ไทยประกันชีวิตโชว์ครึ่งปีกวาดเบี้ยรับรวม 1.7 หมื่นล้าน มั่นใจทั้งปีเป็นไปตามเป้า หลังสินค้าที่ออกโดนใจลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันล่าสุดเตรียมปล่อยโฆษณา กระตุ้นคนไทยดูแลคนที่รัก ด้วยสินค้าใหม่ครอบคลุมอุบัติเหตุผู้สูงอายุ ด้านกลุ่มบริษัทเอไอเอ เผยผลประกอบการ 6 เดือน ทำลายสถิติ กำไรสุทธิ 1,314 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 24% โชวปันผลครั้งแรก 11 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีของบริษัทสามารถทำเบี้ยประกันรับได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยสามารถผลิตเบี้ยประกันรับที่เกิดจากธุรกิจใหม่ 4,043 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% เบี้ยประกันรับปีต่อไป 13,130 ล้านบาท เบี้ยประกันรับรวม 17,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13%
ทั้งนี้ ผลงานเบี้ยประกันรับที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากบุคลากรฝ่ายขายซึ่งเป็นช่องทางการขายหลักของบริษัทฯ สามารถผลิตผลงานได้ดีเกินกว่าเป้าหมายทุกเดือนตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและประสิทธิภาพของบุคลากรฝ่ายขายที่ต้องแข่งขันกับช่องทางการขายใหม่ๆ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีเป้าหมายเบี้ยประกันรับปีแรกในปีนี้จะเป็นไปตามที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ แบบประกัน P.A.Refund ประกันอุบัติเหตุที่คืนเบี้ยประกันปีสุดท้าย กรณีไม่มีการเคลมสินไหมติดต่อกันสามปี พร้อมเพิ่มความคุ้มครองกรณีจลาจล ก่อการร้าย ซึ่งนับเป็นแบบประกันที่ตรงใจผู้ซื้อ
นายไชย กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ไทยประกันชีวิตพร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Silence of Love” ซึ่งภาพยนตร์ยังสะท้อนแง่คิดสำหรับการดูแลคนที่รักและห่วงใยเรา โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อและแม่ ซึ่งการสร้างหลักประกันที่มั่นคงด้วยการประกันชีวิต ถือเป็นการดูแลที่ดีอีกแนวทางหนึ่ง ไทยประกันชีวิตจึงได้เสนอแบบประกันที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ๒ แบบ ได้แก่ แบบประกัน P.A Broken Bone Advance แบบประกันที่ให้สวัสดิการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงผู้สูงอายุ
ส่วนอีกหนึ่งแบบ คือ แบบประกันธนทวี๑ 10/5 แบบประกันออมทรัพย์ที่คุ้มครอง 10 ปี ชำระเบี้ยประกันเพียง 5 ปี ระหว่างสัญญามีเงินคืนทุกปีๆละ 10%ครบสัญญาได้รับเงินคืน 500% ขณะเดียวกันยังคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 500%
“เชื่อว่ากรมธรรม์ทั้งสองแบบ จะเป็นกรมธรรม์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งลูกหรือคุณพ่อคุณแม่ เพราะให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ซึ่งผู้สูงอายุมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมถึงการออมเงินเพื่อเป็นเงินก้อนสำหรับการเกษียณอายุหรือใช้ในยามฉุกเฉินได้”นายไชยกล่าว
กลุ่มเอไอเอโชว์ผลงานทำลายสถิติ
ด้านกลุ่มบริษัทเอไอเอ กลุ่มบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ประกาศผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 ด้วยมูลค่าของธุรกิจใหม่ (Value of New Business-VONB) ที่ 399 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโต 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าของกรมธรรม์ประกันชีวิตและส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ในปัจจุบัน (Embedded Value) ที่ 27,394 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11% และมีเบี้ยประกันภัยรับรายปีสำหรับธุรกิจใหม่ (Annualised New Premium) ที่ 1,094 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเติบโต 23% สำหรับอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 36%
ตามมาตรฐานการบัญชี IFRS กลุ่มบริษัทเอไอเอมีกำไรสุทธิ 1,314 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 8% หรือคิดเป็น 967 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มร.มาร์ค ทักเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่เห็นได้จากตัววัดผลทางการเงินทุกด้านแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการดำเนินกลยุทธในการขยายความเติบโตที่เอไอเอดำเนินการอยู่ และจะยังคงมีผลต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน ผลประกอบการที่ทำลายสถิติของเอไอเอในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลุ่มบริษัทในทั่วภูมิภาคในการสร้างตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพและกระตุ้นผลผลิตของตัวแทนประกันชีวิตเหล่านั้น การมุ่งเน้นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการออมและความคุ้มครองชีวิต การรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการเสริมสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับธนาคารที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ เอไอเอได้ประกาศจ่ายปันผลครั้งแรกนับจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 11 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น
นายไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีของบริษัทสามารถทำเบี้ยประกันรับได้เกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยสามารถผลิตเบี้ยประกันรับที่เกิดจากธุรกิจใหม่ 4,043 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% เบี้ยประกันรับปีต่อไป 13,130 ล้านบาท เบี้ยประกันรับรวม 17,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 13%
ทั้งนี้ ผลงานเบี้ยประกันรับที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว เป็นผลมาจากบุคลากรฝ่ายขายซึ่งเป็นช่องทางการขายหลักของบริษัทฯ สามารถผลิตผลงานได้ดีเกินกว่าเป้าหมายทุกเดือนตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและประสิทธิภาพของบุคลากรฝ่ายขายที่ต้องแข่งขันกับช่องทางการขายใหม่ๆ ทั้งนี้คาดว่าสิ้นปีเป้าหมายเบี้ยประกันรับปีแรกในปีนี้จะเป็นไปตามที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อาทิ แบบประกัน P.A.Refund ประกันอุบัติเหตุที่คืนเบี้ยประกันปีสุดท้าย กรณีไม่มีการเคลมสินไหมติดต่อกันสามปี พร้อมเพิ่มความคุ้มครองกรณีจลาจล ก่อการร้าย ซึ่งนับเป็นแบบประกันที่ตรงใจผู้ซื้อ
นายไชย กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป ไทยประกันชีวิตพร้อมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ “Silence of Love” ซึ่งภาพยนตร์ยังสะท้อนแง่คิดสำหรับการดูแลคนที่รักและห่วงใยเรา โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อและแม่ ซึ่งการสร้างหลักประกันที่มั่นคงด้วยการประกันชีวิต ถือเป็นการดูแลที่ดีอีกแนวทางหนึ่ง ไทยประกันชีวิตจึงได้เสนอแบบประกันที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ๒ แบบ ได้แก่ แบบประกัน P.A Broken Bone Advance แบบประกันที่ให้สวัสดิการความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองครอบคลุมถึงผู้สูงอายุ
ส่วนอีกหนึ่งแบบ คือ แบบประกันธนทวี๑ 10/5 แบบประกันออมทรัพย์ที่คุ้มครอง 10 ปี ชำระเบี้ยประกันเพียง 5 ปี ระหว่างสัญญามีเงินคืนทุกปีๆละ 10%ครบสัญญาได้รับเงินคืน 500% ขณะเดียวกันยังคุ้มครองชีวิตเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 500%
“เชื่อว่ากรมธรรม์ทั้งสองแบบ จะเป็นกรมธรรม์ที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทั้งลูกหรือคุณพ่อคุณแม่ เพราะให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ซึ่งผู้สูงอายุมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมถึงการออมเงินเพื่อเป็นเงินก้อนสำหรับการเกษียณอายุหรือใช้ในยามฉุกเฉินได้”นายไชยกล่าว
กลุ่มเอไอเอโชว์ผลงานทำลายสถิติ
ด้านกลุ่มบริษัทเอไอเอ กลุ่มบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ประกาศผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปีสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 ด้วยมูลค่าของธุรกิจใหม่ (Value of New Business-VONB) ที่ 399 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เติบโต 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมูลค่าของกรมธรรม์ประกันชีวิตและส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ในปัจจุบัน (Embedded Value) ที่ 27,394 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 11% และมีเบี้ยประกันภัยรับรายปีสำหรับธุรกิจใหม่ (Annualised New Premium) ที่ 1,094 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเติบโต 23% สำหรับอัตรากำไรของมูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB margin) เพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 36%
ตามมาตรฐานการบัญชี IFRS กลุ่มบริษัทเอไอเอมีกำไรสุทธิ 1,314 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีเพิ่มขึ้น 8% หรือคิดเป็น 967 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
มร.มาร์ค ทักเกอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทเอไอเอ กล่าวว่า ผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่เห็นได้จากตัววัดผลทางการเงินทุกด้านแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในการดำเนินกลยุทธในการขยายความเติบโตที่เอไอเอดำเนินการอยู่ และจะยังคงมีผลต่อความสำเร็จอย่างต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกัน ผลประกอบการที่ทำลายสถิติของเอไอเอในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลุ่มบริษัทในทั่วภูมิภาคในการสร้างตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพและกระตุ้นผลผลิตของตัวแทนประกันชีวิตเหล่านั้น การมุ่งเน้นในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านการออมและความคุ้มครองชีวิต การรักษาฐานลูกค้าเดิมด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า รวมทั้งการเสริมสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับธนาคารที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ เอไอเอได้ประกาศจ่ายปันผลครั้งแรกนับจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 11 เซ็นต์ฮ่องกงต่อหุ้น