“ยุทธศักดิ์” เชื่อรักษา กทม.ชั้นในได้ อุบแผนอพยพไปนอกเมือง

“บิ๊กอ๊อด” เผย หลังหารือนายกฯ ขานรับบัญชาคุ้มกันสถานที่สำคัญ 24 ชม.เชื่อรักษาพื้นที่ กทม.ชั้นในได้ หากประเมินน้ำไม่พลาด อุบแผนอพยพไปนอกเมือง แต่เตรียมเครื่องซี 130 จอดรอที่ดอนเมืองเผื่อฉุกเฉิน ระบุ งดบินประชุม รมต.กลาโหมอาเซียน เหตุห่วงแก้วิกฤต หนุนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เฉพาะพื้นที่ เชื่อทำงานง่ายขึ้น

วันนี้ (21 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม (ศปภ.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุม ศปภ.ร่วมกับกองทัพ ว่า นายกฯได้สั่งการว่า ต่อไปนี้ต้องมีการรายงานประจำวันเกี่ยวกับเหตุฉุกเฉิน และต้องมีหัวข้อระเบียบการรายงาน เพราะที่ผ่านมาอาจไม่ค่อยเป็นระบบเท่าไร

“นายกฯได้ฝากความห่วงใยเกี่ยวกับจุดสำคัญของ กทม.เช่น สถานที่สำคัญอย่างเขตพระราชฐาน โรงพยาบาลศิริราช ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และ โรงไฟฟ้า โดยขอให้มีการตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดูแลอย่างเต็มที่ และถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก ที่จะต้องดูระดับน้ำตลอดเวลา รวมถึงต้องระมัดระวังพนังกั้นน้ำ ซึ่งจะให้พังไม่ได้ เพราะถ้าพังก็จะมีปัญหามาก” รมว.กลาโหม กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินผลกระทบต่อพื้นที่ กทม.ชั้นในอย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงกลาโหมได้ให้กรมชลประทานและหน่วยงานต่างๆ ช่วยกันตรวจสอบและประเมินมวลน้ำอยู่ ถ้าการระบายน้ำดี และมวลน้ำไม่เพิ่ม น้ำในจุดสำคัญต่างๆ ที่จะเข้า กทม.ก็จะลดลง ก็จะทำให้สามารถรักษา กทม.ไว้ได้ และขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้ดำเนินการไปหลายเรื่องแล้วและเสนอที่ประชุมแล้ว ถ้าทำตามแผนที่เสนอในที่ประชุมก็คิดว่าจะรักษา กทม.ไว้ได้ แต่หากบังเอิญมันมีสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นมา เราก็ต้องเตรียมแผนที่จะแก้ปัญหาเฉพาะทั้งเรื่องการเตรียมอพยพต่อไป

เมื่อถามว่า มีแผนในการที่จะอพยพประชาชนไปในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะขณะนี้ทางทหารและมหาดไทยได้เตรียมพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้เตรียมโรงพยาบาลทหาร และทุกส่วนที่จะเข้าไปเสริมไว้เรียบร้อยแล้ว ตลอดจนได้เตรียมเครื่องบินซี 130 ที่ได้ส่งมาช่วยอยู่ 3 ลำและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการขนย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างจังหวัดได้ด้วย ซึ่งขณะนี้เครื่องบิน ซี 130 จอดอยู่ที่ดอนเมืองแล้ว

เมื่อถามว่า เขตพระราชวังได้มีการเตรียมการป้องกันไว้อย่างไร รมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็เป็นสถานที่ที่นายกฯได้สั่งอย่างเป็นกิจจะลักษณะเมื่อเช้านี้ให้ทุกส่วนที่รับผิดชอบ ได้ตรวจตราและตรวจสอบอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ถ้ามีอะไรที่ผิดปกติ ก็ให้รีบรายงาน จะได้ป้องกันได้ทัน ซึ่งทุกหน่วยงานก็เตรียมกันอย่างเต็มที่และทำงานให้เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงวันหยุดยาว 3 วันนี้ จะเป็นช่วงอันตรายที่เราต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า แน่นอน ต้องดูอยู่ตลอดเวลา อย่างตนก็ต้องเลื่อนไปประชุมอาเซียนในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23-24 ต.ค.นี้ โดยให้รองปลัดกระทรวงกลาโหมเดินทางไปประชุมแทน ต้องคิดว่าสถานการณ์ในประเทศไทยสำคัญกว่า เมื่อเปรียบเทียบแล้ว เรื่องของประเทศชาติเราสำคัญกว่า ดังนั้นทั้งตนและ ผบ.ทบ.ก็จะงดการเดินทางไปทั้งคู่

เมื่อถามว่า การทำงานของทหารขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากประชาชนดีหรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ดีมาก โดยเฉพาะที่คลองหลัก 6 ให้ความร่วมมือกับกองทัพดีมาก เมื่อถามต่อว่า หากมีการประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จะทำให้กองทัพทำงานได้ง่ายขึ้นหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า หากมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นจุดๆไป เฉพาะพื้นที่มันก็จะง่ายขึ้น แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ก่อนหน้านี้ จะมีปัญหาเฉพาะบางจุดเท่านั้นที่กองทัพทำงานไม่ได้ หรือทำงานไม่สะดวก แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว