xs
xsm
sm
md
lg

ปูด“พาร์กินสัน”ชักใยวางบึ้ม “บิ๊กอ๊อด”หวั่นป่วนปีใหม่อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (8 ธ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังจากที่เรียก พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รอง ผบ.ตร.เข้าพบถึงความคืบหน้าการสอบสวนการวางระเบิดสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 6ธ.ค.โดยรองนายกฯเคยระบุว่าภายใน 3 วันจะคืบหน้าว่า ตนคุยกับรอง ผบ.ตร.ว่า 3วันนี้จะรู้เค้าโครงว่าใครลงมือ แต่อาจไม่มีหลักฐาน แต่เมื่อรู้เค้าโครงและตนพูดสกัดไปมันก็พอได้ และวันนี้มีคนๆหนึ่งที่เป็นโรคพาร์กินสันที่ยังมีความวุ่นวายทางการเมือง เพราะปากพูดรู้เรื่องแต่มือสั่น รวมทั้งยังหัวดี แต่คิดเรื่องไม่เข้าท่า ขอฝากไปว่าคนๆนี้ไปพักผ่อนเถอะอย่ามายุ่งเลย หากตนยังอยู่ตรงนี้จะไม่ให้ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองและประชาชนไปเที่ยวปีใหม่ให้สบาย อย่าคิดว่าจะมีเหตุเกิดขึ้น มันไม่มีหรอก รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงและสตช.ดูแลได้
“สามวันยังไม่ได้ตัวคนร้าย แต่จะรู้วงแคบว่าคือใครที่ก่อความวุ่นวาย แต่พอพูดแบบนี้ ครม.จะบอกกันว่าผมเป็นสายล่อฟ้าอีก” ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ

** “เหลิม” จวกพวกโรคจิตแพ้ไม่เป็น
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ระบุว่า ช่วงปีใหม่ต้องระวังให้มากขึ้นรองนายกฯกล่าวว่า ตนก็เป็นห่วงเหมือนทุกคน แต่ตนรู้ว่าไม่มีอะไรรุนแรงและประชาชนไม่เอาด้วย สิ่งใดที่ประชาชนไม่เอาด้วยนั้นไม่มีทางสำเร็จหรอก คาดว่าจะมีแค่ก่อความวุ่นวาย เมื่อถามว่ากลุ่มที่ลงมือนั้นเป็นคนมีสีหรือพลเรือน และเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่เป็นฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แน่นอน เพราะหลักการปฏิวัตินั้นใครที่มีเงินคือพวกที่ยังใช้เงินไม่หมด และคนพวกนี้แย่งกันเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆจนแทบจะฆ่ากันตาย
“อย่าไปพูดเรื่องสี ต้องพูดว่าไอ้พวกโรคจิตแพ้ไม่เป็น คนพวกนี้อยู่แถวสุขุมวิท และไปหากินหลัง รสช.เรืองอำนาจ เพราะเงินเก่ายังไม่หมด จึงออกมาเคลื่อนไหว ผมพูดอย่างนี้ได้ยินแล้วคงจะรู้ เมื่อผมรู้แล้วน่าจะเลิกเสีย” รองนายกฯ กล่าว

**ได้เบาะแสจากเด็กเสิร์ฟ
เมื่อถามว่าการพูดแบบนี้เพื่อป้องปรามจะมีหลักฐานจับกุมคนกลุ่มนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนพวกนี้เป็นนักรบไร้ร่องรอยที่ชอบทำให้ปั่นป่วนเล่น ตนขอบอกว่าสมัยก่อนคนพวกนี้ชอบรับประทานอาหารฝรั่งแต่ตอนนี้หันมารับประทานอาหารจีน อย่านึกว่าตนไม่รู้ว่าไปรับประทานกันที่ใด เด็กเสิร์ฟมาเล่าให้ตนฟัง คนระดับมือสั่นที่น่าจะพักผ่อนได้แล้ว แม้แต่ตนที่ตรวจร่างกายแล้วพบว่าไม่เป็นอะไรเลย เพียงแค่หูดับยังเดินขาเป๋ๆนิดยังอยากพักผ่อนเลย คนพวกนี้เจ้าเก่าทั้งนั้นไม่มีเจ้าใหม่เลย ตรวจแถวเมื่อใดก็แถวเดิม
“สิบโมงเช้าคุยกัน เที่ยงกินข้าว บ่ายวาดฝัน วันใดช่วงเย็นที่ว่างก็ไปกินร้านอาหารจีน เด็กเสิร์ฟมาเล่าให้ฟังว่า พวกนี้เมื่อไหร่จะล้มหายตายจากไปเสียที ผมก็บอกไปว่าอย่าไปแช่งเลย หากแช่งจะยิ่งอยู่นาน” รองนายกฯกล่าว

**สับพวกเพ้อเจ้อ ล้ม รบ.ไม่ได้แน่
เมื่อถามว่าแผนล้มรัฐบาลของคนกลุ่มนี้คืออะไร รองนายกฯกล่าวว่า ล้มไม่ได้ เพราะมันเพ้อเจ้อและชอบจุ้นจ้าน เอาสมองส่วนใดมาคิดว่าหากใส่เสื้อแดงไปลงมือใครจะมาเชื่อว่าคนเสื้อแดงวางระเบิด มันง่ายไปหน่อย ไม่มีหรอก ตนย้ำว่าหากรัฐบาลนี้ไม่มีทุจริต อยู่ไปเลยแบบสบายๆ คนมือสั่นพวกนี้มันอกหัก เวลาที่อยู่บนโต๊ะอาหารมีการวางแผนแบ่งงานกันทำ แต่สิ่งที่คิดนั้นมันไม่มีเลย ตนรู้จักดีและทันกับคนพวกนี้
“ดีแล้วที่กกต.ห้ามหาเสียงแบบแอบอ้างไม่อย่างนั้นคนพวกนี้ไม่จบ สิ่งที่รมว.กลาโหมเป็นห่วงนั้นถูกต้อง ตนก็ห่วง แต่มั่นใจว่าไม่มีอะไรรุนแรง เผลอไอ้พวกรุ่มร่ามประชาชนจะจับประชาทัณฑ์นะ ใครที่ประกาศว่าเลือกให้ขาดและเลือกให้ชนะ ขนาดโกงแล้วพรรคเพื่อไทยยังเหลือ265ส.ส.แล้วยังไม่ชนะอีกหรือ หยุดเสียทีพ่อคุณทูลหัว”รองนายกฯกล่าวและว่าคนพวกนี้นั้นตอนเช้าชอบตัดนสพ.มาวิเคราะห์และไม่เคยคิดว่าพรรคเพื่อไทยชนะ ยังไม่เข็ด แพ้แบบนี้ยังไม่เข็ด

** หยันสร้างสถานการณ์ แต่หวั่นป่วนปีใหม่
ขณะที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ตนยังไม่ได้รับรายงาน ทราบแต่ว่ามีการวางระเบิด ซึ่งต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน โดยฝ่ายพิสูจน์ทราบได้เข้าไปดำเนินการแล้ว มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและผู้ที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ขณะนี้รอผลการสอบสวน อย่างไรก็ตามทางทหารไม่ได้ไปมีส่วนสอบสวนด้วย ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อกวนมากกว่า เพราะถ้าเป็นผู้ที่ไม่หวังดีก็จะต้องวางให้มีการระเบิดขึ้น แต่การวางเพื่อให้เห็นว่ามีการวางระเบิดน่าจะสร้างสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการกำชับเข้มงวดอย่างไร เพราะใกล้จะถึงวันปีใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดยาว และก่อนหน้านี้ก็เคยมีการวางระเบิดในช่วงเวลาดังกล่าวสมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดการวางระเบิดในพื้นที่ กทม.ในส่วนของทหารได้มีการกำชับว่าให้มีการระมัดระวังในพื้นที่ที่ตั้งและพื้นที่ที่ทหารรับผิดชอบ

** “บิ๊กอ๊อด” เชื่อยังไม่ถึงขั้นลอบสังหาร
เมื่อถามว่า ปีหน้าสถานการณ์จะมีความรุนแรงหรือไม่ เพราะมีการทำนายว่าจะมีการลอบสังหารบุคคลสำคัญ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่คิดไกลไปถึงขนาดนั้น ซึ่งในช่วงที่ใกล้ถึงปีใหม่และเคยมีสถานการณ์ที่มีการสร้างสถานการณ์ ความรุนแรงให้กับประชาชนที่ออกไปฉลองปีใหม่ ในส่วนของทหารก็ได้มีการสั่งการไปแล้ว อย่างไรก็ตามตนจะสั่งกำชับอีกครั้งในวันประชุมสภากลาโหม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ว่าต้องให้ทุกหน่วยงาน ที่ตั้งของทหารรวมทั้งบริเวณที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ตรวจสอบและระแวดระวังด้วย

**ให้รอดู “เหลิม” ที่ลั่นจับได้ใน 3 วัน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มอำนาจเก่าหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอให้ทางตำรวจสอบสวนและรายงานมาก่อน ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะจับตัวคนร้ายได้ภายใน3วันนั้น ก็ต้องรอตามที่รองนายกฯได้พูดไว้ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมและทางทหารก็รอรายงานอันนี้ เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐานของตำรวจ
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายห่วงว่าจะเป็นสัญญาณบอกว่าบ้านเมืองกำลังจะกลับไปสู่ความวุ่นวายอีกครั้งนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ต้องพิสูจน์ให้ทราบก่อนว่า เป็นใคร กลุ่มไหนที่เป็นผู้ดำเนินการและเราจะสามารถมองสถานภาพได้ว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร รวมทั้งต้นสายปลายเหตุ ตอนนี้ยังมาทราบ ไม่สามารถประมาณการลึกซึ้งขณะนั้นได้
ต่อข้อถามที่ว่า ประชาชนจะสามารถไว้วางใจในความปลอดภัยในชีวิตประจำวันได้อยู่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าความเข้มงวดของการดูแลความเรียบร้อยความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทางทหารก็จะดูแลในเรื่องนี้ด้วย แต่คิดว่าเหตุการณ์คงไม่ถึงกับที่จะทำให้ประชาชนไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน ขอให้สบายใจ
เมื่อถามว่า ทหารกับตำรวจจะร่วมมือกันดูแลเรื่องระเบิดใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เป็นการระเบิดเป็นจุด ตำรวจได้เข้าไปพิสูจน์ทราบและไม่ได้ร้องขอมาทางทหารให้เข้าไปร่วม จะปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจ ทหารยังไม่ได้ใช้กรมสรรพาวุธ ซึ่งตำรวจมีความสามารถดำเนินการได้

**ตร.ยอมรับตรวจไม่พบตั้งแต่เช้า
อีกด้านที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า การติดตามจับกุมคนร้ายขณะนี้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ร่วมกับกลุ่มงานเก็บกู้ระเบิดและตรวจพิสูจน์หลักฐาน (EOD) โดยมีการเก็บหลักฐานจากรอยนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอจากวัตถุตัวระเบิดและกระเป๋าที่ใส่วัตถุระเบิดแล้ว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ สน.ชนะสงคราม หาพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมไปถึงการรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้โดยรอบด้วย ซึ่งจะมีการประชุมความคืบหน้าของคดีกันอีกครั้งในวันนี้ (9 ธ.ค.) เวลา 14.00 น.
“ส่วนกรณีที่ได้มีข่าวลือออกมาว่าได้พบระเบิดตั้งแต่ช่วงเช้าแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังเพิกเฉย ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบทันทีนั้น ผมยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อทางเรารับทราบเหตุจากชาวต่างชาติคนหนึ่งที่พบกระเป๋าต้องสงสัยนั้นแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับกลุ่มงานเก็บกู้ระเบิดและตรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปทำการตรวจสอบทันที ไม่ได้นิ่งเฉย” พล.ต.ท.วินัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น