ASTVผู้จัดการรายวัน – “กลุ่มวิทูรธนากร” เดินหน้าขายคอนโดฯต่อหลังสร้างปัญหาความสูงคอนโดฯเดอะกรีน ไนน์จบยันผ่านกม.ทุกบับ หลังทุบเหลือ 7 ชั้น ส่งผลห้องชุดลดเหลือ 1,304 ยูนิต พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “คลาสเซ่ อาซีเอ พระราม 9” รับประกันคอนโดฯพร้อมอยู่ พร้อมโอนทุกยูนิต ราคาโปรโมชั่น 9.9 แสนบาท
นายธนกร ทองเจริญ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท วิทูรธนากร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการคลาสเซ่ อาร์ซีเอ พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น จำนวน 8 อาคาร และอาคารสำนักงานอีก 1 อาคาร ขนาดห้องชุดตั้งแต่ 25-76 ตร.ม. จำนวน 1,304 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 18 ไร่ ราคาขายเริ่มต้น 1.3-4.5 ล้านบาท ในช่วงโปรโมชันเริ่มต้นที่ 9.9 แสนบาท หรือราคาเริ่มต้น 38,500 – 63,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท
ในส่วนของงานก่อสร้างในเฟสแรก จำนวน 4 อาคาร 630 ยูนิต ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมตกแต่ง โดยลูกค้าที่เข้ามาซื้อสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เป็นโครงการเดิมของบริษัทที่พัฒนาภายใต้ชื่อ “เดอะกรีนไนน์ พระราม 9” เมื่อปี 2548 กำหนดการก่อสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 8 อาคาร 1,550 ยูนิต และก่อสร้างเฟสแรกเสร็จในปี 2552 โดยขณะนั้นมียอดขายในเฟสแรกแล้ว 50% แต่เนื่องจากประสบปัญหาด้านข้อกฎหมายควบคุมอาคาร ที่มีความสูงเกินกว่า 23 เมตร ทำให้ไม่สามารถโอนห้องชุดได้ บริษัทจึงได้การคืนเงินดาวน์ให้แก่ลูกค้าบางส่วนและยังมีลูกค้าประมาณ 30% ของยอดที่ขายได้ยืนยันที่จะรอจนกว่าบริษัทจะแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จและโอนห้องชุดได้
สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาในขณะนั้นมี 2 วิธี คือ การถมดินให้สูงขึ้นเพื่อให้ความสูงของอาคารลดลง แต่วิธีนี้จะทำให้ความสวยงามของอาคารลดลง ส่วนอีกวิธี คือ การทุบชั้นบนสุดคือ ชั้น 8 ทิ้งและปรับทัศนียภาพของชั้นบนสุดใหม่ พร้อมคืนเงินให้แก่ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในชั้น 8
“ปัจจุบันโครงการได้รับใบอนุญาตครบทุกใบแล้ว ทั้งใบอนุญาตก่อสร้าง รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ซึ่งลูกค้าที่ซื้อห้องชุดจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทันที ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นหากคิดเป็นค่าก่อสร้างทุบทิ้งทำใหม่เพียง 10-20 ล้านบาท แต่หากคิดเป็นค่าเสียโอกาสทางธุรกิจถือว่ามากเป็น 100 ล้านบาท เราเริ่มทำตลาดก่อนเค้า แต่กลับขายได้ทีหลังเค้า” นายธนกรกล่าว
ด้านนายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารงานด้านการขายและการตลาดของโครงการ เปิดเผยว่า บนถนนรัชดาต่อเนื่องไปจนถึงอโศกนับเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก ทั้งอาคารสำนักงาน สถานบันเทิง อีกทั้งยังเชื่อต่อด้วยรถไฟใต้ดิน MRT รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ล่าสุดเซ็นทรัล พระราม 9 ได้เปิดให้บริการในวันนี้ (14 ธค.54) ซึ่งทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
ด้วยศักยภาพของทำเล ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากกลุ่มพนักงานที่ทำงานในย่านนี้ และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชีย เนื่องจากราคาถูกเมื่อเทียบกับในย่าน CBD ทำให้มีสินค้าเหลืออยู่ในตลาดไม่มาก แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้ประกอบการเข้ามาในทำเลนี้จำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงที่น้ำท่วมมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาขอเช่าห้องจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคอนโดฯที่สร้างเสร็จ โดยในจำนวนดังกล่าวมีถึง 30% ที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ส่วนอีก 70% เนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอจึงขอเช่าชั่วคราวเท่านั้น ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดขายแล้ว 30% และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขายอาคาร A3 จำนวน 166 ยูนิตแบบยกอาคารให้แก่นักลงทุน ในราคา 220 ล้านบาท เพื่อนำไปปล่อยเช่า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1 ปี 55 ปัจจุบันค่าเช่าสูงสุดที่11,000 บาท/เดือน/ห้อง หรือมีผลตอบแทนประมาณ 10%โดยผู้ซื้อจะสามารถคืนทุนใน 7 ปีครึ่ง
สำหรับโปรโมชันพิเศษสุด เมื่อจองห้องชุดในโครงการเพียง 10% ของราคาขายสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 3 รายการ ได้แก่ ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าสาธารณูปโภค 1 ปี, กองทุนนิติบุคคล นอกจากนี้ ยังได้รับฟรี เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ พิเศษสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพียงนำเอกสารมายืนยัน จะได้รับส่วนลดสูงสุด 10 เท่า จากเงินชดเชยครอบครัวละ 5,000 บาท ที่รัฐบาลจ่ายให้หรือประมาณ 50,000 บาท (ตามเงื่อนไขของบริษัท) เมื่อซื้อคอนโด Classe’ ราคาเริ่มที่ 1 ล้านบาทขึ้นไปโดยมีห้องขนาดตั้งแต่ 25 - 76 ตรม. ตกแต่งพร้อมอยู่ ครัวบิวล์อิน
นายธนากร กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ บริษัทจะต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องมียอดขายในเฟสแรกไม่น้อยกว่า 60% จึงจะสร้างเฟสที่สอง และหากโครงการนี้มียอดขายเกินกว่า 60% ก็จะลงทุนโครงการใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินสะสมในทำเลที่มีศักยภาพทั้ง รัชดา พหลโยธิน จำนวน 3-4 แปลง ส่วนโรงแรมนั้นปัจจุบันมี 3 แห่ง ได้แก่ โกลเด้นท์ทิวลิป ซอฟเฟอริน (เรดิสันเก่า) แกรนด์ แปซิฟิก ชะอำ ซึ่งตลาดในกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูงมากทั้งจากโรงแรมด้วยกันและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ แต่หากเป็นกลุ่มโรงแรมระดับ 3 ดาว ในเขตรอบนอกเมืองหรือปริมณฑล ราคาห้องพัก 1,000-1,500 บาท/คืน ยังมีความต้องการสูงมาก ทำให้ทางกลุ่มมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในอีก 2 ปี ข้างหน้า
นายธนกร ทองเจริญ ผู้อำนวยการโครงการ บริษัท วิทูรธนากร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการคลาสเซ่ อาร์ซีเอ พระราม 9 ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น จำนวน 8 อาคาร และอาคารสำนักงานอีก 1 อาคาร ขนาดห้องชุดตั้งแต่ 25-76 ตร.ม. จำนวน 1,304 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 18 ไร่ ราคาขายเริ่มต้น 1.3-4.5 ล้านบาท ในช่วงโปรโมชันเริ่มต้นที่ 9.9 แสนบาท หรือราคาเริ่มต้น 38,500 – 63,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท
ในส่วนของงานก่อสร้างในเฟสแรก จำนวน 4 อาคาร 630 ยูนิต ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมตกแต่ง โดยลูกค้าที่เข้ามาซื้อสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว เป็นโครงการเดิมของบริษัทที่พัฒนาภายใต้ชื่อ “เดอะกรีนไนน์ พระราม 9” เมื่อปี 2548 กำหนดการก่อสร้างเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 8 อาคาร 1,550 ยูนิต และก่อสร้างเฟสแรกเสร็จในปี 2552 โดยขณะนั้นมียอดขายในเฟสแรกแล้ว 50% แต่เนื่องจากประสบปัญหาด้านข้อกฎหมายควบคุมอาคาร ที่มีความสูงเกินกว่า 23 เมตร ทำให้ไม่สามารถโอนห้องชุดได้ บริษัทจึงได้การคืนเงินดาวน์ให้แก่ลูกค้าบางส่วนและยังมีลูกค้าประมาณ 30% ของยอดที่ขายได้ยืนยันที่จะรอจนกว่าบริษัทจะแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จและโอนห้องชุดได้
สำหรับแนวทางในการแก้ไขปัญหาในขณะนั้นมี 2 วิธี คือ การถมดินให้สูงขึ้นเพื่อให้ความสูงของอาคารลดลง แต่วิธีนี้จะทำให้ความสวยงามของอาคารลดลง ส่วนอีกวิธี คือ การทุบชั้นบนสุดคือ ชั้น 8 ทิ้งและปรับทัศนียภาพของชั้นบนสุดใหม่ พร้อมคืนเงินให้แก่ลูกค้าที่ซื้อห้องชุดในชั้น 8
“ปัจจุบันโครงการได้รับใบอนุญาตครบทุกใบแล้ว ทั้งใบอนุญาตก่อสร้าง รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว ซึ่งลูกค้าที่ซื้อห้องชุดจะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทันที ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นหากคิดเป็นค่าก่อสร้างทุบทิ้งทำใหม่เพียง 10-20 ล้านบาท แต่หากคิดเป็นค่าเสียโอกาสทางธุรกิจถือว่ามากเป็น 100 ล้านบาท เราเริ่มทำตลาดก่อนเค้า แต่กลับขายได้ทีหลังเค้า” นายธนกรกล่าว
ด้านนายวิศิษฐ์ คุณาทรกุล ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เรียลตี้ เวิลด์ อัลไลแอนซ์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารงานด้านการขายและการตลาดของโครงการ เปิดเผยว่า บนถนนรัชดาต่อเนื่องไปจนถึงอโศกนับเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก ทั้งอาคารสำนักงาน สถานบันเทิง อีกทั้งยังเชื่อต่อด้วยรถไฟใต้ดิน MRT รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ล่าสุดเซ็นทรัล พระราม 9 ได้เปิดให้บริการในวันนี้ (14 ธค.54) ซึ่งทำให้ย่านนี้มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น
ด้วยศักยภาพของทำเล ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านนี้มีเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากกลุ่มพนักงานที่ทำงานในย่านนี้ และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเอเชีย เนื่องจากราคาถูกเมื่อเทียบกับในย่าน CBD ทำให้มีสินค้าเหลืออยู่ในตลาดไม่มาก แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะมีผู้ประกอบการเข้ามาในทำเลนี้จำนวนมาก
นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงที่น้ำท่วมมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาขอเช่าห้องจำนวนมาก เนื่องจากเป็นคอนโดฯที่สร้างเสร็จ โดยในจำนวนดังกล่าวมีถึง 30% ที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่สอง ส่วนอีก 70% เนื่องจากไม่มีงบประมาณเพียงพอจึงขอเช่าชั่วคราวเท่านั้น ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดขายแล้ว 30% และขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาขายอาคาร A3 จำนวน 166 ยูนิตแบบยกอาคารให้แก่นักลงทุน ในราคา 220 ล้านบาท เพื่อนำไปปล่อยเช่า ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 1 ปี 55 ปัจจุบันค่าเช่าสูงสุดที่11,000 บาท/เดือน/ห้อง หรือมีผลตอบแทนประมาณ 10%โดยผู้ซื้อจะสามารถคืนทุนใน 7 ปีครึ่ง
สำหรับโปรโมชันพิเศษสุด เมื่อจองห้องชุดในโครงการเพียง 10% ของราคาขายสามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้ทันที ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน 3 รายการ ได้แก่ ค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าสาธารณูปโภค 1 ปี, กองทุนนิติบุคคล นอกจากนี้ ยังได้รับฟรี เฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ พิเศษสำหรับผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพียงนำเอกสารมายืนยัน จะได้รับส่วนลดสูงสุด 10 เท่า จากเงินชดเชยครอบครัวละ 5,000 บาท ที่รัฐบาลจ่ายให้หรือประมาณ 50,000 บาท (ตามเงื่อนไขของบริษัท) เมื่อซื้อคอนโด Classe’ ราคาเริ่มที่ 1 ล้านบาทขึ้นไปโดยมีห้องขนาดตั้งแต่ 25 - 76 ตรม. ตกแต่งพร้อมอยู่ ครัวบิวล์อิน
นายธนากร กล่าวต่อว่า สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ บริษัทจะต้องมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องมียอดขายในเฟสแรกไม่น้อยกว่า 60% จึงจะสร้างเฟสที่สอง และหากโครงการนี้มียอดขายเกินกว่า 60% ก็จะลงทุนโครงการใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินสะสมในทำเลที่มีศักยภาพทั้ง รัชดา พหลโยธิน จำนวน 3-4 แปลง ส่วนโรงแรมนั้นปัจจุบันมี 3 แห่ง ได้แก่ โกลเด้นท์ทิวลิป ซอฟเฟอริน (เรดิสันเก่า) แกรนด์ แปซิฟิก ชะอำ ซึ่งตลาดในกลุ่มนี้มีการแข่งขันสูงมากทั้งจากโรงแรมด้วยกันและเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ แต่หากเป็นกลุ่มโรงแรมระดับ 3 ดาว ในเขตรอบนอกเมืองหรือปริมณฑล ราคาห้องพัก 1,000-1,500 บาท/คืน ยังมีความต้องการสูงมาก ทำให้ทางกลุ่มมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มในอีก 2 ปี ข้างหน้า