“พงศ์ “ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ว่าที่ “ราษฎร์บุตรเขย” ของทักษิณ ชินวัตรและพจมาน ดามาพงศ์ รายนี้ เคยติดอันดับ 1 ใน 50 คนของหนุ่มคลีโอ เมื่อปี 2007 ทั้งยังเป็นสถาปนิกและที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ พบรักกับ “เอม” พินทองทา สมัยที่เรียนปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยยอมสลัดนางแบบสาวคนหนึ่งอย่างไม่มีเยื่อใยเพื่อเข้าซบลูกสาวของทักษิณ ล่าสุดบินไป “แฮปปี้เบิร์ธเดย์” ว่าที่พ่อตาพร้อม “เอม” และ อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ถึงเมืองนอก ก่อนที่จะกลับมาเตรียมงานวิวาห์ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
แว่วเสียงระฆังวิวาห์ของ “เอม พินทองทา ชินวัตร” มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา กระแสความสนใจของคนส่วนใหญ่เทไปให้การคัมแบ็กกลับไทยของ “ทักษิณ ชินวัตร” หลายฝ่ายลุ้นว่าเขาจะกลับมาหรือไม่ แต่เรื่องที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือใครกันล่ะที่เป็นเจ้าบ่าวหนุ่มผู้ตกถังข้าวสารรายนั้น เพราะตลอดเวลาที่ลูกสาวลูกชายของทักษิณโผล่หน้าออกสื่อเรียกร้องให้พ่อกลับบ้าน ด้วยข้ออ้างว่าลูกสาวใกล้จะแต่งงานแล้วนั้น ไม่เคยปรากฏความชัดเจนเลยว่าว่าที่สามีของเอมคือใคร?
จนกระทั่งหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดเผยว่าที่เจ้าบ่าวรายนี้ ตัวหนังสือเพียงไม่กี่บรรทัดในคอลัมน์เรียงคนมาเป็นข่าวสเปเชียลของคุณอ้อบอกว่าว่าที่เจ้าบ่าวรายนี้มีชื่อว่า “พงศ์ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” หรือ “ทศพร เดชภิญญา” วัย 32 ปี ดีกรีเป็นถึงไฮโซลูกเจ้าของนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดแห่งตลาดโบ๊เบ๊ เคยได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 50 สุดยอดหนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ที่อ่านนิตยสารคลีโอ (CLEO's 50 Most Eligible Bachelors 2007 ปีเดียวกับเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ, สิงห์ ประชาธิป แห่งวงสควีซแอนิมอล และ อิ๊ก บรรณ บริบูรณ์) ปัจจุบันเขามีอาชีพเป็นสถาปนิกและยังเป็นที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้นยังเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ในชื่อ pearlly.com และเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมสุดหรูสองแห่งคือ D 65 กับ Hive ย่านสุขุมวิทอีกด้วย
หลังจากถูกเปิดตัวในคอลัมน์เรียงคนมาเป็นข่าวสเปเชียล ถัดจากนั้นอีกเพียงแค่วันเดียว ว่าที่ลูกเขยของทักษิณรายนี้ก็ได้รับการเปิดเผยโฉมหน้าและประวัติในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ โดยมีภาพวิดีโอที่เขาเคยให้สัมภาษณ์แบบสั้นๆ ไว้ในการประชาสัมพันธ์ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ของเขามาประกอบ หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีภาพหนุ่มพงศ์กับสาวเอมว่าที่เจ้าสาวถ่ายประกบกับทักษิณที่ต่างแดนออกมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะเมื่อช่วงเย็นของวันอังคารที่ 26 กรกฎาคม “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร” ก็ได้ฤกษ์นำภาพว่าที่พี่เขยกับพี่สาวที่บินไปฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 62 ของทักษิณที่ต่างแดนมาอวดในทวิตเตอร์ของเธอ โดยบรรยายใต้ภาพไว้ว่า “พี่เอมพาพี่พงศ์มาหาพ่อวันเกิดค่ะ happy birthday daddy ”
ว่าที่ราษฎร์บุตรเขยรายนี้ศึกษาจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา และมาศึกษาต่อด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่นี่เองที่ทำให้หนุ่มพงศ์ปิ๊งรักกับสาวเอมซึ่งศึกษาหลักสูตรเดียวกัน ผ่านการแนะนำจากเพื่อนร่วมชั้น หลังจากสนทนาพูดคุยและเกิดอาการสปาร์กรักกันเป็นที่เรียบร้อยทั้งสองก็คบหาดูใจในฐานะคนรู้ใจมาพักใหญ่ ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในช่วงปลายปีนี้
เป็นที่รู้กันดีว่าทั้งคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์และทักษิณ ชินวัตรต่างก็ห่วงและหวงลูกสาวมากเอาการ ฉะนั้นกว่าที่หนุ่มพงศ์จะฝ่าด่านอรหันต์จนคุณแม่กับคุณพ่อเซย์เยสได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เวลาหลายปีทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย โผล่หน้าโผล่ตามาให้เห็นจนกระทั่งแม่พจมานอนุมัติให้แต่งได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีข้อแม้ว่าต้องเป็นการแต่งเข้าเท่านั้น ห้ามแต่งออกโดยเด็ดขาด ซึ่งธรรมเนียมการแต่งเข้าเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับครอบครัวฝ่ายชายซึ่งเป็นคนจีน แต่เมื่อกดเครื่องคิดเลขหักลบกลบหนี้สะระตะเรียบร้อยแล้วเห็นว่าเศรษฐีร้อยล้านจากบ้านคุณากรวงศ์เมื่อต้องไปดองกับมหาเศรษฐีระดับหมื่นล้านอย่างไรก็คุ้ม อาป๊าอาม้าของหนุ่มพงศ์จึงพยักหน้าตกลงว่าจะให้ลูกชายคนนี้ย้ายเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลชินวัตร
วันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา วอยซ์ทีวีได้ไปสัมภาษณ์ทักษิณเกี่ยวกับเรื่องว่าที่ลูกเขยรายนี้ ซึ่งทักษิณเองก็เปิดใจว่าเขาไม่ค่อยได้พบหน้าและสนิทสนมกับหนุ่มพงศ์เท่าไรนัก เนื่องจากช่วงที่เอมกับพงศ์คบหากันเป็นช่วงที่เขาตระเวนร่อนเร่อยู่ต่างแดน แต่กระนั้นเอมก็เคยพาพงศ์มาไหว้เขาแล้ว ซึ่งตัวเขาเองที่บอกว่า “ดูโหงวเฮ้งคนเป็น” ก็ยืนยันว่าหนุ่มพงศ์ผ่านรอบออดิชันการดูตัวจากเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผมดูโหงวเฮ้งแล้วเห็นว่าเขาเป็นคนที่มีจิตใจดี และเห็นว่าทั้งคู่รักกันดีนะ” ทักษิณพูดไว้เช่นนั้น
ทักษิณบอกว่าเขาได้พูดกับว่าที่ลูกเขยคนแรกของเขาเอาไว้ว่า “แม้ว่าพ่อกับลูกเขยยังไม่ได้ใกล้ชิดกันมาก แต่บอกได้คำเดียวว่า พ่อเป็นคนที่รักลูกมาก หากอยากให้พ่อรักก็ต้องรักลูกเอมของพ่อให้มากๆ แล้วพ่อก็จะรักลูกเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อเลย นี่เป็นหลักการ”
นอกจากนั้นทักษิณยังแสดงออกอย่างนอกหน้าว่าเขาต้องการจะอุ้มหลาน เพราะว่าตัวเองแก่แล้วก็อยากจะเลี้ยงหลาน อยากตามใจหลานตามประสาคนแก่คนหนึ่ง
ดูเหมือนว่าทักษิณและคุณหญิงพจมานรวมไปถึงบรรดาพี่น้องของเอมจะตื่นเต้นดีใจกับการแต่งงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งจนถึงวินาทีนี้ก็ยังไม่มีคำตอบว่าทักษิณจะขอประเดิมใช้สิทธิจากรัฐบาลชุดใหม่เพื่อกลับมาร่วมงานแต่งงานลูกสาวของตัวเองหรือไม่ ซึ่งตัวเขาเองก็ตอบแบบหยั่งเชิงเอาไว้ว่างานแต่งงานของลูกสาวคนเป็นพ่อก็ต้องอยากไปร่วม แต่เขาก็บอกว่าได้คุยกับลูกแล้วว่าถ้าไม่สามารถกลับไปร่วมงานนี้ได้ ก็ให้จัดงานไป เมื่อเสร็จงานค่อยพาลูกเขยมาไหว้พ่อก็ได้
ถึงตอนนี้สปอตไลต์ย่อมจะต้องฉายไปที่หนุ่มพงศ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเขาได้ชื่อว่าเป็นลูกเขยคนแรกของทักษิณ เป็นหนุ่มที่บางคนบอกว่าโชคดีที่ได้ตกถังข้าวสาร แต่บางคนบอกว่าโชคร้ายที่ต้องไปเกี่ยวดองกับตระกูลนี้ ถึงอย่างไรข้อมูลของเขาก็ยังเป็นของหายาก มีเพียงประวัติส่วนตัวอันน้อยนิดที่เล็ดหลุดมาในคอลัมน์ดังกล่าวกับปริศนาบอกใบ้ที่ว่า “พงศ์เคยคบหาดูใจกับนางแบบสาวในวงการคนหนึ่ง แต่ก็สลัดออกไปจนหมดสิ้นเมื่อมาพบรักกับสาวเอม”
ค้นไปค้นมาจึงได้ทราบว่า อดีตแฟนสาวคนในวงการบันเทิงของหนุ่มพงศ์ไม่ใช่นางแบบโดยอาชีพ แต่ทว่าเป็นคนบันเทิงที่ทำงานพิธีกรต่างหาก
ที่สำคัญเป็นพิธีกรสาวมากความสามารถที่เพิ่งจะสละโสดกับหนุ่มนักการเมืองขั้วตรงข้ามกับพรรคของคุณพ่อสาวเอมไปไม่นาน งานนี้แหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าทั้งสองคบหากันได้อย่างไร และคบหาดูใจกันนานขนาดไหนก่อนที่ฝ่ายชายจะมาพบรักกับสาวเอม
ตัวตนของหนุ่มพงศ์สะท้อนออกมาจากคำตอบที่เขามีให้แก่นิตยสารคลีโอเมื่อครั้งที่เขาถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 50 หนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่หนุ่มทั้ง 50 คนจะต้องตอบคำถามสั้นๆ เพื่อให้คนได้รู้จักตัวตนมากขึ้น
อีกไม่กี่เดือนหนุ่มคนนี้จะสละตำแหน่งหนุ่มโสดในฝันของสาวๆ ไปเป็นส่วนหนึ่งของบ้านชินวัตรอย่างเต็มตัวแล้ว เป็นเอกสิทธิ์ของ “เอม” พินทองทา ชินวัตร แต่เพียงผู้เดียว
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ (พงศ์)
ราศี พฤษภ
การศึกษา จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา, ปริญญาโท ด้านอสังหาริมทรัพย์ สถาบันบัณฑิต บริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
บางคำถามกับ CLEO's 50 Most Eligible Bachelors 2007
คุณจริงจังกับเธอคนนั้นเมื่อ... เริ่มวางแผนอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้า
คุณมั่นใจว่าเธอมีใจเมื่อ... เริ่มโทร. หามากขึ้น เวลาคุยกันจะรู้สึกบางอย่างได้ครับ
ระหว่างผู้ชายน่ารัก หล่อ เร้าใจ อยากเป็น... ผู้ชายน่ารัก อยู่ด้วยแล้วน่าจะมีความสุข
อะไรทำให้อยากมีชีวิตอยู่ในทุกวัน... อาหารอร่อยๆ ที่ท่องเที่ยวสวยๆ และเพลงดีๆ
คุณสนใจผู้หญิงคนนั้นเมื่อ... เป็นตัวของตัวเอง และวิ่งตามความฝันของเธอ
สิ่งบ้าที่สุดที่เคยทำ... ไปห้องฉุกเฉินเพราะเจ็บคอ และโดนชาร์จไป 400 เหรียญ
คนจะชอบคุณเพราะ... ใจดี ยิ้มง่ายครับ
สิ่งที่คุณไม่ชอบในตัวเอง... หลับแล้วหลับยาว
ผู้หญิงแบบทนอยู่นานไม่ได้...ผู้หญิงเจ้าชู้
ให้เลือกเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์... จิน โทนิค เพราะไม่อร่อยเกินไป ดื่มได้นาน ค่อยๆจิบ
หนังประทับใจที่สุด... 2046 ภาพสวยครับ เหงาๆ แบบเท่ๆ ดี
ธุรกิจปัจจุบัน เสื้อผ้าส่งออก และขายเสื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ชื่อ Pearlly.com และดี'65 คอนโดมิเนียม (สุขุมวิท 65) และ คอนโด Hive 65 สุขุมวิท
ดี'65 คอนโดมิเนียม (สุขุมวิท 65)
D65 Condominium (Sukhumvit 65)คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น บน2 ไร่ 2 งาน 60 ตร.ว.ในซอยสุขุมวิท 65 ของณุศาศิริ พบกับนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง บนสุขุมวิท 65 (Sukhumvit 65) ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย ประมาณ 1 กิโลเมตร ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.69 ล้านบาท (49,000 บาท/ตร.ม.)เจ้าของโครงการคือ บริษัท ดีเวลดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด การออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ Minimaist ซึ่งเน้นรูปลักษณ์ภายนอกและสีสัน นิ่ง สุขุม แต่แฝงไปด้วยความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นเอกลักษณ์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Balance” ซึ่งผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างไลฟ์สไตล์สุขุมวิท และความสงบส่วนตัวอันสะท้อนถึงรสนิยมมีระดับในแบบฉบับ ที่เป็นตัวของตัวเอง
คอนโด Hive 65 สุขุมวิท
“Hive”เป็นคอนโดมิเนียม สูง 31 ชั้น จำนวน 363 ประกอบด้วย ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40-49 ตร.ม. ประเภท 2 ห้องนอน ขนาด 67-69 ตร.ม. และประเภท 3 ห้องนอน ขนาด 99 ตร.ม. ยูนิต ต่อเติมเคาน์เตอร์ครัว บิลท์อิน ห้องหันหน้าเข้า ถ.สุขุมวิท วิวสระว่ายน้ำ ใกล้ BTSราคาเริ่มต้นที่ตารางเมตรละ 80,000 บาท มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เน้นกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ที่มีรายได้ระดับกลาง-บน การออกแบบที่หรูหราในราคาระดับปานกลาง ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์“Simply Sansiri”
......................................
ที่มา นิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 95 วันที่ 30 กรกฎาคม - 5 สิงหาคม 2554