณพ่อให้ลืมเรื่องอุปสรรคไปได้เลย ไม่มีคำนี้ไว้ให้ใช้ ให้พยายามไปเรื่อยๆ ขณะที่คุณแม่ (คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์) อวยพรว่า ถ้าเมื่อไหร่มีปัญหากัน ให้นึกถึงแต่เรื่องดีๆ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น”

พี่ๆ สื่อมวลชนถามอีกว่า หลังจากแต่งงานผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว ต้องปรับตัวอะไรบ้าง คู่บ่าวสาวกล่าวว่า ชีวิตไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เพราะเราทั้งคู่ดำเนินชีวิตเรียบง่าย และมีความคิดที่คล้ายๆ กัน เมื่อถามว่า วางแผนชีวิตไว้อย่างไรบ้าง จะมีลูกเลยหรือไม่ น้องเอมกล่าวว่า พ่อแม่อยากให้มีเหมือนกัน แต่ขอเวลาอีกสักพักหนึ่ง ขอไปเที่ยวก่อน

เมื่อถามว่า อยากให้คุณพ่อมาร่วมงานไหม น้องเอมบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกสาวคนหนึ่งแต่งงานอยากให้พ่อมาร่วมงาน อีกทั้งเป็นการแต่งงานคนแรกของบ้าน แต่เข้าใจว่ามีปัญหาอะไรๆ อยู่ แต่พ่ออยู่ในใจของเราอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราทั้งคู่ได้เดินทางไปเยี่ยมพ่อหลายครั้งแล้ว และหลังเสร็จงานวางแผนว่าจะเดินทางไปเยี่ยมพ่ออีกครั้ง ส่วนเรื่องฮันนีมูนวางแผนว่าจะไปฮันนีมูนกันที่เกาะมัลดีฟส์ในเร็วๆ นี้

สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ “ณัฐพงศ์” ผู้เป็นเจ้าบ่าวเผยว่า การจัดงานครั้งนี้จัดในรูปแบบสวนโมเดิร์น โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสถานที่เมื่อครั้งที่ตนขอ “น้องเอม” แต่งงานที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เต็มไปด้วยความสวยงามของสวนธรรมชาติ ส่วนของชำร่วยที่เลือกเป็นที่กรองชารูปบ้านนั้น เพราะบ้านสื่อความหมายของครอบครัวที่อบอุ่น และเป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง โดยตลอดการให้สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวมีการหยอกล้อกันอยู่ตลอดเวลา “กุ๊กกิ๊กๆ”

หลังจากนั้น “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี สวมชุดผ้าไหมสีม่วง โดดเด่นเป็นสง่า พร้อมด้วยสามี-นายอนุสรณ์ อมรฉัตร และน้องไปป์- ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย นายพานทองแท้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พี่ชายและน้องสาวมาร่วมถ่ายรูปหมู่กับคู่บ่าวสาว โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น สุขสันต์ และหรรษา

อย่างไรก็ตาม หลังจากทั้งคู่ให้สัมภาษณ์เสร็จแล้ว จึงขอตัวไปต้อนรับแขกที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยงานฉลองมงคลสมรสครั้งนี้มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นประธานในพิธี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น คึกคัก และดูเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาวเป็นยิ่งนัก เพราะมีบุคคลสำคัญในแวดวงการเมืองและแวดวงสังคมมาร่วมงานคับคั่ง ถ้าให้ไล่ชื่อเสียงเรียงนาม เอาแค่เฉพาะวงศาคณาญาติก็คงยาวเป็นหางว่าวแล้ว

เริ่มจาก คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมภริยา นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นายพายัพ ชินวัตร เป็นต้น สำหรับบุคคลสำคัญก็ อาทิ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ “หัวโจกคนเสื้อแดง” พรรคเพื่อไทย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พลังงาน นางกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายบรรหาร ศิลปอาชา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายเสนาะ เทียนทอง นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วมกลุ่ม นปช.

ส่วนกลุ่มบ้านเลขที่ 111 อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีทั้งญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว รวมทั้งเพื่อนสนิท สำหรับญาติของเจ้าบ่าวที่ไปร่วมงาน อาทิ นายวรวิทย์ และนางอัญชี คุณากรวงศ์ บิดาและมารดาของเจ้าบ่าว

แต่ที่งานมงคลสมรสของ “น้องเอม” ผู้เป็นลูกสาวของ “ทักษิณ” เหยียบย่ำหัวใจของคนไทยเป็นที่สุดก็คือ การเชิญ พล.ท.ฮุน มาเนต บุตรชายนายฮุนเซน และพล.อ.เตีย บัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของกัมพูชา มาร่วมงาน ปล่อยให้คนที่สั่งยิงทหารและประชาชนคนไทยจนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก มาเหยียบยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยอย่างหน้าด้าน นี่คือบุคคลผู้ออกคำสั่งฆ่า! โดยครอบครัวชินวัตรหาได้สำเหนียกสักนิดไม่ว่า พวกคนเหล่านี้คือคนที่สั่งยิงปืนใหญ่ถล่มบ้านเรือนประชาชนคนไทยอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต!

ครอบครัวชินวัตร ที่กำลังสดชื่นสมหวังกับลูกสาวที่กำลังมีผัวเป็นของตัวเอง จะรู้บ้างไหมว่า “ฮุน มาเนตและฮุนเซน” พ่อลูกสองคนนี้ได้ฆ่าทหารไทยไปเท่าไหร่ และพวกหัวหงอกหัวดำที่เป็นรัฐบาล รวมถึงท่านนายกฯ คนสวยที่กำลังเดินกรีดกรายเฉิดฉายอยู่ในงานนั้นเล่า ก็ทำเหมือนไม่รู้ ไม่เห็น ไม่สนใจ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้พวกเขมรที่สั่งยิงคนไทย จับคนไทยในดินแดนไทยไปขังคุกในเขมร มาเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ใจกลางเมืองหลวงของประเทศ อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ทิ้งให้ครอบครัวของเหล่าทหารหาญผู้สละชีวิตและเลือดเนื้อ อยู่ในมุมมืดของสังคม พวกคนเหล่านี้กำลังเหยียบย่ำหัวใจคนไทยเพียงเพราะผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ใช่หรือไม่!?

อย่างไรก็ตาม แม้งานนี้ทางเจ้าภาพได้จัดห้องรับรองข้างห้องแกรนด์ฮอลล์ จำนวน 12 โต๊ะไว้รับรอง “กลุ่มคนเสื้อแดง” พร้อมทั้งจัดสมุดอวยพร 3 เล่มไว้ด้านหน้าห้องด้วย โดยเจ้าภาพไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมงาน และบันทึกภาพภายในห้องจัดงาน

แม้ของชำร่วยในงานฉลองมงคลสมรสครั้งนี้ คือ ที่กรองชารูปบ้าน มีความหมายถึงครอบครัวที่อบอุ่น เพราะบ้านคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง ซึ่งจะต่างจากของชำร่วยในงานวันหมั้นคือ ขนมมาการูน ซึ่งมีลักษณะเป็นคู่ เป็นขนมชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศส สื่อถึงความหอมหวาน ขณะที่รูปแบบการจัดงานครั้งนี้คือ สวนแนวตั้ง (Vertical) สีเขียว-ขาว เป็นรูปแบบที่คู่บ่าวสาวชื่นชอบ คู่บ่าวสาวได้ควบคุมการจัดงานด้วยตัวเอง

และแม้ในระหว่างพิธีการบนเวทีนั้น จะมีการเปิดวิดีโอของ “ทักษิณ” ผู้เป็นพ่อ ที่ไม่มีโอกาสมาร่วมงาน โดยบันทึกภาพอวยพรให้คู่บ่าวสาวด้วยหน้าตาที่สดใส และคำกล่าวสั้นๆ ว่า "ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ และให้มีหลานเร็วๆ เพราะอยากอุ้มหลาน"

แม้ครอบครัว “ชินวัตร” จะสุขสมชื่นบานขนาดไหน ก็ขออย่าดูถูกและเหยียบย่ำหัวใจคนไทยไปมากกว่านี้ และด้วยความปรารถนาดีจึงอยากบอกว่า ถ้าทักษิณอยากกลับมา “อุ้มหลาน” ก็ให้กลับมารับโทษและ “ติดคุก” ที่ประเทศไทยให้สาสมกับความผิดที่ได้ทำลงไปเสียก่อน

สุดท้ายขออวยพรให้ “น้องเอม” มีชีวิตคู่ที่มีความสุขและยืนนาน นะจ๊ะ