นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันภาวะผู้นำการเป็นนายกฯ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเป็นผู้มีอำนาจ แต่เพียงผู้เดียวในการปรับครม. ของรัฐบาลนี้ว่า เป็นการออกมาโฆษณาชวนเชื่อให้สังคมเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มีอำนาจใดๆ ในการจัดตั้งครม.ชุดนี้ รวมถึงการปรับครม. ที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่ยืนยันข้อเท็จจริงนี้คือ แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางไปสิงคโปร์ เพื่อพบนายใหญ่ชนิดหัวบันไดโรงแรมไม่แห้ง โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด และยิ่งตอกย้ำข้อเท็จจริงที่คนของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมายอมรับข้อเท็จจริง คือ กรณีนายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่เปิดเผยผ่านสื่อเองว่า อำนาจที่แท้จริงของรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย แต่เป็นอำนาจที่สั่งการมาจากนอกประเทศ จึงทำให้รัฐมนตรีหลายคนของรัฐบาลชุดนี้รู้สึกอึดอัดในการทำงาน เพราะไม่สามารถบริหารงานตามนโยบายของเจ้ากระทรวงนั้นๆได้ แต่ต้องฟังคำสั่งจากนายใหญ่ ซ้ายหัน ขวาหัน ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง คนในพรรคเพื่อไทย คงจะไม่ออกมาเปิดโปง จึงเข้าใจว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลายคนคงจะเหลืออดต่อพฤติกรรมการการล้วงลูก และบงการของนายใหญ่ และเครือข่ายคนใกล้ชิด โดยมุ่งเอาแต่คนของตัวเอง เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ จึงทำให้เกิด เข้าตำรา ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร มากกว่าที่จะวัดฝีมือ และผลงาน
นายเทพไท ยังเรียกร้องให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วนหยุดปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อกรณีสภาวะผู้นำ เพราะคนทั้งประเทศรู้เห็นข้อเท็จจริงแล้ว จะปิดอย่างไรก็ไม่มิด จึงไม่จำเป็นต้องออกมาพ่นน้ำลายให้เหม็นขี้ฟัน
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส. หรือ อดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า การวิพากษวิจารณ์ของนักการเมืองบางกลุ่ม บางคน ถึงการทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ว่ามีการกำกับอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่เต็มที่นั้น เป็นเพียงการจินตนาการ และคิดกันไปเอง เพราะการบริหารราชการแผ่นดินนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ก็มาจากการเลือกตั้ง โดยเป็นบุคคลจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ตนจึงขอยืนยันว่า ไม่มีผู้ใดสั่งการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนอยากเรียกร้องให้ผู้ที่ออกมาวิพากษวิจารณ์ หยุดดำเนินการดังกล่าว เป็นการทำเช่นนี้ก่อให้เกิดความเสียหาย และจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และเกิดความเชื่อมั่นในรัฐบาลลดน้อยลงไป การวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อใคร ทางที่ดีแล้วควรที่จะเปิดโอกาสให้แก่รัฐบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะในวันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้บริหารงานมาอย่างถูกทางแล้ว โดยจะเห็นได้จากการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา ส่วนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของนายกฯ เป็นหลัก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยภายหลังการประชุมถึงการรวบรวมผลงานของรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุมครม. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. ได้มีการทวงถามเรื่องผลงานของรัฐมนตรี 3 เดือนที่ผ่านมา โดยได้ย้ำให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้ส่งผลงานมา ให้รีบส่งมาด่วน และส่งไฟล์ผลงานมาด้วย ไม่ให้ส่งมาเป็นเล่มเพียงอย่างเดียว เพื่อที่จะได้เก็บรวบรวมผลงานได้ง่ายขึ้น
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบผู้สื่อข่าวที่ถามเรื่องปรับครม.จะมีขึ้นในเดือนมกราคมนี้หรือไม่ว่า " เอาไว้ก่อนค่ะ "
นายเทพไท ยังเรียกร้องให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วนหยุดปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อกรณีสภาวะผู้นำ เพราะคนทั้งประเทศรู้เห็นข้อเท็จจริงแล้ว จะปิดอย่างไรก็ไม่มิด จึงไม่จำเป็นต้องออกมาพ่นน้ำลายให้เหม็นขี้ฟัน
ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มี ส.ส. หรือ อดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า การวิพากษวิจารณ์ของนักการเมืองบางกลุ่ม บางคน ถึงการทำหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ว่ามีการกำกับอยู่เบื้องหลัง จึงทำให้ทำหน้าที่ได้อย่างไม่เต็มที่นั้น เป็นเพียงการจินตนาการ และคิดกันไปเอง เพราะการบริหารราชการแผ่นดินนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุด และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ก็มาจากการเลือกตั้ง โดยเป็นบุคคลจากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ตนจึงขอยืนยันว่า ไม่มีผู้ใดสั่งการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า ตนอยากเรียกร้องให้ผู้ที่ออกมาวิพากษวิจารณ์ หยุดดำเนินการดังกล่าว เป็นการทำเช่นนี้ก่อให้เกิดความเสียหาย และจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และเกิดความเชื่อมั่นในรัฐบาลลดน้อยลงไป การวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อใคร ทางที่ดีแล้วควรที่จะเปิดโอกาสให้แก่รัฐบาลได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะในวันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ได้บริหารงานมาอย่างถูกทางแล้ว โดยจะเห็นได้จากการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา ส่วนในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินของนายกฯ เป็นหลัก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยภายหลังการประชุมถึงการรวบรวมผลงานของรัฐมนตรี ว่า ในที่ประชุมครม. นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการครม. ได้มีการทวงถามเรื่องผลงานของรัฐมนตรี 3 เดือนที่ผ่านมา โดยได้ย้ำให้รัฐมนตรีที่ยังไม่ได้ส่งผลงานมา ให้รีบส่งมาด่วน และส่งไฟล์ผลงานมาด้วย ไม่ให้ส่งมาเป็นเล่มเพียงอย่างเดียว เพื่อที่จะได้เก็บรวบรวมผลงานได้ง่ายขึ้น
ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบผู้สื่อข่าวที่ถามเรื่องปรับครม.จะมีขึ้นในเดือนมกราคมนี้หรือไม่ว่า " เอาไว้ก่อนค่ะ "
