นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2554 มีจำนวน 4.44 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 41.66% ของ GDP เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.จำนวน 176,759.02 ล้านบาท โดยหนี้สาธารณะเดือนก.ย.แบ่งเป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 3.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.67 แสนล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6 พันล้านบาท และ หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 1.56 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3 พันล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 3 หมื่นล้านบาท
สำหรับยอดหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญเกิดจากการออกตั๋วเงินคลัง 1.25 แสนล้านบาท และการออกพันธบัตรเพื่อการบริหารหนี้ 2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดหนี้ต่างประเทศหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.6 พันล้านบาท แต่หากคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐจะลดลง 0.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.6 พันล้านบาท แต่หากคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐจะลดลงสุทธิ 0.76 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐการกู้เงินในประเทศของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2554 กระทรวงการคลังได้กู้เงินให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้ต่อ จำนวน 533.62 ล้านบาทผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ได้กู้เงินในประเทศเป็นจำนวน 853.66 ล้านบาท
ขณะที่ในส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ กระทรวงการคลังได้แปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษจำนวน 13.74 ล้านบาท และมีการกู้เงินล่วงหน้า (Prefunding) เพื่อชำระพันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 1) จำนวน 39,000 ล้านบาท จะครบกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 2,430 ล้านบาท
สำหรับการชำระหนี้ของรัฐบาลกระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 1.29 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 4.2 พันล้านบาทชำระหนี้ในประเทศ 3.,591.87 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย 3,591.87 ล้านบาท ชำระหนี้ต่างประเทศ 620.61 ล้านบาท การชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินนอกงบประมาณกระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยใช้เงินคงคลัง จำนวน 125,691 ล้านบาทเพื่อไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง
สำหรับยอดหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญเกิดจากการออกตั๋วเงินคลัง 1.25 แสนล้านบาท และการออกพันธบัตรเพื่อการบริหารหนี้ 2.7 หมื่นล้านบาท ส่วนยอดหนี้ต่างประเทศหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรงเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 1.6 พันล้านบาท แต่หากคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐจะลดลง 0.90 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากผลจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 1.6 พันล้านบาท แต่หากคิดในรูปเงินเหรียญสหรัฐจะลดลงสุทธิ 0.76 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ ผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐการกู้เงินในประเทศของรัฐบาลในเดือนตุลาคม 2554 กระทรวงการคลังได้กู้เงินให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยกู้ต่อ จำนวน 533.62 ล้านบาทผลการกู้เงินในประเทศของรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ได้กู้เงินในประเทศเป็นจำนวน 853.66 ล้านบาท
ขณะที่ในส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศ กระทรวงการคลังได้แปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาลเพื่อรายย่อยพิเศษจำนวน 13.74 ล้านบาท และมีการกู้เงินล่วงหน้า (Prefunding) เพื่อชำระพันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่สอง (FIDF 1) จำนวน 39,000 ล้านบาท จะครบกำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ทั้งนี้ ในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ ได้ปรับโครงสร้างหนี้ในประเทศเป็นเงิน 2,430 ล้านบาท
สำหรับการชำระหนี้ของรัฐบาลกระทรวงการคลังได้ชำระหนี้เป็นเงิน จำนวน 1.29 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณ รวม 4.2 พันล้านบาทชำระหนี้ในประเทศ 3.,591.87 ล้านบาท โดยเป็นการชำระดอกเบี้ย 3,591.87 ล้านบาท ชำระหนี้ต่างประเทศ 620.61 ล้านบาท การชำระหนี้ของรัฐบาลจากเงินนอกงบประมาณกระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยใช้เงินคงคลัง จำนวน 125,691 ล้านบาทเพื่อไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง